����� จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมกลายเป็นซูเปอร์ซับหลังลงมาสำรองโขกต่อให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โซโล่เดี่ยวเข้าไปซัดประตูแรกในรอบ 9 เกม และประตูที่ 50 ในพรีเมียร์ลีก ก่อนที่ห้องเครื่องทีมชาติอังกฤษจะมาซัดปิดกล่องให้ ลิเวอร์พูล บุกไปคว้าชัยเหนือเซาธ์แฮมป์ตัน 3-1 พร้อมพาทีมหยิบสามแต้มมี 82 คะแนน แซงแมนฯซิตี้2แต้มขึ้นนำเป็นจ่าฝูง แต่หงส์แข่งมากกว่าหนึ่งนัด ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา
��� สนาม : เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดี้ยม
��� ราล์ฟ ฮาเซ่นฮึทเทิ่ล กุนซือ "นักบุญ" พาทีมคว้าชัยมา 2 เกมติด แมตช์นี้กลับมาเฝ้ารังเปิด เซนต์ แมรี่ส์ รับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมฟอร์มร้อนที่คว้าชัย 4 เกมติดทุกรายการ และเกมนี้หากบุกมาเก็บสามแต้มได้จะแซง "เรือใบสีฟ้า" แมนฯซิตี้ นำจ่าฝูงทันที
��� โดยทางฝั่ง เซาธ์แฮมป์ตัน เกมนี้เน้นมารัดกุมจัดเซ็นเตอร์แบ็กสามราย เกมรุกสามตัวจัด เชน ลอง, เนธาน เร้ดมอนด์ และ เจมส์ วอร์ด-เพราส์
��� ส่วน เจอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนสองตำแหน่งจากเกมที่เฉือนสเปอร์ส พัก เจมส์ มิลเนอร์ และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน เป็นสำรองแล้วส่ง นาบี เกอิต้า และ ฟาบินโญ่ ปั้นเกมตรงกลางร่วมกับ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ส่วนสามประสานยังเหมือนเดิม โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และซาดิโอ มาเน่
��� เจ้าถิ่นเริ่มได้อย่างยอดเยี่ยม เพียงแค่ นาทีที่ 9 มาชิงขึ้นนำ "หงส์แดง" ไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ ไรอัน เบอร์ทรานด์ เปิดบอลทางด้านซ้ายไปให้ ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก โขกบอลเสยไปถึง เชน ลอง ที่ยืนโล่งๆ แปด้วยขวาสวนตัว อลิสซอน เสียบมุมซ้ายของประตูเข้าไป
��� นาที 15 เป็นโอกาสได้ลุ้นของฝั่ง "หงส์แดง" บ้าง โม ซาลาห์ ที่จังหวะแรกยิงไม่ได้ม้วนตัวก่อนเปิดด้วยซ้ายมากลางประตูให้ ซาดิโอ มาเน่ เทกตัวโขกลงพื้นแต่บอลไม่ห่าง แอนกุส กันน์ เซฟออกไปแม้ นาบี เกอิต้า จะตามซ้ำด้วยซ้ายแต่บอลไปเข้าข้างตาข่าย
��� นาที 19 เกมรับของลิเวอร์พูล เล่นกันพลาดเมื่อ อลิสซอน เล่นสั้นหน้าประตูตัวเองให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลไปติด เนธาน เร้ดมอนด์ ก่อนบอลจะมาถึง ไรอัน เบอร์ทรานด์ ครอสสเลียดเข้าไปถึง เชน ลอง ยิงไม่ดีบอลพุ่งผ่านหน้าประตู แต่ดีที่ ฟาน ไดค์ ตามมาเคลียร์บอลทิ้งไปได้
��� กระทั้ง นาที 36 "หงส์แดง" มาตามตีเสมอ 1-1 จนได้ บอลต่อเนื่องจากจังหวะที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ครอสสให้ โม ซาลาห์ โขกไม่โดนเลยมาเข้าเท้า เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดด้วยขวามาเสาไกลให้ นาบี เกอิต้า โถมขึ้นโขกสุดแรงบอลพุ่งลงเส้นแม้ แอนกุส กันน์ จะพุ่งปัดได้แต่บอลไปชนเสาเข้าประตูไป
��� ก่อนหมดเวลาแค่นาทีเดียว ทีมเยือนได้เสียวอีก จากจังหวะที่ เทรนท์ อาร์โนลด์ ทุ่มบอลให้ ซาลาห์ ไขว้บอลลงให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ซัดด้วยขวาบอลติดไซด์ออกหลังประตูไปอย่างน่าเสียดาย
��� จบครึ่งแรก เซาธ์แฮมป์ตัน เสมอกับ ลิเวอร์พูล 1-1
���
