���� "หงส์แดง" แม้เกมนี้จะเล่นได้ไม่ดี แต่มีเทพีแห่งโชคช่วยหลัง โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ มายิงประตูตัวเองในนาทีสุดท้าย ส่งให้ ลิเวอร์พูล คว้าชัยแบบเหลือเชื่อ 2-1 เก็บสามแต้มแซง "เรือใบ" สองแต้มขึ้นไปนำจ่าฝูงมี 79 คะแนน แม้แข่งมากกว่าหนึ่งนัด ส่วน สเปอร์ส ยังรั้งอันดับ 3 มีแต้มเท่ากับ "ปีศาจแดง" 61 คะแนน ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
���� สนาม : แอนฟิลด์
��� "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ต้องชนะเพื่อทวงจ่าฝูงคืน นัดนี้ได้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวาทีมชาติอังกฤษฟิต เช่นเดียวกับแดนกลางที่มี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ เจมส์ มิลเนอร์ และยังมี เซอร์ดาน ชากิรี่ กลับมานั่งสำรองอีกครั้ง
��� ขณะที่ "ไก่เดือยทอง" มีปัญหาบาดเจ็บในแผงหลาง เรียกใช้งาน มุสซ่า ซิสโซโก้ ลงช่วยตัดเกม ส่วนแนวรุกให้ ลูกัส มูร่า เล่นกับ แฮร์รี่ เคน โดย ซน ฮึง-มิน นั่งสำรอง
��� เปิดฉากมา 3 นาทีแรก แนวรับหงส์แดงเกือบพลาดจากบอลโยนยาว อลิสซอน ออกมาถึงบอลแต่รับหลุดมือ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ สกัดทิ้งไปได้
��� สเปอร์ส เน้นรัดกุม แล้วใช้ความเร็วของมูร่า ป่วนในแดนหน้า แต่ก็เป็น "หงส์แดง" ที่ขึ้นนำก่อน ใน น. 16 จากการเปิดของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ทางด้านซ้าย บอลหยดลงหัว โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่สอดมาระหว่างกองหลังโขกกดลงพื้นเป็นสกอร์ 1-0
��� เจ้าถิ่นคึกคักหลังขึ้นนำเร็ว จินี่ ไวนัลดุม แปะตั้งให้ ซาดิโอ มาเน่ ปั่นโค้งหลุดกรอบในอีก 5 นาทีต่อมา
��� สเปอร์ส ซึ่งนัดนี้ไม่มี เมาริซิโอ โปเชตติโน่ ที่ติดแบนห้ามคุมทีมข้างสนาม ได้ลุ้นจากบอลยาวมาถึงหน้าเขตโทษใน น. 23 อลิสซอน ออกมาโหม่งสกัดไปชนมิลเนอร์ ยังดีที่นายทวารเจ้าถิ่นหันกลับมาคว้าได้ทันก่อนเข้าทาง แฮร์รี่ เคน ที่อยู่ใกล้ๆ
��� ทีมเยือนมีโอกาสตอบโต้บ้างเมื่อ โรเบิร์ตสัน จ่ายขวางสนามพลาด เคน จ่ายต่อให้ เดเล่ อัลลี ซัดไกลข้ามคาน ใน น. 33
��� ลิเวอร์พูล ชวดได้ประตูที่สองแบบหวุดหวิดใน อีก 2 นาทีต่อมา ซาลาห์ จ่ายให้ มาเน่ ได้ปั่นจากหน้ากรอบเขตโทษ ทว่าบอลโค้งไม่พอเลยหลุดกรอบไปแบบมีลุ้น
��� ไก่เดือยทองได้ครองบอลมากขึ้นในช่วงท้าย แต่ไม่เด็ดขาดพอ หมดครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำอยู่ 1-0
���
��� ครึ่งหลังทั้งสองทีมไม่มีการเปลี่ยนแปลงทีม โดยสเปอร์ส ทักทายก่อนจากลูกยิงไกลของ คริสเตียน เอริคเซ่น แต่บอลลอยข้ามคานไปแบบไม่มีลุ้น
��� เจ้าถิ่นสร้างโอกาสเข้าทำจากลูกเตะมุมสั้น มิลเนอร์ โยนจากปีกขวาให้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ขึ้นโหม่งข้ามคาน ใน น.49
