เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กัปตันทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ออกมาเปิดใจหลังเกมบุกพ่าย “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-3 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยยอมรับว่านี่เป็นความพ่ายแพ้ที่เจ็บปวดสำหรับทีม พร้อมชี้ว่าลิเวอร์พูลยังต้องปรับปรุงเรื่องความคงเส้นคงวาและการเล่นเป็นทีมให้ดีกว่านี้ ขณะเดียวกันเจ้าตัวยังกล่าวด้วยว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดถึงจังหวะประตูที่ถูกวีเออาร์ริบคืนในเกมนี้อีกต่อไป

ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายพ่ายต่อ ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไปขาดลอยในเกมนี้

“ครึ่งแรกค่อนข้างยาก พวกเขาครองบอลได้ดีกว่า โดยเฉพาะการปรับแท็กติกให้แนวรับแน่นขึ้น แบร์นาร์โด้ ซิลวา ถอยลงมาช่วยเกม ทำให้แนวรุกของเรากดดันได้ยากขึ้น ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่คิดว่าพวกเขาอันตรายมากนัก” ฟาน ไดค์ ให้สัมภาษณ์หลังเกม

“(เจเรมี่) โดกู เล่นได้ยอดเยี่ยมจริงๆ การดวลตัวต่อตัวเป็นเรื่องยากสำหรับ คอเนอร์ แบรดลีย์ เราน่าจะทำได้ดีกว่านี้ โดยเฉพาะในเรื่องของการครองบอล ส่วนจังหวะจุดโทษและการตัดสินต่างๆ ก็ทำให้โมเมนตัมเอนเอียงไปทางพวกเขา”

“ครึ่งหลังเราครองบอลได้มากขึ้น แต่การเพรสซิ่งยังไม่ดีพอ วิธีที่เราเล่นในฐานะทีมควรดีกว่านี้แน่นอน”

“อย่างที่ผมเคยพูดไว้ก่อนเกม สิ่งสำคัญคือความคงเส้นคงวาและการเดินหน้าต่อไป ความพ่ายแพ้ย่อมเจ็บปวด โดยเฉพาะเมื่อแพ้ถึง 0-3 ตอนนี้เราต้องกลับไปโฟกัสกับทีมชาติ รักษาความฟิต และเตรียมพร้อมสำหรับโปรแกรมสำคัญหลังจากนี้”

นอกจากนี้ดาวเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ กล่าวถึงจังหวะที่ทีมถูก VAR ริบประตูตีเสมอในครึ่งแรกว่า

"ในวงการฟุตบอล แน่นอนว่าต้องมีการตัดสินใจสำคัญๆ เกิดขึ้น และกรรมการก็เป็นคนตัดสิน และเราต้องรับมือเรื่องนี้ในสนาม ทั้งสองทีม"

"ผมคิดว่าไม่มีประโยชน์ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ในมุมมองของผม ความจริงคือเราแพ้ที่นี่ 0-3 และนั่นเป็นความเสียหายครั้งใหญ่แน่นอน"