������� "หงส์แดง" กลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมหลังไล่อัด แอร์เบ ไลป์ซิก จากเยอรมัน 2-0 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และซาดิโอ มาเน่ ยิงคนละเม็ด พา ลิเวอร์พูล กุมความได้เปรียบ ก่อนเกมที่สองจะมาเล่นที่แอนฟิลด์ในวันที่ 10 มี.ค.นี้ ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ16ทีมสุดท้าย นัดแรก ที่ประเทศฮังการี เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
������ สนาม : ปุสกัส อารีน่า, บูดาเปสต์ (สนามกลาง)
��� ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ16ทีมสุดท้าย นัดแรก ไลป์ซิก (เยอรมัน) พบ ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) โดยเกมนี้ต้องเล่นที่ ปุสกัส อารีน่า, บูดาเปสต์ สนามกลาง เนื่องจากรัฐบาลเยอรมัน ประกาศห้ามเที่ยวบินจากสหราชอาณาจักรเข้าประเทศ
��� ยูเลียน นาเกลส์มันน์ เทรนเนอร์ไลป์ซิก พาทีมเข้ารอบนี้ ด้วยการเป็นรองแชมป์กลุ่ม เอช ขณะที่ฟอร์มล่าสุดชนะรวดมา 4 เกมติดทุกรายการ แมตช์นี้วาง มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ตัวทีเด็ดปั้นเกมอยู่หลัง คริสโตเฟอร์ เอ็นเกิงกู, ดานี่ โอลโม่ และ ไทเลอร์ อดัมส์
��� ส่วนทางฝั่ง เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ของ "หงส์แดง" แม้จะพาทีมเข้ารอบนี้ ในฐานะแชมป์กลุ่ม ดี แต่สถานการณ์ในลีกวิกฤติอย่างหนักแพ้มา 3 นัดติดต่อกัน แมตช์นี้คู่เซ็นเตอร์ยังใช้ โอซาน คาบัค คู่กับจอร์แดน เฮนเดอร์สัน โดยมี ติอาโก้ อัลกานตาร่า คุมกลางส่วนสามแนวรุกยังเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่�
��� ครึ่งแรก เริ่มมาได้แค่ 5 นาที ไลป์ซิก เกือบได้ประตูขึ้นนำไปก่อนหลัง อังเคลินโญ่ ครอสบอลมาให้ ดานี่ โอลโม่ พุ่งโขกกว่า 10 หลาไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย
��� นาที 15 ลิเวอร์พูล เกือบมีเฮบ้างหลัง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แทงบอลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดติดตัว ปีเตอร์ กูลัคซี่
��� อีกสองนาทีถัดมา ไลป์ซิก ได้ลุ้นเหมือนกันคราวนี้ ดานี่ โอลโม่ ผ่านบอลมาให้ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ เอาบอลลงอย่างนิ่มก่อนอัดด้วยขวานอกกรอบบอลพุ่งเสาแรกแต่ยังไม่ผ่านมือ อลิสซอน ที่รับไว้ได้
��� "หงส์แดง" ลุยมาอย่างต่อเนื่อง นาที 25 ได้ลุ้นจากจังหวะที่ ซาลาห์ ไหลออกขวาให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ตักบอลมาหน้ากรอบให้ ซาดิโอ มาเน่ เทกตัวโขกข้ามคานไป
��� นาที 31 ปีเตอร์ กูลัคซี่ เกือบเสียท่าหลังสกัดบอลหน้าประตูตัวเองออกไปเข้าทาง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ยิงสวนกว่า 40 หลาบอลพุ่งย้อยเฉียดคานตกหลังตาข่าย ชนิดที่ กูลัคซี่ ถอยหลังไปจนตัวจมก้นตาข่ายมีอาการเจ็บแต่ยังลุกมาเล่นต่อได้ไม่มีปัญหา
��� อีก 5 นาทีถัดมา ซาดิโอ มาเน่ ตามไปเกี่ยวบอลมาให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ โขกบอลเข้าไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินหลังเช็กกับทีมวีเออาร์แล้วไม่ให้ประตูเนื่องจากบอลออกหลังไปก่อนแล้ว
