��������� โฆเซ่ เอ็นริเก้ อดีตแบ็คซ้ายชาวสเปนเชียร์ให้ 'หงส์แดง' ลิเวอร์พูลเซ็นสัญญากับ แดนนี่ อิงส์ ที่เหลือสัญญาแค่ปีเดียวกับเซาแธมป์ตันกลับมาล่าตาข่ายในถิ่นแอนฟิลด์อีกครั้ง
��������� อิงส์ที่มีสัญญาอยู่กับเซาแธมป์ตันถึงกลางปีหน้า เพิ่งปฏิเสธสัญญาใหม่ที่สโมสรยื่นให้ล่าสุด ทั้งๆ ที่จะทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงสุดของสโมสรนักบุญก็ตาม และนั่นทำให้มีข่าวตามมาว่ากองหน้าทีมชาติอังกฤษรายนี้ตัดสินใจแล้วว่าจะย้ายออกจากถิ่นเซนต์ แมร์รี่
��������� ทันทีที่ทราบข่าวอดีตเพื่อนร่วมทีมรายนี้ เอ็นริเก้รีบออกมาเชียร์ให้ลิเวอร์พูลตัดสินใจซื้อตัวเขากลับมาร่วมทีมเลย
��������� "โอ้ พระเจ้า กับข่าวนี้" เอ็นริเก้โพสต์ความเห็นในโซเชียล มีเดีย
��������� "นั่นเยี่ยมเลย มันเป็นเรื่องน่าเศร้าเพราะว่ากองหน้าที่ผมชื่นชอบสำหรับลิเวอร์พูลในปีหน้าคือ บ็อบบี้ (โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่) และ (ดิโอโก้) โชต้า ที่สามารถเล่นตรงนั้นได้เช่นเดียวกับ (โมฮาเหม็ด ซาลาห์) บางครั้ง"
�������� "แต่ฟังผมน่ะ นี่คือทางเลือกที่ไม่มีใครพูดมาก่อนและมันคือข่าวในตอนนี้ สำหรับผมมันคงเยี่ยมเลย (ถ้าลิเวอร์พูลตัดสินใจดึง อิงส์ กลับมา)"
��������� "ผมรู้จักแดนนี่ดีมากๆ เขาเป็นคนยอดเยี่ยมและการทำงานของเขาก็น่าประทับใจ ที่เห็นชัดเขาเคยอยู่กับลิเวอร์พูลมาก่อน และพวกเรารู้ว่าแฟนๆ รักเขามากแค่ไหน"
��������� "เขาทุ่มเท 100 เปอร์เซ็นต์เสมอในสนาม เขาเหมือนร็อบโบ้ (แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน), มิลลี่ (เจมส์ มิลเนอร์) และ เฮนโด้ (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน) นักเตะในแบบที่มีทัศนคติที่ยอดเยี่ยม, การทำงานที่ยอดเยี่ยม และเปี่ยมไปด้วยคุณภาพที่ยอดเยี่ยม"
��������� "มันคงเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ที่ได้เขากลับมา และผมเชื่อว่าราคาจะไม่แพงเวอร์แน่สำหรับนักเตะที่เหลือสัญญาอีกแค่ปีเดียว แน่นอน ผมเชื่อว่าเขาคือทางเลือกที่ดีของพวกเรา"
��������� สำหรับอิงส์นั้นเคยอยู่กับลิเวอร์พูล โดยย้ายมาจากเบิร์นลีย์เมื่อปี 2015 ซึ่งช่วงแรกอิงส์ก็ทำประตูได้ติดๆ กันหลายนัด แต่โชคร้ายมาได้รับบาดเจ็บหนักไปถึงสองครั้งทำให้ห่างการลงสนามไปร่วมสองปี สุดท้ายหายเจ็บกลับมาแย่งตำแหน่งในทีมไม่ได้ ลิเวอร์พูลเลยส่งเขาไปให้เซาแธมป์ตันใช้งาน ก่อนไปโชว์ฟอร์มดีในการเล่นแบบยืมตัว และทีมนักบุญก็ตัดสินใจคว้าแข้งรายนี้ไปร่วมทีมถาวรในปี 2019
�������
��������� โดยผลงานใน 2 ฤดูกาลหลังของอิงส์กับเซาแธมป์ตันนั้น เขาทำไปได้ถึง 38 ประตูในทุกรายการ ก้าวมาเป็นตัวหลักของทีมและกลับไปมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่อีกครั้งเมื่อปีที่ผ่านมา