����� บาร์เซโลน่า โอกาสผ่านเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศนั้นมีสูง หลังโชว์ฟอร์มสุดโหดในนัดแรกไล่ถล่ม ลิเวอร์พูล 3-0 หลุยส์ ซัวเรซ ยิงเบิกร่องครึ่งแรก ก่อนที่ลิโอเนล เมสซี่จะร่ายมนต์ร้ายกาจเหมาสองเม็ดครึ่งหลังและเป็นประตูที่ 600 ในชีวิตการค้าแข้ง กุมความได้เปรียบไว้ได้ก่อน โดยเกมที่สองจะมาเล่นต่อที่แอนฟิลด์ในวันอังคารหน้า ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อคืนวันพุธที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
���� สนาม : คัมป์ นู (ผู้ชม 98, 299)
����� บาร์เซโลน่า จ่าฝูงลีกสเปน เปิดคัมป์นูรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ทีมรองจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกล่าสุด โดยสถิติในการเจอกันนั้นล่าสุด "หงส์แดง" ไล่ถล่มบาร์ซ่าในเกมปรีซีซั่น อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ 4-0 ขณะที่ผลงานใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เจอกันล่าสุดเมื่อปี 2006-07 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งเกมแรก ลิเวอร์พูล บุกไปชนะบาร์ซ่ามาถึงคัมป์นู 2-1 ก่อนจะมาพ่ายในแอนฟิลด์ 0-1 แต่ "หงส์แดง" เข้ารอบต่อไปด้วยกฎประตูทีมเยือน
����� ส่วนซีซั่นนี้ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เทรนเนอร์บาร์เซโลน่า พาทีมเจอกับสโมสรจากผู้ดี 4 เกม ในรอบแบ่งกลุ่ม เสมอและชนะ สเปอร์ส ก่อนจะมาปราบ "ปีศาจแดง" ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วยสกอร์รวมสองนัด 4-0 ส่วนผลงานในลีก ล่าสุดการันตีแชมป์ลีกได้แล้วหลังเปิดบ้านบดเอาชนะ เลบันเต้ 1-0 และยังอยู่บนเส้นทางลุ้นทริปเปิ้ลแชมป์ในปีนี้อีกด้วย
��� โดยเกมนี้สภาพทีมสมบูรณ์ นำทัพโดยสามแนวรุกสุดโหดทั้ง ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ และฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ขณะที่แดนกลางมี อิวาน ราคิติช, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ และอาร์ตูโร่ วิดาล
��� ทางฝั่งทีมเยือน "หงส์แดง" ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผลงานสุดยอดมากชนะมารวด 11 เกมติดทุกรายการ ล่าสุดเพิ่งเปิดแอนฟิลด์ถล่ม ฮัดเดอร์สฟิลด์ 5-0
��� สำหรับเกมนี้เครียดไม่น้อยเมื่อ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ไม่ผ่านความฟิตลงตัวจริง แต่มีชื่อสำรองข้างสนามโดยแนวรุกฝากความหวังไว้ที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และซาดิโอ มาเน่ โดยมี จอร์จินโญ่ ไวนัลดุม สนับสนุน ส่วนตรงกลาง ฟาบินโญ่ สตาร์ตัวจริงลงปั้นเกมร่วมกับ นาบี เกอิต้า และเจมส์ มิลเนอร์
