แม้ฟอร์มของ ลิเวอร์พูล จะไม่โดดเด่นนักในช่วงต้นฤดูกาลนี้ แต่ก็ยังมีนักเตะจากทีมชุดใหญ่ถึง 17 ราย ที่ถูกเรียกตัวติดทีมชาติสำหรับช่วง ฟีฟ่า เดย์ เดือนพฤศจิกายน ซึ่งถือเป็นการพักเบรกทีมชาติครั้งสุดท้ายของปี 2025
อลีสซง เบ็คเกอร์, โจวานนี่ เลโอนี่ และ เจเรมี่ ฟริมปง จะพลาดโอกาสร่วมทีมชาติเนื่องจากอยู่ระหว่างการรักษาอาการบาดเจ็บ ส่วน เคอร์ติส โจนส์, เฟเดริโก้ เคียซ่า, โจ โกเมซ, เฟร็ดดี้ วู้ดแมน และ วิเตซสลาฟ ยารอส (ซึ่งอยู่ระหว่างยืมตัวกับอาแจ็กซ์) ไม่มีชื่อในทีมชาติชุดล่าสุด
สำหรับ 17 แข้ง หงส์แดง ที่มีชื่อรับใช้ชาติ ได้แก่
เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, ไรอัน กราเฟนแบร์ก, และ โกดี้ คักโป ตัวหลักทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เตรียมลงเล่นฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก พบ โปแลนด์ (14 พ.ย.) และ ลิทัวเนีย (17 พ.ย.)
อิบราฮิม่า โกนาเต้ และ อูโก้ เอกิติเก้ มีคิวช่วยฝรั่งเศสในเกมคัดบอลโลกกับ ยูเครน (13 พ.ย.) และ อาเซอร์ไบจาน (16 พ.ย.)
โดมินิค โซโบซไล และ มิลอส เคอร์เคซ ลุ้นพาฮังการีคว้าตั๋วรอบสุดท้าย โดยจะเจอกับ อาร์เมเนีย (13 พ.ย.) และ สาธารณรัฐไอร์แลนด์ (16 พ.ย.)
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เดินทางร่วมทีมชาติอาร์เจนตินาในเกมอุ่นเครื่องกับ แองโกล่า (14 พ.ย.) หลังทีมผ่านเข้ารอบสุดท้ายแล้ว
วาตารุ เอ็นโด ร่วมทีมชาติญี่ปุ่นในเกมอุ่นเกือกพบ กานา (14 พ.ย.) และ โบลิเวีย (18 พ.ย.)
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะเข้าแคมป์เก็บตัวกับอียิปต์ที่ดูไบ และลงอุ่นเครื่องพบ อุซเบกิสถาน (14 พ.ย.)
จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ (จอร์เจีย), แอนดี้ โรเบิร์ตสัน (สกอตแลนด์), ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ (เยอรมนี) และ คอนอร์ แบรดลี่ย์ (ไอร์แลนด์เหนือ) ต่างยังมีลุ้นพาทีมผ่านเข้ารอบสุดท้าย หรืออย่างน้อยได้สิทธิ์ไปเพลย์ออฟ
อเล็กซานเดอร์ อีซัค กองหน้าชาวสวีเดนที่เพิ่งหายเจ็บ ถูกเรียกกลับมาช่วยทีมในเกมคัดบอลโลกกับ สวิตเซอร์แลนด์ (15 พ.ย.) และ สโลเวเนีย (18 พ.ย.)
ปิดท้ายด้วยสองดาวรุ่ง เทรย์ เอ็นโยนี่ และ ริโอ เอ็นกูโมฮา ที่มีชื่อในทีมชาติอังกฤษชุดยู-19 ลงเล่นรอบคัดเลือกศึกยูโร ยู-19 พบ ลิทัวเนีย (12 พ.ย.), ลัตเวีย (15 พ.ย.) และ สกอตแลนด์ (18 พ.ย.)
ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เหล่าแข้งลิเวอร์พูลจะได้งัดฟอร์มเก่งเพื่อประเทศ พร้อมหวังนำแรงบันดาลใจกลับมาช่วย หงส์แดง ฟื้นคืนฟอร์มในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล