ฟาบิโอ ออเรลิโอ นักเตะบราซิลคนแรกของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่ ราฟา เบนิเตซ ดึงตัวมาจากบาเลนเซียในเดือนกรกฏาคม 2006 และเกือบจะกลายเป็น อดีตนักเตะแต่ก็มีโชคจนได้เซ็นสัญญากลับมาอีกครั้ง

ออเรลิโอ เริ่มต้นอาชีพการค้าแข้งของตัวเองกับ เซา เปาโล ในบ้านเกิดบราซิล โดยได้ลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ของ เซา เปาโล นัดแรกในปี 1997 และ ตลอดการ เล่น 4 ปีที่นี่เขาคว้าแชมป์ประจำรัฐร่วมกับทีมไป 2 สมัย โดยรับใช้ทีมไป ทั้งหมด 79 เกมทำไป 4 ประตู

ออเรลิโอติดทีมชาติบราซิล ยู 17 และ ยู 20 รวมถึงมีชื่อติดทีมชาติบราซิลไปเล่น ในฟุตบอลโอลิมปิก 2000 ที่ซิดนีย์ด้วย

หลังจากจบโอลิมเกมส์ เขาก็ได้เซ็นสัญญา 6 ปีย้ายไปอยู่กับ บาเลนเซีย ในยุค ของ เอคตอร์ คูเปร์ แต่มาคว้าแชมป์ลาลีกา สเปน ร่วมกับบาเลนเซีย ซึ่งถือเป็น แชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 31 ปีของ สโมสร ภายใต้การคุมทีมของ ราฟา เบนิเตซ

ในฤดูกาลต่อมา ออเรลิโอ สร้างชื่อให้กับตัวเองเพิ่มขึ้นด้วยฟอร์มการทำประตู ที่โดดเด่นแม้ว่า จะเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้าย โดยเขายิงให้ทีมค้างคาวไปทั้งหมด 10 ประตูจากทุกถ้วย โดยเป็น 8 ประตูที่ทำได้ในเกมลาลีกา

ฤดูกาล 2003-04 เป็นฤดูกาลที่ยิ่งใหญ่ของ บาเลนเซีย อีกครั้ง เมื่อพวกเขาคว้า แชมป์ลาลีกา สเปน ได้เป็นสมัยที่ 2 พร้อมกับคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ ในเกมที่เอาชนะ โอลิมปิก มาร์กเซย์ 2-0 อย่างไรก็ตามในฤดูกาลนั้นกลับไม่ใช่ฤดูกาลที่ดีของ ออเรลิโอ เลย เพราะเขาประสบกับ อาการบาดเจ็บถึงขั้น ขาหักต้องพักยาว และ ได้มีส่วนร่วมกับทีมไปเพียงแค่ 2 เกมเท่านั้น

พอหายเจ็บกลับมา ออเรลิโอ ก็สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมคืนกลับมาได้ เขาถือเป็นนักเตะที่มีการเปิดบอลที่ยอดเยี่ยม และ มีการยิงฟรีคิกที่เฉียบคมคนนึง ของวงการฟุตบอลสเปนเลย

ออเรลิโอ อยู่จนครบสัญญากับบาเลนเซีย เขาปฏิเสธที่จะต่อสัญญาในถิ่น เมสตาย่า และเลือกที่จะย้ายตัวเองตาม ราฟา เบนิเตซ มายังถิ่นแอนฟิลด์ ทันที ที่ได้รับการทาบทามจากนายเก่า ที่ล่วงหน้ามารับงานคุมทีมหงส์แดงเมื่อ 2 ปีก่อน หน้านั้น

ออเรลิโอ ย้ายมาอยู่กับลิเวอร์พูลด้วยกฏบอสแมน ซึ่งทำให้เขาไม่มีค่าตัวในการ ย้ายทีม โดยเขาถูกส่งลงสนามเป็นนัดแรกให้ทีมใหม่ในเกมคอมมูนิตี้ ชีลด์ ที่ชนะ เชลซี จากนั้นเขาก็กลายเป็นตัวเลือกแรกที่บอสชาวสเปนชื่นชอบใช้งาน

อย่างไรก็ตามในเกมรอบรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกกับ พีเอสวี ไฮน์โอเฟ่น เมื่อ 3 เมษายน 2007 ออเรลิโอมาได้รับบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวาย ทำให้ต้องพัก รักษาตัวยาวไปทั้งฤดูกาล ทำให้ในฤดูกาลแรกของเขากับลิเวอร์พูลมีสถิติหยุดอยู่ ที่ 25 เกมเท่านั้น

ออเรลิโอ คืนสนามกลับมาอีกครั้งในฤดูกาลต่อมา โดยเขาถูกส่งลงไปเรียก ความฟิตในเกมเสมอกับ ปอร์โต้ 1-1 ในเดือนกันยายน 2007

