���� เดลี่ เมล และสื่อหลายสำนักในอังกฤษ ระบุ พรีเมียร์ลีก ยังไม่ตัดสินใจว่าจะให้แฟนบอลได้เข้าชมเกมในสนามสำหรับแมตช์สุดท้ายของฤดูกาล แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศชัดเจนว่าอนุญาตให้คอกีฬาได้เข้าไปชมเกมแบบสดๆ อีกครั้งก็ตาม
���� พรีเมียร์ลีก อาจตัดสินใจสั่งห้ามแฟนบอลเข้าไปชมเกมในสนามแมตช์สุดท้ายของฤดูกาล แม้รัฐบาลอังกฤษจะออกมาประกาศโรดแม็ปอนุญาตให้คอกีฬาเข้าชมเกมในสนามได้ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไปก็ตาม
���� เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เผยแผนการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์สำหรับวงการกีฬาโดยอนุญาตให้แฟนกีฬาได้กลับมาชมเกมในสนามหลายรายการอย่างเช่นการแข่งขันพรีเมียร์ลีก อังกฤษ , ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป, เทนนิสวิมเบิลดัม และ รักบี้ชิงแชมป์โลก รวมทั้งการแข่งขันรายการอื่นๆ ภายในประเทศช่วงซัมเมอร์นี้
���� สำหรับมาตรการนี้จะให้การแข่งขันกีฬาในร่มมีผู้เข้ามาชมได้สูงสุดไม่เกิน 1,000 คน หรือครึ่งหนึ่งของความจุในสนาม ส่วนกีฬากลางแจ้งอนุญาตให้มีแฟนกีฬาเข้าชมได้สูงสุดไม่เกิน 4,000 คน หรือครึ่งหนึ่งของความจุสนาม
���� อย่างไรก็ตามในกรณีที่สนามมีขนาดใหญ่มาก ยกตัวอย่างสนามเวมบลีย์ จะอนุญาตให้มีแฟนกีฬาเข้าชมการแข่งขันได้สูงสุดไม่เกิน 10,000 ราย หรือ 25 เปอร์เซนต์ของความจุสนาม โดยจะเริ่มในวันที่ 17 พ.ค. และหลังวันที่ 21 มิถุนายน จะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์หรือควบคุมจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ทั้งหมด
���� จากโรดแม็ปของรัฐบาลเมืองผู้ดีนั่นหมายความว่าเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดสุดท้ายซึ่งจะแข่งกันในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ บรรดาแฟนบอลจะได้กลับเข้าไปชมทีมรักของตัวเองแบบสดๆ ในสนาม อย่างไรก็ตามความหวังดังกล่าวอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้
���� เพราะจากรายงานจากสื่อหลายสำนักในอังกฤษ ระบุว่า พรีเมียร์ลีก ยังไม่ตัดสินใจว่าจะอนุญาตให้แฟนบอลกลับเข้าไปชมเกมในสนาม เนื่องจากมีความกังวลว่าหากให้คอลูกหนังได้เข้าสนามในเกมสุดท้าย อาจจะเป็นการไม่ยุติธรรมเพราะทีมเจ้าบ้านอาจได้เปรียบ เนื่องจากมีหลายคู่ที่สถานการณ์ในตารางลีกอาจจะตัดสินกันในวันสุดท้ายของลีกก็ได้