��������� โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กลายเป็นฮีโร่ของ "หงส์แดง" หลังมาซัดประตูชัยในช่วงนาทีสุดท้ายพาทีมเฉือนเอาชนะ สเปอร์ส แบบสุดมันส์ 2-1 คว้าสามแต้มแซงไก่เดือยทองขึ้นนำจ่าฝูงมี 28 คะแนน ในเกมบิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันพุธที่ผ่านมา
��������� สนาม : แอนฟิลด์
��� "บิ๊กแมตช์" พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันพุธที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา ระหว่างแชมป์เก่า ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์รับมือจ่าฝูงอย่าง สเปอร์ส โดยทั้งสองทีมมี 25 คะแนนเท่ากัน หลังฟอร์มล่าสุดในลีกสะดุดทั้งคู่ โดย "หงส์แดง" บุกไปเสมอ ฟูแล่ม1-1 ส่วนสเปอร์สบุกไปแบ่งแต้มกับ คริสตัล พาเลซ 1-1 ซึ่งเกมนี้หากทีมใดคว้าชัยจะขึ้นนำจ่าฝูงแบบเดี่ยวๆทันที
��� เจอร์เก้น คล็อปป์ เกมนี้ส่งไอ้หนู รีส วิลเลี่ยมส์ ยืนเซ็นเตอร์แบ็กคู่กับ ฟาบินโญ่ ส่วนสามประสานแนวรุกยังเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ และซาดิโอ มาเน่
��� ส่วนทางฝั่ง โชเซ่ มูรินโญ่ วางแฮร์รี่ เคน เป็นหน้าเป้าโดยมี ซน ฮึง-มิน และสตีเว่น เบิร์กไวจ์น คอยปั้นเกมสนับสนุน
���
��� ออกสตาร์ทเกมครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น "หงส์แดง" ที่เปิดฉากบุกเข้าใส่ก่อนเลย นาที 12 เกือบได้ลุ้นหลัง ไวจ์นัลดุม เรียกฟรีคิกได้ก่อนที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จะเปิดโค้งเข้าไปให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ขึ้นโขกแต่บอลยังไม่ห่างมือ อูโก้ โยริส รับไว้ได้
��� นาที 22 เจ้าบ้านเกือบได้ลุ้นขึ้นนำอีกครั้ง คราวนี้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน หลุดเข้าไปในกรอบทางซ้ายก่อนตบเข้ากลางมาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่งมาซัดด้วยซ้ายแต่บอลไม่ตรงตัว อูโก้ โยริส รับเข้ามือไว้ได้
��� กระนั้น นาที 26 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูขึ้นนำสเปอร์ส 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ เคอร์ติส โจนส์ พาบอลตะลุยเดี่ยวเข้าไปในกรอบก่อนบอลจะปลิ้นไปเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่งมาซัดด้วยซ้ายไปแฉลบเอริก ดายเออร์ บอลลอยโด่งเบียดเสาเข้าไปเป็นประตูที่ 11 ของเจ้าตัวในซีซั่นนี้เท่ากับ โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิน
��� เกมรุกเจ้าถิ่นยังดุดัน นาที 29 เคอร์ติส โจนส์ ที่เล่นได้โดดเด่นลากบอลเข้าไปซัดด้วยขวาแต่บอลพุ่งเลียดไปเข้ามือ อูโก้ โยริส
��� นาที 33 แฟนบอล "เดอะ ค็อป" ต้องเงียบกริบ หลังโอกาสครั้งเดียวของ สเปอร์ส มาทวงประตูตีเสมอ 1-1 บอลสวนกลับเร็วจาก โจวานนี่ โล เซลโซ่ แทงออกซ้ายให้ ซน ฮึง-มิน หลุดเข้าไปซัดผ่านมือ อลิสซอน เข้าไปไม่พลาด แม้แข้งหงส์แดงจะฟ้องว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของ ซน ฮึง-มิน แต่แอนโธนี่ เทย์เลอร์หลังเช็กกับทีมวีเออาร์ปรากฎว่าดาวยิงเลือดโสมไม่ล้ำหน้าเนื่องจากขึ้นมาในระนาบเดียวกับขาของ รีส วิลเลี่ยมส์
��� นาที 41 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสั แทงบอลขึ้นหน้าเข้ากรอบไปให้ ซาดิโอ มาเน่ ก่อนเบียดเข้าไปซัดด้วยขวาแต่บอลยังพุ่งเลียดไปเข้ามือนายด่านไก่เดือยทอง
��� จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล เสมอกับ สเปอร์ส 1-1
��� กลับมาบู๊ต่อในครึ่งหลัง และแค่นาที 47 เจ้าบ้านเกือบโดนแซงนำหลัง รีส วิลเลี่ยมส์ โขกบอลผิดเหลี่ยมกลายเป็นส่งให้ สตีเว่น เบิร์กไวน์ หลุดเข้าไปก่อนเบียดกับ เทรนท์ อาร์โนลด์ แล้วยิงด้วยขวาหลุดกรอบไป
��� กลายเป็นสเปอร์สที่โหมบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง นาที 50 แฮร์รี่ เคน พยายามยิงข้ามหัว อลิสซอน แต่นายด่านหงส์แดงยังตาไว ดีดตัวถอยหลังปัดบอลออกไปหวุดหวิด
��� นาที 57 "หงส์แดง" เกือบพลิกขึ้นนำเช่นกันหลัง ซาลาห์ ได้โอกาสซัดด้วยซ้ายนอกกรอบบอลพุ่งตกพื้นจน อูโก้ โยริส ต้องปัดออกไป
��� นาที 63 สเปอร์ส พลาดโอกาสแซงขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย หลังแฮร์รี่ เคน เทกตัวโขกให้ ซน ฮึง-มิน เช็ดบอลต่ออีกทีให้ สตีเว่น เบิร์กไวจ์น หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาบอลหนีมือ อลิสซอน ไปแล้วแต่ไปชนเสา
��� และจากจังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม ซน ฮึง-มิน เปิดมาในกรอบ 6 หลา แฮร์รี่ เคน โขกบอลกดพื้นกระดอนข้ามคานออกไปแบบได้เสียว
��� เกมแลกกันสนุก นาที 67 มาเน่ ไหลบอลต่อให้ ฟีร์มีโน่ ตะบันด้วยขวาไปเข้ามือ อูโก้ โยริส อีกสองนาทีต่อมา ซาลาห์ ได้ยิงในกรอบแต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือนายด่านไก่เดือยทอง
��� นาที 73 ลิเวอร์พูล ทิ้งโอกาสทองในการขึ้นนำหลัง เคอร์ติส โจนส์ จ่ายทะลุให้ ซาดิโอ มาเน่ หลุดเข้าไปซัดมุมแคบบอลไปติดมือ โยริช ก่อนพุ่งไปแฉลบคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
��� นาที 79 สเปอร์ส เกือบแซงขึ้นนำหลังบอลจาก ซิสโซโก้ แทงทะลุให้ แฮร์รี่ เคน หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปั่นด้วยขวาถากเสาออกไป
��� แต่แล้วในช่วงนาทีสุดท้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ครอสบอลมาให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ โขกเข้าไปเป็นประตูให้ ลิเวอร์พูล แซงนำสเปอร์ส 2-1
��� จบเกม ลิเวอร์พูล เฉือนเอาชนะ สเปอร์ส ช่วงนาทีสุดท้าย 2-1 เก็บสามแต้มพร้อมแซงขึ้นนำจ่าฝูงแบบเดี่ยวๆ มี 28 คะแนนทิ้งอันดับสองอย่าง ไก่เดือยทองที่มีแค่ 25 คะแนน
��� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
������� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, รีส วิลเลี่ยมส์, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม, เคอร์ติส โจนส์ - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่
������� ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์
������� สเปอร์ส (4-2-3-1) : อูโก้ โยริส - แซร์ช โอริเย่ร์, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, เอริก ดายเออร์, เบน เดวิส� - มูสซ่า ซิสโซโก้, ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก - สตีเว่น เบิร์กไวจ์น (เซร์คิโอ เรกีล่อน น.76), โจวานนี่ โล เซลโซ่ (ลูคัส มูร่า น.58), ซน ฮึง-มิน (เดเล่ อัลลี่ น.87) - แฮร์รี่ เคน
������� ผู้จัดการทีม : โชเซ่ มูรินโญ่
������� ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์