���������� แชมป์เก่า ลิเวอร์พูล กลับมาคว้าชัยชนะในลีกได้เสียทีหลังจากแพ้มา 4 นัดติด เมื่อปลดล็อคบุกไปเก็บสามแต้มเหนือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-0 เอาฤกษ์เอาชัยก่อนกลับไปเล่นในแอนฟิลด์รับมือ เชลซี วันพฤหัสฯนี้ ส่งผลให้ "หงส์แดง" มีเพิ่มเป็น 43 คะแนนรั้งที่ 6 เหมือนเดิมทว่าจี้ "ขุนค้อน" อันดับ4แค่สองแต้ม ส่วน "ดาบคู่" แพ้เกมที่ 21 จาก 26 นัดรั้งบ๊วยของตารางเหมือนเดิมมีแค่ 11 คะแนน
���������� สนาม : บรามอลล์ เลน
��� เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่สุดท้ายของวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าบ้าน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมบ๊วยของตาราง รับมือแชมป์เก่า ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 6 ซึ่งฟอร์มล่าสุดในลีกของทั้งคู่นั้น "ดาบคู่" บุกไปพ่าย ฟูแล่ม 0-1 ส่วน "หงส์แดง" ฟอร์มแย่พ่ายคาแอนฟิลด์ให้คู่ปรับร่วมเมืองอย่าง เอฟเวอร์ตัน 0-2
��� คริส ไวล์เดอร์ พยายามพาทีมลุ้นหนีตายให้ได้ แม้จะแพ้ไปถึง 20 เกมจากการลงเล่น 25 นัด เกมนี้แนวรุกฝากความหวังไว้ที่ เดวิด แม็คโกลดริค และโอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่
��� ส่วนทางฝั่ง เจอร์เก้น คล็อปป์ เจอมรสุมกับฟอร์มของทีมหลังแพ้ในลีกมา 4 เกมติดๆ เกมนี้คู่เซ็นเตอร์แบ็กใช้ โอซาน คาบัค จับคู่กับ เนธาเนี่ยล ฟิลลิปส์ ขณะที่สามแนวรุกยังเหมือนเดิม โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่ และซาดิโอ มาเน่
��� เปิดฉากครึ่งแรกมาได้ 5 นาที "ดาบคู่" ได้โอกาสทักทายก่อนเลยหลังได้ฟรีคิกทางด้านขวาของสนาม โอลิเวอร์ นอร์วู้ด เปิดมาเสาไกลให้ เดวิด แม็คโกลดริค โขกจ่อๆไม่ถึง 6 หลาแต่ยังไปติดเซฟของ อาเดรียน ช่วยให้หงส์แดงไม่เสียประตู
��� นาที 11 "หงส์แดง" ทิ้งโอกาสทองขึ้นนำไป หลัง ซาดิโอ มาเน่ ชิงขึ้นโขกกับแนวรับเจ้าถิ่น บอลตกมาเข้าเท้า ฟีร์มีโน่ ควบเข้าไปดวลเดี่ยวแต่ยิงไม่คมพอไปติดเซฟของ แอรอน แรมส์เดล จากนั้นไม่กี่วินาทีถัดมา แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ครอสบอลเกือบจะโค้งเสียบใต้คาน แต่แรมส์เดลก็ยังไวเหินปัดมือเดียวออกไปอีก
��� นาที 17 เชฟฯ ยูฯ สร้างโอกาสลุ้นขึ้นนำอีกครั้งหลัง บอลวางยาวจากแดนหลังของเจ้าถิ่นมาให้ โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ พักด้วยอกแล้วไหลสั้นให้ แม็คโกลดริค ปั่นนอกกรอบแต่บอลไปแฉลบตัว แม็คเบอร์นี่ เปลี่ยนทางเกือบพุ่งเสียบเสาไกล แต่ยังดีที่ อาเดรียน พุ่งปัดออกหลังได้ทัน
��� นาที 22 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ครอสเข้าไปในกรอบให้ เคอร์ติส โจนส์ สอดเข้ามายิงไม่ถึง 5 หลา แต่ก็ยังไปติดเซฟของ แอรอน แรมส์เดล อีกหน
��� นาที 30 "หงส์แดง" ได้ลุ้นอีกครั้ง ฟีร์มีโน่ กระดกบอลเร็วขึ้นหน้าให้ ซาลาห์ ควบบอลสปีดเข้าไปซัดมุมแคบแต่ยังไปติดมือของ แรมส์เดล ที่ออกมาปิดมุมได้ทัน
��� ถัดมาอีกสองนาที แนวรับดาบคู่ออกบอลกันพลาดกลายเป็นจ่ายไปให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หลุดเข้าไปในกรอบก่อนล็อคหนี เอ็นดาร์ สตีเว่นส์� แล้วตะบันด้วยซ้ายแต่ยังโดน แรมส์เดล ปัดออกหลังไปได้อีก����
