������ ถือเป็นอีกหนึ่งเกมสุดดราม่า หลัง ลิเวอร์พูล ทำ 3 แต้มหลุดมือเมื่อมาเสียจุดโทษในช่วงทดเจ็บ โดน ไบรท์ตัน ตามตีเสมอ 1-1 จากการย้อนดูวีเออาร์ของผู้ตัดสิน แถมมีข่าวร้ายเมื่อต้องสังเวย เจมส์ มิลเนอร์ ที่มีอาการบาดเจ็บไปอีกรายในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา
��� ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2563 ที่สนาม ดิ เอเม็กซ์ คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม เป็นการพบกันระหว่าง ไบรท์ตัน ทีมอันดับ 16 พบ ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูง
��� ไบรท์ตัน ของกุนซือ เกรแฮม พอตเตอร์ เกมนี้ไร้ชื่อของ ทาริก แลมพ์ตี้ย์ กองหลังดาวรุ่งที่ติดโทษแบน โดยแนวรุกส่ง แดนนี่ เวลเบ็ค ลงล่าตาข่ายคู่กับ นีล โมปาย
��� ด้าน ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เกมนี้มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นหลายตำแหน่งโดยเฉพาะแนวรับให้โอกาสสองดาวรุ่งอย่าง นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ที่ลงจับคู่เซ็นเตอร์กับ ฟาบินโญ่ ส่วนแบ็กขวาเป็น เนโก วิลเลี่ยมส์ ขณะที่แนวรุกส่ง ทาคูมิ มินามิโนะ ลงเล่นแทน ซาดิโอ มาเน่ ที่มีชื่อเป็นเพียงตัวสำรอง
��� ครึ่งแรกเริ่มมาเพียง 3 นาที ลิเวอร์พูล เกือบขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ ฟาบินโญ่ วางบอลจากแนวรับให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเดี่ยวก่อนจะซัดด้วยซ้ายแต่บอลยังไม่ตรงกรอบ
��� หลังจากนั้น นาทีที่ 10 เป็นโอกาสของ ไบรท์ตัน ที่เกือบได้ประตูพลิกขึ้นนำเมื่อ นีล โมเปย์ วางบอลทะลุช่องให้ อารอน คอนนอลลี่ หลุดเดี่ยวไปซัดด้วยขวาในเขตโทษ แต่เปิดหน้าเท้ามากไปบอลหลุดเสาไกลออกไปแบบน่าเสียดาย
���� จากนั้น นาที 19 เนโก วิลเลี่ยมส์ ไปสกัดใส่ อารอน คอนนอลลี่ ล้มในเขตโทษผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที แต่ทว่า นีล โมเปย์ ที่รับหน้าที่สังหารยิงหลุดกรอบออกไปแบบน่าผิดหวัง
��� นาทีถัดมา "หงส์แดง" ชวดได้ประตูขึ้นนำแบบน่าเสียดายจากจังหวะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดผ่านมือ แม็ทธิว ไรอัน ส่งบอลตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์แสดงให้เห็นว่าปีกชาวอียิปต์ล้ำหน้าช่วงปลายสตั๊ด
��� ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมยังทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบครึ่แรกเสมอ 0-0
��� ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล จัดการเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรกส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงมาเล่นแทน เจมส์ มิลเนอร์ ในนาที 46
��� ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายขึงบุกใส่ได้มากกว่า แต่เจาะแนวรับเจ้าถิ่นเข้าไปไม่ได้ ก่อนที่ นาที 54 จะโดน แดนนี่ เวลเบ็ค ตัดบอลได้บริเวณกลางสนามแล้วกระชากหลุดไปทางกราบขวาแล้วล็อกเข้าซ้ายแล้วซัดในเขตโทษ แต่ยังไม่ผ่านมือ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ล้มตัวรับสบาย
��� จนกระทั่ง นาที 60 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ดีโอโก้ โชต้า ใช้ความสามารถเฉพาะตัวหนีแนวรับ ไบรท์ตัน แล้วยิงหักข้อเล่นทางในเขตโทษบอลพุ่งเสียบเสาเข้าไปอย่างเหนือชั้น
��� ลิเวอร์พูล ต้องเจอข่าวร้ายอีกครั้งในเกมนี้เมื่อ เจมส์ มิลเนอร์ มีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ก่อนที่จะเป็น เคอร์ติส โจนส์ ลงมาเล่นแทน ในนาที 74
��� จากนั้น "หงส์แดง" ชวดได้ลูกสองจากจังหวะฟรีคิกแล้วเป็น ซาดิโอ มาเน่ ที่โขกเข้าไป ใน นาที 74 แต่ต้องโดนวีเออาร์ริบคืนอีกครั้ง หลังจากกองหน้าชาวเซเนกัลอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าไปก่อน
��� ช่วงทดเจ็บ 90+3 มีดราม่าเกิดขึ้นเมื่อ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ไปวางเท้าเปิดปุ่มใส่ แดนนี่ เวลเบ็ค ในเขตโทษผู้ตัดสินไปเช็กวีเออาร์ ก่อนจะย้อนมาให้จุดโทษกับ ไบรท์ตัน แลวเป็น ปาสกาล กรอส รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ทีมตามตีเสมอ 1-1
��� เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ไบรท์ตัน เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1
���� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
�� ไบรท์ตัน (3-4-1-2) : แม็ทธิว ไรอัน - เบน ไวท์, ลูอิส ดังค์, อดัม เว็บส์เตอร์ - โจเอล เวลท์มัน, อีฟส์ บิสซูม่า, ปาสกาล กรอสส์, โซโลม่อน มาร์ช - อารอน คอนนอลลี่ (อดัม ลัลลาน่า น.63 - อลีเลซ่า ยาห์ฮันบัค น.71) - แดนนี่ เวลเบ็ค, นีล โมเปย์ (เลอันโดร ทรอสซาร์ น.26)
�� ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เนโก วิลเลี่ยมส์ (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.46), ฟาบินโญ่, นาธาเนียล ฟิลลิปส์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - เจมส์ มิลเนอร์ (เคอร์ติส โจนส์ น.74), จอร์จินโย่ ไวนัลจ์ดุม - ดีโอโก้ โชต้า, โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่ - โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ซาดิโอ มาเน่ น.64)