���� แชมป์เก่า ลิเวอร์พูล ไม่พลาดสามแต้มหลังงัดฟอร์มสุดเฉียบไล่ถลุง วูล์ฟแฮมป์ตัน ขาดลอย 4-0 ส่งผลให้ "หงส์แดง" มีแต้มทาบ สเปอร์ส ที่ 24 คะแนนทว่าลูกได้เสียเป็นรองทำให้ลูกทีมของมูรินโญ่นำจ่าฝูงต่ออีกวีก ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
��� เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่สุดท้ายเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมา แชมป์เก่า ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ วูล์ฟแฮมป์ตัน โดยผลงานล่าสุดในลีกนั้น "หงส์แดง" บุกไปเสมอกับ ไบรท์ตัน 1-1 ส่วนทัพ "หมาป่า" บุกไปเอาชนะ อาร์เซน่อล 2-1
��� เจอร์เก้น คล็อปป์ ส่ง ควีวีน เคลเลเฮอร์ ลงเป็นมือหนึ่งแทน อลีสซง ที่บาดเจ็บเป็นเกมที่สองติดต่อกัน แต่เป็นนัดแรกในลีก แนวรุกดร็อป ดีโอโก้ โชต้า เป็นสำรองโดยใช้สามแนวรุกทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่
��� ส่วนทีมเยือนของ วูล์ฟแฮมป์ตัน ชวดใช้งาน ราอูล ฮิมิเนซ ที่ได้รับบาดเจ็บจนพักยาว แนวรุกจัด อดามา ตราโอเร่, ดาเนี่ยล โปรเดนซ์ และเปโดร เนโต้ ช่วยกันล่าตาข่าย
��� เริ่มเกมมาได้แค่ 3 นาทีแรก เนโก วิลเลี่ยม ไปเสียบ เปโดร เนโก้ จนโดนใบเหลือง และจากฟรีคิกนอกกรอบ รูเบน เนเวส ปั่นไปเสาไกลบอลเหินคานออกไปแบบได้เสียว
��� นาที 12 เป็นโอกาสเข้าทำหนแรกของ "หงส์แดง" มาเน่ แทงบอลออกขวาให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ครอสเร็วคืนมาให้ ซาดิโอ มาเน่ ตั้งหัวโขกแต่บอลแรงก่อนเหินหลุดกรอบออกไป
���� "หมาป่า" ได้โอกาสส่องเข้ากรอบหนแรก และเกือบได้ลุ้นขึ้นนำในนาที 17 อดามา ตราโอเร่ เก็บบอลได้ในกรอบก่อนคืนให้ ดาเนี่ยล โปรเดนซ์ บรรจบชิพจะเสียบสามเหลี่ยมเสาไกลอยู่แล้วแต่ ควีวีน เคลเลเฮอร์ โชว์ซูเปอร์เซฟถอยหลังเหินปัดมือเดียวออกหลังไป
��� อีกสามนาทีถัดมา ไอ้หนู เคลเลเฮอร์ ต้องออกแรงอีกหลัง ทัพหมาป่าสวนกลับขึ้นมาทางขวา อดาม่า ตราโอเร่ ครอสมาในกรอบ 6 หลาก่อนโดน เคลเลเฮอร์ พุ่งมาปัดบอลทำลายจังหวะออกข้างหวุดหวิด
��� ทว่า นาที 24 กลายเป็น "หงส์แดง" ที่ชิงขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วางบอลยาวจากเส้นกลางสนามมาหน้าประตู คอเนอร์ คัวดี้ กัปตันของวูล์ฟส์ฯพยายามพักอกให้เพื่อน แต่บอลห่างตัวโดน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ฉกบอลเข้าไปยิงผ่านมือ รุย ปาตริซิโอ เป็นประตูที่ 9 ในซีซั่นนี้ของสตาร์ดังชาวอียิปต์
��� นาที 35 เจ้าบ้านมาได้ลุ้นจากฟรีคิกนอกกรอบกว่า 25 หลา แต่จังหวะนี่ โม ซาลาห์ ปั่นข้ามกำแพงทว่าบอลเบาไปเข้ามือ รุย ปาตริซิโอ
��� นาที 44 ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษแก่ทีมเยือนหลังเห็น มาเน่ เข้าบอลช้ากว่า คอเนอร์ คัวดี้ ที่ชิงเล่นบอลได้ก่อนล้มลงไป ซึ่งแข้งหงส์แดงรุมท้วงเชิ้ตดำว่าเป็นจังหวะพุ่งของ คัวดี้ ก่อนจะเช็กจากทีมงานวีเออาร์ แล้ววิ่งไปดูจอ VAR ข้างสนามปรากฎว่าจังหวะที่ มาเน่ จะเข้าไปสกัดนั้นชักขาออกก่อนไม่มีการปะทะกับตัวของ คัวดี้ แต่อย่างใด ทำให้ เคร็ก พาวสัน กลับคำตัดสินไม่ให้จุดโทษแก่ทีมเยือน
��� จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0
��� กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง แค่นาที 47 ลิเวอร์พูล เกือบได้เม็ดที่สองนำห่างหลัง เฮนเดอร์สัน วางยาวไปในกรอบให้ ซาดิโอ มาเน่ กดด้วยขวาเต็มแรงแต่บอลก็ยังพุ่งไปเข้ามือ รุย ปาตริซิโอ
��� นาที 52 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วางยาวไปเสาไกลให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แตะเลียดเข้ากลางให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้ยิงอีกครั้งแต่ดันซัดหลุดกรอบออกไปอย่งน่าผิดหวัง
��� นาที 58 สกอร์ของเจ้าบ้านนำห่างเป็น 2-0 จนได้ จากจังหวะสวนกลับขึ้นมา จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จิ้มบอลทิ้งยาวไปให้ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ถึงหน้ากรอบก่อนปั่นโค้งๆ หนีมือปาตริซิโอเข้าไปอย่างสวยงาม
��� นาที 68 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูที่สามนำห่าง หลังบอลเล่นสั้นที่มุมธงทางด้านขวา เฮนเดอร์สัน จ่ายๆสั้นให้ ซาลาห์ ก่อนจะเปิดด้วยซ้ายเข้าไปในกรอบ 5 หลาให้� โฌเอล มาติ๊ป สอดมาโขกบอลตุงตาข่าย ส่งให้ "หงส์แดง" นำห่าง 3-0
��� เท่านั้นไม่พอ นาที 78 "หงส์แดง" มานำโด่งถึง 4-0 บอลครอสของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เลียดไปหน้ากรอบถึง มาเน่ วิ่งมาซัดแต่บอลไปแฉลบขา เนลสัน เซเมโด้ กลายเป็นทำเข้าประตูตัวเอง
��� จบเกม ลิเวอร์พูล ไล่ถล่มเอาชนะ� วูล์ฟแฮมป์ตัน� 4-0 เก็บสามแต้มมีเพิ่มเป็น 24 คะแนนเท่ากับ สเปอร์ส แต่ลูกได้เสียเป็นรองทัพไก่เลยรั้งแค่อันดับ 2 เท่านั้น
��� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
������� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีวีน เคลเลเฮอร์� - เนโก วิลเลี่ยมส์ (เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ น.68), โฌเอล มาติ๊ป, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - เคอร์ติส โจนส์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (นาบี เกอิต้า น.81), จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ (ดีโอโก้ โชต้า น.73), ซาดิโอ มาเน่
������� ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์
������� วูล์ฟแฮมป์ตัน (4-3-3) : รุย ปาตริซิโอ - เนลสัน เซเมโด้, วิลลี่ โบลี่, คอเนอร์ คัวดี้, แฟร์นานโด มาร์ซาล - เลอันเดร์ เดนดองเคอร์, รูเบน เนเวส (ฟาบิโอ ซิลวา น.62), ชูเอา มูตินโญ่ - อดามา ตราโอเร่, ดาเนี่ยล โปรเดนซ์ (รายาน เอต-นูรี น.71), เปโดร เนโต้ (วิตินญ่า น.79)
�
������� ผู้จัดการทีม : นูโน่ เอสปิริโต ซานโต
������� ผู้ตัดสิน : เคร็ก พาวสัน