������� "หงส์แดง" ทะยานขึ้นนำจ่าฝูงอีกครั้ง หลังไล่ถล่ม ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทีมบ๊วยที่ตกชั้นไปแล้วแบบขาดลอย 5-0 นาบี้ เกอิต้า หวดเบิกร่องแค่ 15 วินาทีแรกทำสถิติยิงเร็วสุดในลีกของสโมสร ก่อนที่ซาดิโอ มาเน่และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะพังคนละสองประตู ทว่าดาวยิงเลือดอียิปต์ทะยานขึ้นนำดาวซัลโวที่ 21 ประตู ให้ทีมคว้าชัยแซงเรือใบสองแต้มรั้งจ่าฝูงมี 91 คะแนน ทว่าทัพหงส์แข่งมากกว่าหนึ่งนัด ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา
������� สนาม : แอนฟิลด์
��� "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูง เกมนี้หากชนะฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ได้จะแซง "เรือใบสีฟ้า" ขึ้นไปนั่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง
���� โดยเกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ของลิเวอร์พูล ไร้ชื่อ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่มีอาการเจ็บทำให้ต้องพักเพื่อฟิตให้ทันเกมบุกไปเยือน บาร์เซโลน่า ในวันพุธที่ 1 พฤษภาคม นี้ ทำให้เกมนี้ต้องส่ง ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ลงเป็นหน้าเป้า ประสานงานกับซาดิโอ มาเน่ และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทั้งข่าวดียังได้ อเล็กซ์ ออกซ์เลด แชมเบอร์เลน ที่บาดเจ็บไปนานปีกว่ากลับมามีชื่อบนม้านั่งสำรองเป็นเกมแรก
��� ส่วนทางด้าน ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทีมเยือนแม้จะตกชั้นไปแล้วแต่ยังบุกมาเล่นเต็มที่ ทิ้ง สตีฟ มูนี่ เป็นหน้าเป้า และปล่อยให้ จูนินโญ่ บาคูน่า ปั้นเกมตรงกลางร่วมกับ อิซัค เอ็มเบนซ่า และคาร์ลาน แกรนท์
��� และเพียงแค่ 15 วินาทีแรก ลิเวอร์พูล ทะยานขึ้นไปนำก่อนอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ นาบี เกอิต้า วิ่งเข้าไปบล็อคลูกเปิดของ ยอน สแตนโควิช บอลมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก่อนป้ายเร็วให้ เกอิต้า หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาผ่าน โยนาส ลอสเซิ่ลนายด่านทีมเยือนเช็ดโคนเสาเข้าไป เป็นประตูที่เร็วที่สุดในลีกของหงส์แดง
��� ถัดมาไม่ถึงสองนาที จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ผ่านบอลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ซัดไกลนอกกรอบบอลพุ่งแรงจน ลอสเซิ่ล ต้องทุบบอลออกมา ไม่ถึงนาทีต่อมา ยอน สแตนโควิช มีลุ้นแก้ตัวหลังกดด้วยขวาเสาแรกบอลไปติด ลอฟเรน บล็อคบอลออกหลังหวุดหวิด
��� นาที 15 บอลสวนกลับเร็วของลิเวอร์พูล โม ซาลาห์ กระชากบอลมาเองก่อนจะจิ้มบอลด้วยเท้าขวาบอลพุ่งเข้าข้างตาข่ายแบบได้เสียวเหมือนกัน อีกสองนาทีต่อมาได้ลูกเตะมุม เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดเตะมุมจากฝั่งซ้ายมาให้ เฟอร์กิลฟาน ไดค์ หนีตัวประกบก่อนโขกเฉียดคานไปนิดเดียว
��� นาที 23 แฟนๆเดอะ ค็อป ในแอนฟิลด์ได้เฮกันลั่นเลย เมื่อเจ้าบ้านมานำห่างเป็น 2-0 ฟาน ไดค์ ตัดบอลได้จากกลางสนามก่อนพาบอลแล้วป้ายออกซ้ายให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ครอสบอลอย่างแม่นยำให้ ซาดิโอ มาเน่ ที่ยืนไร้ตัวประกบเทคตัวโขกบอลลงพื้นตุงตาข่ายอย่างสวยงาม เป็นประตูที่ 19 ในพรีเมียร์ลีก
��� ท้ายเกม นาที 43 ทัพหงส์ชวดได้ประตูที่สามแบบน่าเสียดาย เฮนเดอร์สัน พาบอลขึ้นมาก่อนจ่ายออกซ้ายให้ มาเน่ ก่อนจังหวะต่อมาจะจ่ายเร็วให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ครอสบอลเร็วไปหน้าประตู โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่งมาหวดแต่บอลไปโดนแนวรับทีมเยือนสกัดมาเข้าทาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วิ่งมาหวดด้วยซ้ายเต็มข้อบอลเหินคานออกไป
��� กระนั้นช่วงทดเวลาเจ็บ นาที 45+1 เร้ด แมชีน พังตาข่ายเม็ดที่สามจนได้ จากจังหวะที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ตักบอลข้ามแนวรับฮัดเดอร์สฟิลด์ ให้ โม ซาลาห์ สปีดควบเข้าไปแล้วยกบอลข้ามตัว โยนาส ลอสเซิ่ล ส่งบอลข้ามเส้นเป็นประตูอย่างเหนือชั้น เป็นประตูที่ 20 ในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ ขึ้นรั้งดาวซัลโวเดี่ยวๆ และฉลองการลงสนามให้ "หงส์แดง" เกมที่ 100 ทุกรายการ
��� จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ได้ประตูนำห่าง ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 3-0���
��� กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง แค่นาที 48 เกือบได้ลุ้นเม็ดที่สี่เลย บอลวางยาวจากกลางสนาม ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หลุดเข้าไปจะซัดบอลอยุ่แล้วแต่กลายเป็น ซาดิโอ มาเน่ ที่วิ่งมาแย่งซีนซัดด้วยขวาบอลเหินคานไป
��� อีกสองนาทีต่อมา เฮนเดอร์สัน ทำเสียบอลก่อนโดนแทงบอลทะลุให้ คาร์ลาน แกรนท์ หลุดเข้าไปกำลังจะง้างเท้ายิงอยู่แล้วแต่ นาบี เกอิต้า ยังวิ่งเคลียร์บอลออกไปก่อนชนิดหวุดหวิด
��� นาที 54 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ครอสบอลเร็วไปหน้าประตูให้ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ พุ่งมาชาร์จบอลเสียบเสาสอง แต่ไลน์แมนยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้าทำให้ "หงส์แดง" ชวดประตูที่ 4
��� นาทีเดียวถัดมา ฮัดเดอร์สฟิลด์ ได้เสียวบ้าง จูนินโญ่ บาคูน่า หวดด้วยขวาเต็มแรงบอลพุ่งตรงกรอบแต่ อลิสซอน ยังเซฟช่วยทีมได้
��� นาที 62 ซาลาห์ เรียกเสียงฮือฮาได้อีก รับบอลจาก โรเบิร์ตสัน ก่อนกระดกหลบ เทอร์เรนซ์ คองโกโล่ อย่างเหนือชั้นแล้ววอลเลย์เต็มแรงด้วยซ้ายบอลพุ่งถากเสาแรกออกไป
��� จนแล้วจนรอด นาที 66 ลิเวอร์พูล นำโด่งเป็น 4-0 จนได้ บอลเปิดเร็วของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ทางด้านขวาบอลลอยโด่งมาเข้าหัว ซาดิโอ มาเน่ โขกย้อนไปเสาไกลหมดสิทธ์ที่ โยนาส ลอสเซิ่ล เป็นประตูที่สองในเกมนี้มีลุ้นแฮตทริก และประตูที่20 เท่ากับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รั้งดาวซัลโวร่วม
�� นาที 73 ลิเวอร์พูล เปลี่ยนรวดเดียวสองคนส่ง เซอร์ดาน ชากิรี่ ลงมาเล่น จอร์จินโย่ ไวนัลดุม และถอดเอา ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ออกแล้วส่ง อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน ลงสนามเป็นเกมแรกในรอบ 1 ปี กับอีก 2 วัน หลังเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บหนักจากเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พบกับโรม่า รอบรองชนะเลิศเมื่อ 24 เมษายนปีที่แล้ว
��� นาที 78 ซาดิโอ มาเน่ พลาดโอกาสทำแฮตทริกอย่างน่าเสียดาย หลังถอยหลังโขกบอลจ่อๆ หน้ากรอบแต่บอลดันไปชนเสาแบบน่าเจ็บใจ
��� นาที 83 หงส์แดง มาได้ประตูที่ 5 จนได้ และเป็นเซอร์ดาน ชากิรี่ ที่แทงบอลทะลุให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ปาดเข้ามาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เข้าชาร์จเผาขนให้ ลิเวอร์พูล นำโด่ง 5-0 และเป็นประตูที่สองในเกมนี้พร้อมนำดาวซัลโวแซงมาเน่เป็น 21 ประตู ขณะที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ฟอร์มฮอตเหลือเกินแอสซิสต์ในซีซั่นนี้ไปแล้ว 11 เม็ด
��� จบเกม ลิเวอร์พูล ไล่ถล่ม ฮัดเดอร์สฟิลด์ ขาดลอย 5-0 พร้อมทวงจ่าฝุงคืนจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชั่วคราวหลังแข่งมากกว่าหนึ่งนัดมี 91 คะแนนมากกว่า "เรือใบ" สองแต้ม
��� รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
������� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (โจ โกเมซ น.88), เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์จินโย่ ไวนัลดุม (เซอร์ดาน ชากิรี่ น.73), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, นาบี เกอิต้า - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน น.73), ซาดิโอ มาเน่
������� ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์
������� ฮัดเดอร์สฟิลด์ (4-1-4-1) : โยนาส ลอสเซิ่ล - ทอม สมิธ, คริสโตฟ ชินด์เลอร์, เทอร์เรนซ์ คองโกโล่, เอริก ดวร์ม - ยอน สแตนโควิช (อเล็กซ์ พริทชาร์ด น.81) - อิซัค เอ็มเบนซ่า (เอลิอาส คาชุนก้า น.87, จูนินโญ่ บาคูน่า, โจนาธาน ฮ็อกก์, คาร์ลาน แกรนท์ - สตีฟ มูนี่ (คริส เลอเว่ น.65)
������� ผู้จัดการทีม : แยน ซีแวร์ต
������� ผู้ตัดสิน : เควิน เฟรนด์