ออเรลิโอ มาทำประตูแรกในสีเสื้อลิเวอร์พูลได้สำเร็จในเดือนมีนาคม 2008 ซึ่งเป็นเกมที่ชนะ โบลตัน 3-1 ที่รีบ็อก สเตเดี้ยมจากลูกวอลเลย์อย่างสุดสวยที่ ซาบี้ อลอนโซ่ เปิดมาให้ และก็มาทำประตูสำคัญได้อีกครั้งจากลูกยิงฟรีคิกใส่ ปอร์ทสมัธ ช่วยให้ทีมพลิกกลับมาชนะ 3-2 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2009

ออเรลิโอ เหมือนจะกลับมาแจ้งเกิดได้อย่างจริงจังในถิ่นแอนฟิลด์ แต่ยามได้เล่น อย่างต่อเนื่อง ก็มีอันต้องสะดุดไปอีกรอบเพราะอาการบาดเจ็บจนทำให้พักยาว จากการปะทะกับ โจ โคล ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พบกับ เชลซี

ในช่วงซัมเมอร์ 2009 นี่เอง ขณะที่ออเรลิโอหายเจ็บ และ กำลังจะกลับมาซ้อม ปรีซีซั่นนั้น เขาก็มาได้รับบาดเจ็บแบบไม่คาดฝันซ้ำอีกขณะที่เตะฟุตบอลกับลูกๆ ที่สนามหน้าบ้าน จนกว่าจะกลับมาลงสนามอย่างจริงๆ ได้ก็ปาไปเกือบกลาง ฤดูกาลแล้ว

ออเรลิโอ โชคร้ายมักจะต้องเข้าๆ ออกๆ ทีมอยู่ตลอดเวลาเพราะอาการบาดเจ็บ จนทำให้ในช่วงปลายฤดูกาล 2009-10 ราฟา เบนิเตซ เผยว่า ออเรลิโอได้ปฏิเสธ การต่อสัญญาแบบรับเงินค่าเหนื่อยนัดต่อนัด และ นั่นทำให้เขาหมดสัญญา และ ต้องอำลาถิ่นแอนฟิลด์ไปเมื่อฤดูกาลจบลง

ในช่วงหมดฤดูกาลนี่เอง ทางตัวแทนของ ออเรลิโอ ก็ทำงานอย่างหนักที่จะหา สโมสรใหม่ให้ แต่ไปๆ มาๆ รอย ฮอดจ์สัน เข้ามาคุมทีมลิเวอร์พูล ซึ่งทีมหงส์แดง นั้นขาดแคลน แบ็คซ้ายอย่างหนักทำให้ ฮอดจ์สัน เลือกที่จะไปเซ็นสัญญากับ ออเรลิโอ กลับมาอีกครั้ง ซึ่งทางดาวเตะบราซิเลียนเองก็ไม่ติดปัญหาอะไร เพราะ ตัวเขาเองนั้นอยากค้าแข้งอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ต่อไปอยู่แล้ว

ออเรลิโอ ขอเปลี่ยนหมายเลขเสื้อจาก 12 มาเป็น หมายเลข 6 โดยเขาหวังว่า การทำเช่นนี้จะเป็นการช่วยให้เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ในถิ่น แอนฟิลด์ โดยปราศ จากอาการบาดเจ็บรบกวน

แต่ก็เหมือนโชคร้ายยังตามมาหลอกหลอน กว่าที่ ออเรลิโอ จะเรียกความฟิต กลับมาพร้อมลงสนามก็ปาไปเกือบจะปีใหม่แล้ว แค่นั้นยังไม่พอ ยามเขาฟิต กลับมาลงสนามและกำลังทำผลงานได้ดี ก็ต้องเจอกับอาการบาดเจ็บมารบกวน อยู่เรื่อยไป ทำให้ในฤดูกาลที่ผ่านมา ทั้ง รอย ฮอดจ์สัน และ เคนนี่ ดัลกลิช ได้ใช้งานเขาลงสนามรวมกันเพียงแค่ 21 เกมเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ดัลกลิช ยังมอง ออเรลิโอ เป็นนักเตะคนสำคัญหากเรียกความฟิต กลับมาได้ นั่นเพราะเขาถือเป็นนักเตะที่เล่นได้คงเส้นคงวาไม่ว่าจะเป็นในตำแหน่ง แบ็คซ้าย, ปีกซ้าย หรือแม้กระทั่งกองกลางที่ ดัลกลิช เคยใช้งานเขามาแล้วและ ก็ชื่นชอบไม่น้อยเพราะการจ่ายบอลที่เป็นประโยชน์

สำหรับเส้นทางทีมชาติชุดใหญ่นั้น ออเรลิโอ เคยถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติบราซิล ชุดใหญ่ในปี 2009 มาแล้ว ในเกมพบกับ โอมาน แต่ก็เพราะอาการบาดเจ็บเจ้าเก่า ที่ทำให้เขาต้องถอนตัว ก่อนจะมีโอกาสได้หมวกทีมชาติใบแรกไปสวมใส่