อูโก้ เอกิติเก้ กองหน้าลิเวอร์พูล ยอมรับตรงไปตรงมาว่า เกมบุกเฉือนชนะ สเปอร์ส 2-1 ที่ลอนดอน ไม่ต่างจากสงคราม หลังต้องเผชิญกับความดุเดือดเกินขอบเขตฟุตบอล จนเจ้าบ้านโดนใบแดงถึง 2 คน และเกมเต็มไปด้วยจังหวะปะทะรุนแรง

แมตช์ดังกล่าว ลิเวอร์พูลได้ประตูจาก เอกิติเก้ และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ซึ่งเป็นคนปลดล็อกสกอร์ในนาทีที่ 56 ก่อนจะโชคร้ายได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า จากจังหวะปะทะกับ มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน จนต้องเปลี่ยนตัวออกในเวลาต่อมา

เกมครึ่งแรกแทบไม่มีจังหวะหวาดเสียว นอกจากเหตุการณ์สำคัญเมื่อ ชาบี ซิมอนส์ เข้าบอลอันตรายใส่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ จนโดนใบแดงโดยตรง ส่งให้สเปอร์สต้องเล่นด้วยผู้เล่น 10 คนตั้งแต่ช่วงต้นเกม

ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลมาได้ประตูเพิ่มจากลูกโหม่งลอยของ เอกิติเก้ ขยับหนีเป็น 2-0 ก่อนที่สถานการณ์จะตึงเครียดเมื่อ ริชาร์ลิซอน ยิงไล่มาเป็น 2-1 ในนาทีที่ 83 แม้สเปอร์สจะพยายามโหมบุกทั้งที่ตัวน้อยกว่า แต่สุดท้ายต้องเหลือ 9 คน เมื่อ คริสเตียน โรเมโร่ โดนใบเหลืองที่สองไล่ออกจากสนาม

หลังเกม เอกิติเก้ เปิดใจว่าเกมนี้ไม่ใช่ฟุตบอลตามปกติ

“มันเป็นเกมที่ใช้ร่างกายหนักมาก มีการปะทะกันเยอะเกินไป บางจังหวะมันแย่ นั่นไม่ใช่ฟุตบอลเลยมันเหมือนสงคราม แต่เราชนะสงครามนี้”

ชัยชนะนัดนี้ส่งให้ ลิเวอร์พูลคว้าชัย 3 เกมติดต่อกันในทุกรายการ และขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 5 ของตารางพรีเมียร์ลีก แม้ต้องแลกด้วยการเสีย อิซัค จากอาการบาดเจ็บก็ตาม