��������� เยอร์เก้น คล็อปป์กล่าวชื่นชมจอร์แดน เฮนเดอร์สันกัปตันทีมของลิเวอร์พูลหลังโชว์ฟอร์มช่วยพลิกเกมในการเจอกับเซาแธมป์ตันเมื่อวันศุกร์ แถมบอกว่าถ้าให้เขียนหนังสือถึงเขาคงหนา 500 หน้า

��������� ดาวเตะทีมชาติอังกฤษไม่ได้เป็นตัวจริงในการไปเยือนถิ่นเซนต์ แมรี่แต่ก็โดนเปลี่ยนตัวลงสนามครึ่งหลัง ก่อนจะมีส่วนช่วยลิเวอร์พูลเป็นอย่างมากในการคว้าชัย 3-1 และขยับกลับไปนำจ่าฝูงอีกครั้ง

��������� เฮนเดอร์สันเอาชนะลูกกลางอากาศที่ทำให้โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ยิงประตูพา"หงส์แดง"ออกนำอีกครั้ง จากนั้นเขาก็เป็นคนทำประตูปิดท้ายจากลูกจ่ายของโรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่

��������� คล็อปป์กล่าวชื่นชมแข้งวัย 28 ปีเป็นอย่างมากและชี้ว่าเฮนเดอร์สันรับมือกับความกดดันในการสานตำแหน่งต่อจากสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดได้เป็นอย่างดี

��������� "ประตูนั้นมีความหมายกับเขาและกับเราเป็นอย่างมาก เขาเป็นเด็กที่วิเศษ เขาสมควรได้รับคำชมทั้งหมดแล้วแต่เขาไม่ได้รับคำชมมากเกินไปนัก"คล็อปป์ให้สัมภาษณ์
���������
��������� "จากมุมมองของผมแล้วเฮนโด้เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม เขาคือกัปตันของเรา, มีคาแร็คเตอร์ที่วิเศษ ถ้าผมต้องเขียนหนังสือถึงเกี่ยวกับเฮนโด้มันก็คงหนา 500 หน้า"

��������� "ดังนั้นผมมองโลกในแง่ดีเป็นอย่างมาก งานที่ยากที่สุดในช่วง 500 ปีหลังสุดของฟุตบอลคือการแทนที่สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ในใจของคนน่ะแบบว่าถ้าไม่ใช่สตีวี่ก็แปลว่าไม่ดีพอ"

��������� "และเขารับมือกับเรื่องนั้นได้อย่างยอดเยี่ยมดังนั้นเขาภูมิใจได้เลย ตอนนี้เราต้องคิดถึงอนาคตและเขาก็เป็นส่วนสำคัญมากๆต่อทีมเรา"

��������� เฮนเดอร์สันถูกจับยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวต่ำภายใต้การคุมทีมของคล็อปป์ แต่ในสมัยที่ย้ายมาเล่นในแอนฟิลด์ช่วงแรกๆเขามีบทบาทแบบบ็อกซ์ทูบ็อกซ์มากกว่า

��������� ประโยชน์ของเฮนเดอร์สันในบทบาทนั้นเห็นได้ชัดจากเกมเมื่อคืนวันศุกร์ และคล็อปป์เผยว่าอาจจะให้กัปตันเล่นในบทบาทนั้นอีกครั้ง

��������� "ผมเห็นเขาเป็นแบบนั้นล่ะ นั่นคือจอร์แดน นั่นคือเขา"

��������� "ตอนที่ผมย้ายมาและครุ่นคิดเรื่องทีมเป็นครั้งแรก เฮนโด้คือนักเตะแบบบ็อกซ์ทูบ็อกซ์ เราให้เขายืนมิดฟิลด์ตัวต่ำและได้ผลดี ผมว่ามันช่วยเขาได้เยอะที่ได้เล่นในตำแหน่งแตกต่างจากเดิม"

��������� "ผมบอกเขาว่ามันไม่ได้หมายถึงเขาจะไม่ได้เล่นตำแหน่งตัวต่ำอีกครั้ง เขาคิดว่ามันเมคเซนส์และมันก็จริงตามนั้น เราเล่นด้วยระบบที่ไม่เหมือนเดิม"

��������� "มิลลี่กับเฮนโด้ต่างคึกเป็นอย่างมาก มันช่วยเราได้เยอะ"