������ แชมป์เก่า ลิเวอร์พูล ออกอาการเซ็งหลัง ซาดิโอ มาเน่ ยิงให้ทีมขึ้นนำไปก่อนและแม้จะพับสนามบุกแต่เจาะใส่ เวสต์บรอมวิชฯ ไม่เข้าก่อนช่วงท้ายเกมจะโดนลูกทีมของ "บิ๊กแซม" ไล่ตีเสมอ 1-1 ชวดคว้าสามแต้มส่งผลให้ยังนำจ่าฝูงมีเพิ่มเป็น 32 คะแนน ทิ้ง เอฟเวอร์ตัน รองจ่าฝูงแค่ 3 คะแนน ส่วน "เดอะ แบ็กกี้ส์" ของบิ๊กแซมรั้งรองบ๊วยมี 8 แต้ม ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
���� สนาม : แอนฟิลด์
��� พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วีกที่ 15 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม ที่ผ่านมา แชมป์เก่า และจ่าฝูง ลิเวอร์พูล เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ทีมอันดับ 19 โดยผลงานล่าสุดของทั้งคู่นั้น "หงส์แดง" เพิ่งงัดฟอร์มโหดบุกไปถล่มคริสตัล พาเลซ 7-0 ส่วน "เดอะ แบ็กกี้ส์" พ่ายคาบ้านให้ แอสตัน วิลล่า 0-3
��� เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังยึดขุมกำลังเดิมเป็นแกนหลัก แดนกลางกลับมาใช้ เคอร์ติส โจนส์ เป็นตัวจริง ส่วน 3 แนวรุกยังเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ส่วนทาง "บิ๊กแซม" แซม อัลลาไดซ์ กุนซือคนใหม่เวสต์บรอมฯเกมที่แล้วเปิดตัวคุมทีมไม่สวยนัก กระนั้นยังคงใช้แข้งชุดเดิม แมตต์ ฟิลลิปส์ ออกสตาร์ทตัวจริง ด้าน มัตเตอุส เปเรยร่า ยังเป็นสำรอง ส่วนหน้าเป้าใช้
��� เปิดฉากครึ่งแรก "หงส์แดง" โหมบุกอย่างหนัก นาทีที่ 6 ได้โอกาสส่องหนแรกจากจังหวะตั้งป้อมยิงไกลของ ฟาบินโญ่ กว่า 30 หลาแต่บอลยังพุ่งเหินโด่งข้ามคานออกไป คาร์ลาน แกรนท์
��� กระนั้น นาที 11 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็วจากจังหวะเซ็ตบอลของคู่เซ็นเตอร์ ฟาบินโญ่ ผ่านให้ มาติป ก่อนที่แนวรับชาวแคเมอรูนจะผ่านบอลเข้าไปในเขตโทษให้ ซาดิโอ มาเน่ พักบอลด้วยอกก่อนล้มตัวซัดผ่านมือ แซมจอห์นสโตน เข้าไป
��� ทีมแชมป์เก่ายังพับสนามครองเกมบุกอยู่ฝ่ายเดียว นาที 21 เกือบได้ลุ้นเม็ดที่สองจากจังหวะ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน� ครอสเข้าไปให้ ซาดิโอ มาเน่ ขวิดบอลในเขตโทษ แต่บอลหลุดกรอบออกไปแบบได้เสียว
��� นาที 30 เคอร์ติส โจนส์ เรียกฟรีคิกให้เจ้าบ้านได้นอกกรอบ ทว่า เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ปั่นด้วยขวาข้ามกำแพงบอลโค้งหลุดกรอบออกไปไกล
��� ท้ายครึ่งแรก นาที 43 เจ้าบ้านขึ้นมาทางริมเส้นอีกครั้ง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ครอสบอลเข้าไปให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เทกตัวโขกหลุดกรอบออกไปอีก
��� จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ได้ประตูนำ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-0
��� กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง แค่นาที 47 "หงส์แดง" ได้โอกาสส่องนอกกรอบหลัง จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ไหลสั้นๆให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วิ่งมากดด้วยขวาบอลติดไซด์ก้อยพุ่งหลุดกรอบออกไป
��� นาที 51 เป็นโอกาสยิงเข้ากรอบหนแรกของ "แบ็กกี้ส์" หลัง คาร์ลาน แกรนท์ ได้หวดบอลนอกกรอบแต่ยังเบาไปก่อนเข้ามือ อลิสซอน รับไว้ไม่มีปัญหา
��� นาที 59 เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องเปลี่ยนตัวคนแรกหลัง โฌเอล มาติ๊ป มีอาการเจ็บเล่นต่อไม่ไหวต้องส่ง รีส์ วิลเลี่ยม เซ็นเตอร์แบ็กดาวรุ่งลงเล่นแทน
��� นาที 72 ลูกทีมของ "บิ๊กแซม" สวนกลับขึ้นมา โรเมน ซอว์เยอร์ส แทงบอลให้ คาร์ลาน แกรนท์ ได้ยิงด้วยซ้ายในกรอบแต่ก็ยังไม่ผ่านมือนายด่านของหงส์แดง ก่อนอีกนาทีต่อมาจะเปลี่ยนเอา มัตเตอุส เปเรยร่า ลงมาปั้นเกมแทน คัลลัม โรบินสัน
��� แต่แล้ว นาที 82 ทีมเยือนที่บุกน้อยกว่ามาได้ประตูตีเสมอ 1-1 บอลเล่นสั้นจากลูกเตะมุม มัตเตอุส เปเรยร่า ครอสมาให้ ซามี่ อาจายี่ ขึ้นโขกบอลไปชนเสาก่อนผ่านตัวอลิสซอนข้ามเส้นประตูเข้าไป
�� นาที 89 "หงส์แดง" เกือบได้ประตูแซงนำอีกครั้ง บอลต่อเนื่องจากลูกเตะมุม แชมเบอร์เลน เปิดเข้ามาให้ โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่ ขึ้นพุ่งไปเสาไกลแต่ยังไปติดเซฟของ แซม จอห์นสโตน ปัดออกหลังอย่างน่าเสียดาย
��� จบเกม ลิเวอร์พูล ทำได้แค่เสมอกับ เวสต์บรอมวิช 1-1 แบ่งแต้มกันไป แต่ "หงส์แดง" ยังนำเป็นจ่าฝูงมีเพิ่มเป็น 32 คะแนน ทิ้งอันดับสอง เอฟเวอร์ตัน 3 แต้ม ส่วน "เดอะ แบ็กกี้ส์" อยู่รองบ๊วยเหมือนเดิมมีเพิ่มเป็น 8 คะแนน
��� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
������� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌเอล มาติ๊ป (รีส์ วิลเลี่ยม น.60), ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - เคอร์ติส โจนส์ (อเล็กซ์ อ๊อกเลด-แชมเบอร์เลน น.83), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่ (ดิว็อก โอริกี้ น.90), ซาดิโอ มาเน่
������� ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์
������� เวสต์บรอมวิช (4-5-1) : แซม จอห์นสโตน - ดาร์เนลล์ เฟอร์ลอง, ซามี่ อาจายี่, ดาร่า โอเชีย, คีแรน กิ๊บบ์ส - แมตต์ ฟิลลิปส์, คัลลัม โรบินสัน (มัตเตอุส เปเรยร่า น.73), โรเมน ซอว์เยอร์ส, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ (บรานิสลาฟ อิวาโนวิช น.90+1), เกรดี้ เดียนกาน่า - คาร์ลาน แกรนท์ (ชาร์ลี ออสติน น.78)
������� ผู้จัดการทีม : แซม อัลลาไดซ์
������� ผู้ตัดสิน : เควิน เฟรนด์