��� ครึ่งหลัง แข้งนักบุญเปิดเกมรุกเข้าใส่ นาที 53 จากความผิดพลาดของทัพหงส์ โดน แยน วาเลรี่ ตัดบอลได้ก่อนไหลเร็วให้ เชน ลอง ซัดไกลนอกกรอบบอลเหินข้ามคานไป
��� นาที 57 แฟนนักบุญเกือบใจเสีย เมื่อ นาบี เกอิต้า พาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนโดน มายะ โยชิดะ พุ่งสไลด์มาขวาง ผู้ตัดสินพอล เทียร์นี่ย์ไม่ว่าอะไร
��� อีกสองนาทีต่อมา เจอร์เก้น คล็อปป์ แก้เกมเปลี่ยนรวดเดียวสองคนถอดเอา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และจอร์จินโย่ ไวนัลดุม ออกแล้วส่ง เจมส์ มิลเนอร์ กับจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงเล่นแทน
��� นาที 62 ทัพหงส์เดินหน้าลุยเต็มสูบ บอลขึ้นทาง มาเน่ กระชากบอลถึงเส้นหลังทางซ้ายก่อนตบเข้ากลางให้ ฟีร์มีโน่ วิ่งมายิงไม่ดีหลุดกรอบออกไป
��� ทีมเยือนพยายามอย่างหนัก ไล่บี้โหมบุกเข้าเจ้าถิ่น แต่จังหวะสุดท้ายยังขาดๆเกินๆ นาที 77 เจมส์ มิลเนอร์ ตักบอลมาเสาสองให้ ฟีร์มีโน่ ขึ้นโขกแต่บอลเสียจังหวะหลุดออกหลังไป
��� กลายเป็น "หงส์แดง" มาเฮในช่วง 10 นาทีสุดท้าย จากจังหวะโต้กลับหน้าปากประตูตัวเอง เฮนเดอร์สัน โขกต่อให้ โม ซาลาห์ ใช้ความเร็วควบบอลจากแดนตัวเองขึ้นไปก่อนจะตัดสินใจซัดด้วยซ้ายข้างถนัดบอลพุ่งเสียบมุมขวามือประตูเข้าไปให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 2-1 ซึ่งเป็นประตูแรกในรอบ 9 เกมทุกรายการ อีกทั้งยังเป็นประตูที่ 50 ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ
��� เท่านั้นไม่พอ นาที 86 "หงส์แดง" มาได้ประตูหนีห่างเป็น 3-1 จากจังหวะสวนกลับบอลขึ้นทาง ฟีร์มีโน่ ก่อนที่ดาวยิงบราซิเลี่ยนจะปาดบอลไปในกรอบโล่งๆให้ เฮนเดอร์สัน วิ่งมายิงเข้าไปง่ายๆ
��� จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาคว้าชัยเหนือ เซาธ์แฮมป์ตัน แบบสนุก 3-1 เก็บสามแต้มพร้อมแซง แมนฯซิตี้ ขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง มี 82 คะแนนมากกว่า "เรือใบ" สองแต้ม ส่วน เซาธ์แฮมป์ตัน ยังรั้งอันดับ 16 มี 33 คะแนนมากกว่า คาร์ดิฟฟ์ โซนตกชั้นแค่ 5 คะแนน
������� รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
������ เซาธ์แฮมป์ตัน (3-4-3) : แอนกุส กันน์ - แยน เบดนาเร็ค, มายะ โยชิดะ, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด (ชาร์ลี ออสติน น.83) - แยน วาเลรี่, โอริโอล โรเมว (สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง น.83), ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, ไรอัน เบอร์ทรานด์ - เจมส์ วอร์ด-เพราส์, เชน ลอง (โจชัว ซิมส์ น.62), เนธาน เร้ดมอนด์
������� สำรองไม่ได้ใช้: อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ย์, แมตต์ ทาร์เก็ตต์, แจ็ค สตีเฟ่นส์, แซม กัลลาเกอร์
������� ผู้จัดการทีม : ราล์ฟ ฮาเซ่นฮึทเทิ่ล
������� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.59), โฌแอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - นาบี เกอิต้า (เดยัน ลอฟเรน น.88), ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม (เจมส์ มิลเนอร์ น.59) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
������� ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์
������� สำรองไม่ได้ใช้: ซิมง มิโญเลต์, ดิว็อค โอริกี้, อัลแบร์โต้ โมเรโน่, เซอร์ดาน ชากิรี่
������� ผู้ตัดสิน : พอล เทียร์นี่ย์