��������� เท็ด มอร์ริส ประธานแฟนบอลคนพิการของ ลิเวอร์พูล เปิดเผยรายละเอียดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติกับพวกเขาเหมือนสัตว์โดยไม่สนว่าเขาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย กับเหตุการณ์วุ่นวายหน้าสนาม สต๊าด เดอ ฟรองซ์ สังเวียนนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เมื่อ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา จนทำให้เกมการแข่งขันต้องเลื่อนเวลาคิกออฟออกไป
��������� ตัวแทนแฟนบอลผู้พิการของ ลิเวอร์พูล ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจฝรั่งเศสปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรุนแรงในระหว่างเกิดความโกลาหลและแออัดยัดเยียด หลังจากมีแฟนบอลมารอเข้าสนามเกินความจุ ซึ่งมีการใช้ทั้งแก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทยกับแฟนบอลบางส่วน ขณะที่แฟนบอลผู้พิการรายหนึ่งซึ่งนั่งรถเข็นมา ยังต้องถูกยกข้ามประตูที่ล็อกไว้ในระหว่างที่พยายามหลบหนีจากการสลายฝูงชนด้วย
��������� ทั้งนี้ เชอรัลด์ ดาร์มานิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศส เคยบอกว่ามีเพียงแฟนบอลชาวอังกฤษเท่านั้นที่ก่อความวุ่นวายนอกสนาม ทำให้ล่าสุด เท็ด มอร์ริส ออกมาโต้แย้งข้อกล่าวหาและได้รายงานต่อวุฒิสภาฝรั่งเศสเกี่ยวกับเหตุการณ์ พร้อมกับเรียกร้องให้ ดาร์มานิน ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้
��������� ด้าน เท็ด มอร์ริส ได้ชี้แจงกับวุฒิสภาฝรั่งเศสว่า "ผมและภรรยา เรารักฝรั่งเศสและปารีส แต่คุณดาร์มานินโกหกเกี่ยวกับเรื่องนี้ และผมขอให้คุณถอนคำพูดจากข้อกล่าวหาของคุณ และถ้าคุณคิดว่ามันเหมาะสมแล้วที่จะกล่าวหาแบบนั้น ผมหวังว่าคุณคงมีความเหมาะสมที่จะลาออก"
��������� "หายนะครั้งใหญ่ควรได้รับการหลีกเลี่ยง ไม่มีอำนาจใดสามารถช่วยเหลือแฟนบอลผู้พิการได้ ซึ่งพวกเราได้รับการปฏิบัติเหมือนสัตว์ ณ จุดนี้ ผมและภรรยาไม่ได้สนใจการแข่งขันเกมนี้อีกต่อไปแล้ว เราจะออกจากสนามในนาทีที่ 86 แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าเราออกไปไม่ได้ เพราะมีคนพยายามจะเข้าไปในสนาม"
��������� "ไม่กี่นาทีต่อมาในอุโมงค์ บริเวณทางออกของสนามซึ่งอยู่ในสายตาของตำรวจ ก็มีคนท้องถิ่นโจมตีเรา และมันก็น่ากลัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแฟนบอลผู้พิการ เมื่อเราเดินไปที่สถานีรถไฟ เราได้แต่หวังว่าตำรวจจะเข้าไประงับเหตุการณ์ มันเป็นประสบการณ์การเชียร์ฟุตบอลที่แย่ที่สุดเลยทีเดียว"