��� จบครึ่งแรก แอร์เบ ไลป์ซิก เสมอกับ ลิเวอร์พูล 0-0
��� ครึ่งหลัง แค่นาที 46 ไลป์ซิกเกือบพังประตูขึ้นนำไปก่อนหลัง ดานี่ โอลโม่ แทงบอลให้ คริสโตเฟอร์ เอ็นเกิงกู ซัดด้วยซ้ายแต่บอลยังไปติดเซฟของ อลิสซอน ปัดออกหลัง
��� กระนั้น นาที 53 หงส์แดง มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากความผิดพลาดของ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ที่จ่ายให้เพื่อนไม่ดีกลายเป็นไหลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเข้าไปยิงผ่านตัว ปีเตอร์ กูลัคซี่
��� ถัดมานาที 58 ลิเวอร์พูล ได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 คราวนี้ เคอร์ติส โจนส์ กระดกบอลยาวขึ้นมา นอร์กดี มูกิเอเล่ สกัดบอลพลาดโดน ซาดิโอ มาเน่ ควบบอลเข้าไปดวลกับ ปีเตอร์ กูลัคซี่ ก่อนเลือกมุมยิงด้วยขวาเข้าไป
��� นาที 61 ไลป์ซิกมีลุ้นตีไข่แตกเหมือนกันหลัง คริสโตเฟอร์ เอ็นเกิงกู แทงบอลให้ อังเคลินโญ่ หลุดไปทางซ้ายก่อนจะซัดเสาแรกแต่หลุดกรอบออกไป
��� อีกสองนาทีถัดมา ดานี่ โอลโม่ ได้อัดด้วยขวาในกรอบเน้นๆ บอลพุ่งตรงกรอบแต่ยังไปติดขาของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปลี่ยนทางออกหลังหวุดหวิด
��� นาที 71 คล็อปป์ พัก ฟีร์มีโน่ และติอาโก้ แล้วส่ง เซอร์ดาน ชากิรี่ และอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชเบอร์เลน ลงไปเล่นแทน ส่วน ไลป์ซิก ส่ง ฮวาง ฮี-ชาน ดาวยิงเกาหลีใต้ลงไปเล่นแทน เควิน คัมเปิ้ล
��� ท้ายเกม ไลป์ซิก พยายามโหมบุกโจมตีอย่างหนัก นาที 80 ไทเลอร์ อดัมส์ ไหลบอลให้ อังเคลินโญ่ ที่วันนี้มีโอกาสเยอะแต่ก็หวดบอลออกไปแบบไม่ได้ลุ้น
�� ช่วงทดเจ็บ นาที 90+3 ฮวาง ฮี-ชาน ตัวสำรองของไลป์ซิกหลุดเข้าไปซัดผ่านมือ อลิสซอน ไปแล้วแต่บอลหลุดเสาไกลออกไปแบบได้เสียว
��� จบเกม ลิเวอร์พูล ไล่บดเอาชนะ ไลป์ซิก ไปได้ 2-0 ตุนสกอร์ไว้ก่อนที่นัดที่สองจะกลับมาเล่นที่แอนฟิลด์ ในวันที่ 10 มีนาคมนี้
����
��� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
���
��� ไลป์ซิก (4-3-3) : ปีเตอร์ กูลัคซี่ - นอร์กดี มูกิเอเล่ (วิลลี่ ออร์บาน น.64), ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, ลูคัส กลอสเตอร์มันน์, อังเคลินโญ่ - อมาดู ไฮดาร่า (ยูสซุฟ โพลเซ่น น.64), มาร์เซล ซาบิตเซอร์, เควิน คัมเปิ้ล (ฮวาง ฮี-ชาน น.73)- - คริสโตเฟอร์ เอ็นเกิงกู, ดานี่ โอลโม่, ไทเลอร์ อดัมส์
��� เทรนเนอร์ : ยูเลียน นาเกลส์มันน์�
��� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โอซาน คาบัค, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - ติอาโก้ อัลกานตาร่า (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชเบอร์เลน น.72), จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม, เคอร์ติส โจนส์ - โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (เนโก วิลเลี่ยมส์ น.90), โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (เซอร์ดาน ชากิรี่ น.72), ซาดิโอ มาเน่�
��� เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์�����
��� ผู้ตัดสิน : สลาฟโก้ วินชิช (สโลวีเนีย)