������� ริชาร์ด มาสเตอร์ส ประธานบริหาร พรีเมียร์ลีก ประกาศยืนยันเมื่อวันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาว่า พรีเมียร์ลีก ตัดสินใจยกเลิกระบบเพย์-เพอร์-วิว หรือการจ่ายเงินเพื่อชมการแข่งขันตั้งแต่ผ่านช่วงเบรกทีมชาติกลางเดือนนี้ หลังจากเจอเสียงวิจารณ์อย่างหนัก
��� นับตั้งแต่ พรีเมียร์ลีก กลับมาเตะกันตามแผน "โปรเจกต์ รีสตาร์ท" ในฤดูกาลก่อนนั้น ทางสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ให้แฟนบอลได้ชมเกมการแข่งขันทุกนัดอยู่ที่บ้านแบบฟรีๆ เพื่อเป็นการชดเชยที่เหล่าแฟนบอลไม่สามารถเข้าไปชมเกมในสนามได้ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
��� อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เดือนตุลาคม ที่ผ่านมา พรีเมียร์ลีก ถ่ายทอดสดเกมการแข่งขันบางนัดแบบ เพย์-เพอร์-วิว โดยคิดค่าบริการนัดละ 14.95 ปอนด์ (ประมาณ 598 บาท) ซึ่งบรรดานักวิจารณ์และแฟนบอลมองว่าแพงเกินไป ส่งผลให้ พรีเมียร์ลีก ต้องกลับลำในที่สุด
��� มาสเตอร์ส เผยว่า "พวกเราตัดสินใจยกเลิก เพย์-เพอร์-วิว พวกเรารับฟังเสียงความเห็น เราจะเปลี่ยนแปลงทิศทาง และหาวิธีการอื่นในช่วงผ่านล็อกดาวน์, คริสต์มาส และเข้าสู่เดือนมกราคม อย่างไรก็ตาม เวลานี้ผมยังไม่สามารถประกาศได้ว่ามันจะเป็นวิธีแบบไหน"
��� พร้อมกันนี้ มาสเตอร์ส ยังยอมรับว่า คงเป็นไปไม่ได้ที่ พรีเมียร์ลีก จะหันกลับมาเปลี่ยนกฎให้เปลี่ยนตัวนักเตะได้ 5 คนเหมือนในช่วงปลายฤดูกาลที่แล้ว หลังซีซั่นนี้กลับมาเปลี่ยนได้ 3 คน จนกุนซือหลายรายคิดว่า มีส่วนทำให้นักเตะบาดเจ็บกันมากขึ้น