����� เดยัน ลอฟเรน กองหลัง เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สโมสรในศึก รัสเซียน พรีเมียร์ลีก ยืนยันว่าตนตั้งใจศอกใส่ เซร์คิโอ รามอส ปราการหลัง เรอัล มาดริด ตอนที่เจอกันในเกมทีมชาติเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2018 จริงๆ เพราะตั้งใจจะเอาคืนที่ รามอส ทำให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เพื่อนร่วมทีม ลิเวอร์พูล ของเขาในตอนนั้นได้รับบาดเจ็บ

��� ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2017-18 นัดชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ปี 2018 นั้น รามอส จุดประเด็นร้อนขึ้นเมื่อในช่วงหนึ่งเขาเบียดกับ ซาลาห์ โดยที่ล็อกแขนของปีกชาวอียิปต์เอาไว้ด้วย ก่อนที่จะล้มลงไปจนกลายเป็นการลาก ซาลาห์ ลงไปพร้อมกับเขา ซึ่งมันก็ทำให้ ซาลาห์ กระแทกกับพื้นสนาม และมีอาการไหล่เคลื่อนจนเล่นต่อไม่ไหวและต้องโดนเปลี่ยนตัวออกจากสนามในนาทีที่ 31

��� หลายคนมองว่านั่นเป็นจุดเปลี่ยนของเกมจนทำให้ มาดริด ชนะไป 3-1 เพราะก่อนหน้าที่ ซาลาห์ จะได้รับบาดเจ็บนั้น รูปเกมของ ลิเวอร์พูล ถือว่าดูดีพอตัว และทำให้บางส่วนมองว่า รามอส ตั้งใจทำให้ ซาลาห์ ได้รับบาดเจ็บ โดยในภายหลังดาวเตะชาวสแปนิชชี้แจงว่ามันเป็นเพียงอุบัติเหตุเท่านั้น โดยในนัดชิงชนะเลิศวันนั้น ลอฟเรน ก็ลงเป็นตัวจริงให้ฝั่ง ลิเวอร์พูล ด้วย

��� ทั้งนี้ ในปี 2018 โครเอเชีย ของ ลอฟเรน กับ สเปน ของ รามอส ถูกจับให้อยู่ใน ลีก เอ กลุ่ม 4 ของศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2018-19 ซึ่งในนัดแรกที่ โครเอเชีย กับ สเปน เจอกันในช่วงเดือนกันยายนนั้น ลอฟเรน ไม่ได้ลงเล่นก่อนที่ โครเอเชีย จะแพ้แบบขาดลอย 0-6 ส่วนในนัดสองที่เตะกันช่วงเดือนพฤศจิกายนของปี 2018 ลอฟเรน ได้ลงสนาม และวันนั้น โครเอเชีย ชนะไป 3-2

��� อย่างไรก็ตาม ไฮไลท์จากนัดในเดือนพฤศจิกายน ปี 2018 คือการที่ในช่วงหนึ่ง ลอฟเรน ศอกใส่ รามอส และพอจบเกมไปแล้วเจ้าตัวก็พูดผ่าน อินสตาแกรม ว่าตั้งใจทำอย่างนั้นจริงๆ ด้วยการบอกว่า "ฉันศอกใส่หมอนั่นเต็มๆ เลย ฮ่าๆ! 3-2! ไหนลองปากดีหน่อยสิพวก!" จนทำให้เกิดการพูดถึงกันอย่างมาก โดย ลอฟเรน กับ ซาลาห์ สนิทกันสุดๆ จนถึงขนาดที่รายหลังเสียใจเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่า ลอฟเรน ย้ายไปเล่นกับ เซนิต แล้ว

��� ล่าสุด ลอฟเรน ไปให้สัมภาษณ์กับ ซาด้า เอล บาลัด สถานีโทรทัศน์ของประเทศอียิปต์ ซึ่งช่วงหนึ่งเขาโดนถามถึงกรณีที่ศอกใส่ รามอส ด้วย และเจ้าตัวก็ตอบว่า "ผมตั้งใจอัด รามอส หลังจากที่เขาทำให้ ซาลาห์ เจ็บรึเปล่าน่ะเหรอ ? ก็ใช่น่ะสิ ลูก้า โมดริช พยายามที่จะลดความตึงเครียดระหว่างผมกับ รามอส และเราก็ต้องลงเล่นร่วมกันในเกมที่ทีมชาติโครเอเชียเจอกับ สเปน แต่ผมก็ตั้งใจศอกใส่เขาแล้วบอกเขาว่าตอนนี้มันถือว่าเราหายกันแล้ว"

��� "ผมเคารพ รามอส ในฐานะนักเตะ และเคารพเขาในสิ่งที่เขาทำให้กับทีมของเขา เขาได้แชมป์ไปครองหลายรายการ แต่อีกด้านหนึ่งเขาก็มีพฤติกรรมบางอย่างที่ผมไม่ชอบ และมีพฤติกรรมที่ชอบทำร้ายร่างกายนักฟุตบอลด้วยกัน ที่จริงผมก็ไม่อยากทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่โตหรอกนะ แต่ผมคิดว่าสิ่งที่ รามอส ทำลงไปน่ะ เป็นการตั้งใจทำให้เพื่อนของผมได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นตอนนั้นมันเลยเป็นเวลาที่เขาต้องชดใช้กับสิ่งที่เขาทำลงไป"

��� "ในนัดชิงชนะเลิศของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งนั้นน่ะ ช่วงก่อนที่ ซาลาห์ จะได้รับบาดเจ็บเราเล่นได้เหนือกว่า เรอัล มาดริด เยอะมาก การที่เขาเล่นต่อไม่ไหวมันส่งผลเสียกับเราอย่างมาก หลังจากที่เขาโดนเปลี่ยนตัวออกไปแล้วพวกเขา (มาดริด) ก็เริ่มครองเกมเอาไว้ได้"