���� ลิเวอร์พูล กลับมาคืนฟอร์มโหดอีกครั้งบุกถล่ม คริสตัล พาเลซ 7-0 โดยเกมนี้ ทาคูมิ มินามิโนะ ประเดิมลูกแรกในลีกได้สำเร็จ ส่วน โรแบร์โต้ ฟีร์มีร์โน่ ควง โม ซาลาห์ กดเบิ้ล พา "หงส์แดง" ยึดจ่าฝูงต่อไปพร้อมทำแต้มหนี สเปอร์ส รองฝูงเป็น 6 คะแนนชั่วคราว ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา
���� รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือ คริสตัล พาเลซ เกมนี้มีปัญหาการจัดทัพเมื่อไม่มี คริสติย็อง เบนเตเก้ ที่ติดโทษแบนจากการโดนใบแดง โดยคู่หน้าส่ง วีลฟรีด ซาฮา ลงล่าตาข่ายร่วมกับ จอร์แดน อายิว
��� ขณะที่ ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เกมนี้ตัดสินใจดร็อป โม ซาลาห์ ไว้ที่ม้านั่งสำรองแล้วให้โอกาสกับ ทาคูมิ มินามิโนะ ดาวเตะชาวญี่ปุ่นลงเป็นสามประสานในแนวรุกร่วมกับ ซาดิโอ มาเน่ ละ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่
��� ครึ่่งแรกเปิดฉากมาเพียง 2 นาที ลิเวอร์พูล ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 ซาดิโอ มาเน่ จ่ายบอลยัดให้ ทาคูมิ มินามิโนะ ในเขตโทษ ก่อนจะกลับตัวตวัดยิงด้วยขวาส่งบอลเข้าประตูไป พร้อมกับเป็นประตูแรกของดาวเตะชาวญี่ปุ่นในศึกรีเมียร์ลีก
��� หลังจากนั้น พาเลซ เริ่มตั้งเกมของตัวเองได้มีโอกาสขึงบุกใส่ได้ต่อเนื่อง นาทีที่ 28 จากจังกวะฟรีคิกทางฝั่งขวา เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ เปิดเข้าเขตโทษให้ จอร์แดน อายิว ได้โขกเน้นๆแต่บอลไปตรงตัว อลิสซอน เบ็คเกอร์ รับเข้าซองสบาย
��� จากนั้น นาที 32 เจ้าถิ่นลุ้นต่อจากจังหวะเตะมุมทางฝั่งซ้าย เอเบเรชี่ เอเซ่ เปิดมาเข้าหัว เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ ได้โหม่งแต่ก็ยังตรงตัว อลิสซอน
��� อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ที่เกมเป็นรองมาได้ประตูนำห่าง 2-0 ในนาทีที่ 35 จากจังหวะที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ จัดยัดเข้าเขตโทษให้ ซาดิโอ มาเน่ แต่งแล้วซัดเรียดด้วยขวาบอลเสียบมุมเข้าไปอย่างสุดสวย
��� เท่านั้นไม่พอท้ายครึ่งแรก นาทีที่ 44 สกอร์ไหลเป็น 3-0 จากจังหวะสวนกลลับเร็ว แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน� ครอสจากกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษแล้วยิงผ่านมือ บิเซนเต้ กวยต้า เข้าประตูไป ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
��� ครึ่งหลังเกมดำเนินมาถึง นาทีที่ 52 "หงส์แดง" เปิดฉากบุกใส่ทันทีและมาได้ประตูนำ 4-0 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เติมขึ้นมาทางกราบขวาแล้วไหลให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วิ่งมายิงเล่นทางโล่งๆหน้าเขตโทษส่งบอลเสียบเสาสองเข้าไป
��� จากนั้น นาที 59 มินามิโนะ หวิดทำประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้ เมื่อหลุดเดี่ยวมาซัดด้วยขวาโล่งๆแต่บอลไม่ตรงกรอบ
��� แต่ถึงกระนั้น นาที่ 68 ทีมเยือนสกอร์ไหลเป็น 5-0 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จ่ายบอลให้ ฟีร์มีโน่ เกี่ยวบอลหลุดเข้าเขตโทษแล้วชิพข้าม บิเซนเต้ กไวต้า เข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น
��� ท้ายเกมนาที 81 โฌแอล มาติป โหม่งชงจากจังหวะเตะมุมให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้โขกเน้นๆตุงตาข่าย ให้ ลิเวอร์พูล นำเป็น 6-0 เท่านั้นไม่พอ ซาลาห์ มาใส่สกอร์ที่สองของตัวเองในเกมนี้จากจังหวะลากมาปั่นโค้งๆด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงามให้สกอร์ไหลเป็น 7-0
���
��� เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ลิเวอร์พูล บุกถล่ม คริสตัล พาเลซ 7-0 ยึดจ่าฝูงต่อไปพร้อมทำแต้มหนี สเปอร์ส รองฝูงเป็น 6 คะแนนชั่วคราว
���
��
��� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
���� คริสตัล พาเลซ (4-4-2) : บิเซนเต้ กวยต้า - เนธาเนี่ยล ไคลน์, ชีกู คูยาเต้ (เจมส์ ทอมกินส์ น.63), แกรี่ เคฮิลล์, พาทริก ฟาน อานโฮลท์ - เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์, ลูก้า มิลิโวเยวิช, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ (ไจโร รีดวัลด์), เอเบเรชี่ เอเซ่ (มิตชี่ บัตชัวยี่ น.69) - จอร์แดน อายิว, วิลฟรีด ซาฮา
��� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม (เคอร์ติส โจนส์ น.69), นาบี เกอิต้า - ทาคูมิ มินามิโนะ, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ (อเล็กซ์ อ็อกเหลด แชมเบอร์เลน น.75), ซาดิโอ มาเน่ (โมฮาเหม็ด ซาลาห์ น.57)