��� สเปอร์ส เริ่มเดินเกมรุกกดดันมากขึ้น แต่บอลยังไม่ถึง แฮร์รี่ เคน แต่หัวหอกทีมชาติอังกฤษยังหาจังหวะซัดด้วยซ้ายติดมือ อลิสซอน ก่อน คริสเตียน เอริคเซ่น ตามซ้ำเน้นๆ แต่ติดโรเบิร์ตสัน ตามบล็อกได้หวุดหวิดใน น. 55
��� เจ้าถิ่นได้โต้เร็วใน น. 59 ฟีร์มีโน่ จ่ายทะลุให้ซาลาห์ ลากจี้เข้าหาเขตโทษ แต่ปีกชาวอียิปต์ไม่จ่ายมาเน่ที่วิ่งทำทางไปด้านซ้าย แล้วเลือกยิงไปติดกองหลังเสียเอง
��� ไก่เดือยทองเป็นฝ่ายครองบอลเยอะขึ้นเมื่อผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม ก่อนที่โปเชตติโน่ จะสั่งให้ผู้ช่วยข้างสนามส่ง ซน ฮึง-มิน ลงมาแทน ดาวินซอน ซานเชซ ใน 20 นาทีท้าย
��� ถัดจากนั้นไม่นาน สเปอร์สฉวยโอกาสเล่นฟรีคิกเร็วตรงกลางสนาม เมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ไปฟาวล์ใส่ เคน หัวหอกสเปอร์สวางยาวออกปีกขวา คีแรน ทริปเปียร์ เติมขึ้นสูงก่อนจ่ายเข้ากลางให้เอริคเซ่น ที่ตวัดต่อมาให้ ลูกัส มูร่า โฉบมาซัดเต็มข้อ ตีเสมอ 1-1 ใน น. 70
��� ช่วงเวลาที่เหลือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ส่งสำรอง ดิว็อค โอริกี้ กับ ฟาบินโญ่ ลงแทนเฮนเดอร์สัน กับมิลเนอร์ แต่ก็ทำอะไรไม่ถนัด แถมเกือบเสียท่า ใน น.85 จากลูกโต้กลับ ซิสโซโก้ หลุดขึ้นไปพร้อมกับซน ฮึง-มิน แต่ ซิสโซโก้ เลือกยิงด้วยซ้ายข้ามคาน
��� ท้ายเกม ลิเวอร์พูล บุกแต่ก็เปิดพื้นที่ให้สเปอร์ส โต้สวยๆ เดเล่ อัลลี ปั่นโค้งเฉี่ยวสามเหลี่ยมไปอีก
��� แต่สุดท้าย หงส์แดงกลับมาได้ประตูชัยใน น. 90 จากลูกโยนทางปีกซ้าย ซาลาห์ โหม่งย้อนกลับมา อูโก้ โยริส ปัดไปชน โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ กลิ้งเข้าประตูตัวเอง ส่งให้ลิเวอร์พูล เฉือนชนะแบบเหลือเชื่อ 2-1 แซงกลับเป็นจ่าฝูงได้สำเร็จ
��� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
��� ลิเวอร์พูล : อลิสซอน เบ็คเกอร์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌเอล มาติป, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เจมส์ มิลเนอร์ (ดิว็อค โอริกี้ น.77), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (ฟาบินโญ่ น.77) จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ( เดยัน ลอฟเรน น.90+4), โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
��� สเปอร์ส : อูโก้ โยริส, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, ดาวินซอน ซานเชซ (ซน ฮึง-มิน น.69), แยน แฟร์ต็องเก้น, คีแรน ทริปเปียร์, คริสเตียน เอริคเซ่น (เฟร์นานโด ยอร์เรนเต้ น.90+1), มุสซ่า ซิสโซโก้, เดเล่ อัลลี, แดนนี่ โรส, แฮร์รี่ เคน, ลูกัส มูร่า (เบน เดวิส น.82)
��� ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ๊ตกินสัน