��� นาที 37 โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ หลุดเข้าไปในกรอบก่อนบอลมาโดน โอซาน คาบัค เปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเอง ทว่าผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของ แม็คเบอร์นี่ ก่อนแล้วทำให้เจ้าถิ่นชวดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย
��� นาที 39 ติอาโก้ จ่ายสั้นให้ จอร์จินโย่ ไวนัลจ์ดุม นอกกรอบก่อนเลี้ยงแหวกเข้าไปซัดด้วยขวาเต็มข้อบอลพุ่งจะเสียบมุมอยู่แล้วแต่ แรมส์เดล ยังเหนียวปัดออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ
��� จบครึ่งแรก ยังทำอะไรกันไม่ได้ เชฟฯยูไนเต็ด เสมอกับ ลิเวอร์พูล 0-0
��� ครึ่งหลัง นาที 48 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ทันทีจากจังหวะที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ พาบอลถึงเส้นหลังก่อนครอสไปติด ฟิล ยากีลก้า กระดอนไปเข้าทาง เคอร์ติส โจนส์ แปด้วยขวาสวนเข้าไปตุงตาข่าย แม้แข้งเจ้าถิ่นจะฟ้องว่าจังหวะเปิดของ เทรนท์ นั้นออกไปแล้วแต่หลังผู้ตัดสินได้รับการยืนยันจากวีเออาร์ว่าบอลยังไม่ออกเต็มใบ ทำให้ "หงส์แดง" ได้ประตูขึ้นนำ
��� นาที 54 ซาดิโอ มาเน่ ส่งบอลเข้าก้นตาข่ายไปแล้ว แต่มีธงจากไลน์แมนยกเป็นล้ำหน้าไปก่อนทำให้ "หงส์แดง" ชวดได้ประตูที่สองนำห่างอย่างน่าเสียดาย
��� นาที 65 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูที่สองนำห่าง จากความยอดเยี่ยมของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เล่นชิ่งกับ มาเน่ กับหัวหอกทีมชาติบราซิลจะเลี้ยงแหวกเข้าไปซัดบอลแฉลบ คีน ไบรอัน ทำเข้าประตูตัวเองไป� ให้ "หงส์แดง" บุกมานำห่าง 2-0
��� นาที 80 "หงส์แดง" พลาดได้เม็ดที่สามอย่างน่าเสียดาย หลัง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ครอสไปเสาไกลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่งมายิงหลุดเสาออกไปอย่างน่าผิดหวัง
��� จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาสอยเจ้าถิ่น เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-0 เก็บชัยชนะได้เสียที หยุดสถิติอันเลวร้ายหลังแพ้ติดต่อกันไว้ที่ 4 เกม ซิวสามแต้มมีเพิ่มเป็น 43 คะแนน รั้งอันดับ 6 เหมือนเดิมแต่ตาม อันดับ 4 เวสต์แฮม แค่สองคะแนน ส่วน "ดาบคู่" รั้งบ๊วยสุดของลีก อันดับ 20 เหมือนเดิม แพ้เป็นเกมที่ 21 จาก 26 นัดที่ลงเล่น มีแค่ 11 คะแนน
��� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
��� เชฟฯยูฯ (3-5-2) : แอรอน แรมส์เดล - เอธาน แอมปาดู, ฟิล ยากีลก้า (เบน ออสบอร์น น.56), คีน ไบรอัน - จอร์จ บัลด็อก, โอลิเวอร์ นอร์วู้ด, จอห์น ลุนด์สแตรม, จอห์น เฟล็ค (บิลลี่ ชาร์ป น.80), เอ็นดาร์ สตีเว่นส์ - เดวิด แม็คโกลดริค (โอลิเวอร์ เบิร์ก น.56, โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่
��� ผู้จัดการทีม : คริส ไวล์เดอร์
��� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อาเดรียน - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โอซาน คาบัค, เนธาเนี่ยล ฟิลลิปส์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - เคอร์ติส โจนส์ (นาบี เกอิต้า น.80), ติอาโก้ อัลคันทาร่า (เจมส์ มิลเนอร์ น.76), จอร์จินโย่ ไวนัลจ์ดุม - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่
��� ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์
��� ผู้ตัดสิน : โจนาธาน มอสส์