��� เกมเปิดฉากมาสนุก แค่ไม่ถึงสองนาที โม ซาลาห์ ตะลุยเลี้ยงเข้าไปในกรอบแต่จังหวะล็อกแล้วซัดด้วยซ้ายไปติดแนวรับเจ้าถิ่น อีกสองนาทีต่อมา บาร์ซ่าหวิดได้ลุ้นขึ้นนำ อีวาน ราคิติช ทำชิ่งหนึ่งสองกับ คูตินโญ่ ก่อนที่ห้องเครื่องชาวโครแอตจะหลุดเข้าไปถึงเส้นหลังแต่จังหวะจะปาดมาให้ ซัวเรซ ยังไปติดบล็อก มาติป ช่วยสกัดแบบหวุดหวิด ก่อนถัดมา คูตี้ จะเปิดคอนเนอร์มาเสาสองให้ หลุยส์ ซัวเรซ พุ่งโขกชนข้างตาข่าย
��� บอลเล่นกันเร็ว แลกกันสนุกมาก นาที 12 เมสซี ตะลุยเข้าไปในกรอบก่อนจะโดน มาติป มาตามบล็อกแม้บอลจะกระดอนไปโดนมือจน เมสซี่ ฟ้องเชิ้ตดำว่าเป็นแฮนด์บอลแต่ก็ไม่เป็นผล�
�� นาที 15 โอกาสยิงเข้ากรอบหนแรกกลายเป็นเจ้าถิ่นที่ได้ลุ้น เมื่อ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ได้อัดนอกกรอบเต็มแรงแต่บอลยังไม่พ้นตัว อลีสซอน ที่รับเข้าซองไว้ได้
� นาที 20 เกมต้องหยุดหลัง นาบี เกอิต้า มีอาการเจ็บและเล่นต่อไม่ไหวจน เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องเปลี่ยนตัวคนแรกด้วยการส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมลงมาเล่นแทน
� นาที 26 เหล่าอาซูลกราน่าในคัมป์นูต้องเฮลั่นสนามแตก เมื่อ บาร์เซโลน่า ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะโยนยาวมาทางซ้ายให้ คูตินโญ่ เอาบอลลงก่อนคืนหลังให้ จอร์ดี ้อัลบา เปิดบอลเลียดตัดแนวรับไปที่จุดนัดพบเสาแรกให้ หลุยส์ ซัวเรซ พุ่งมาสไลด์ด้วยบอลเท้าขวาเปลี่ยนทางสวนตัว อลีสซอน เข้าไป
�� นาที 35 ลิเวอร์พูล เกือบได้ลุ้นตีเสมอบ้าง บอลขึ้นจากแดนหลังมาให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ก่อนห้องเครื่องวัย 28 ปี จะเปิดตัดหลังทะลุถึง มาเน่ วิ่งมาโฉบยิงบอลเหินคานไปแบบได้เสียว
�� อีกสองนาทีถัดมา "หงส์แดง" ได้ลุ้นต่อ บอลมาถึง โม ซาลาห์ บังบอลก่อนหมุนตัวอัดด้วยซ้ายแต่ไปติดบล็อค ล็องก์เล่ต์ ทว่าแถวสอง เจมส์ มิลเนอร์ เก็บได้แล้วสับไกซัดเต็มข้อบอลพุ่งหลุดกรอบไปแบบได้ลุ้นเหมือนกัน
�� จบครึ่งแรก บาร์เซโลน่า ออกนำ ลิเวอร์พูล 1-0
�� ครึ่งหลัง เปิดฉากมาได้ไม่ถึงสองนาที ลิเวอร์พูล เกือบไล่เจ๊าสำเร็จ หลัง ไวนัลดุม คืนบอลให้ เจมส์ มิลเนอร์ วิ่งมาแปด้วยขวาบอลพุ่งจะเสียบเสาไกลอยู่แล้วแต่ มาร์ก-อันเดร แทร์ ชเตเก้น ยังเร็วพุ่งมาปัดบอลออกหลังหวุดหวิด
�� นาที 53 แทร์ สเตเก้น ต้องออกแรงพุ่งปัดอีกรอบ หลัง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดด้วยซ้ายนอกกรอบบอลพุ่งเกือบเสียบเสาสองแต่นายด่านชาวเยอรมันยังปฎิเสธออกไปได้
� กลายเป็นอาคันตุกะ เร้ด แมชีน ที่เดินเครื่องรุกเต็มสูบ นาที 59 ได้ลุ้นอีกครั้ง เป็นจังหวะเข้าทำอันสวยงามเริ่มจากแดนหลังวางยาวมาให้ ซาลาห์ เอาบอลลงอย่างนิ่มนวล ก่อนเลี้ยงตัดเข้ากลางจ่ายให้ จอร์จินโญ่ ไวนัลดุม ข้ามหลอกมาถึง เจมส์ มิลเนอร์ วิ่งมาแปเต็มแรงแต่บอลไม่หนีมือ แทร์ ชเตเก้น ที่พุ่งรับบอลไว้ได้หนึบ
� นาที 75 เมื่อทัพหงส์ดาหน้าบุกแต่ไม่ได้ประตู กลายเป็นเจ้าถิ่นที่ตอบโต้ด้วยการนำห่าง 2-0 แบบเจ็บปวด จากจังหวะที่ ลิโอเนล เมสซี่ พาบอลขึ้นมาก่อนแทงเข้าในกรอบ บอลไปโดนโรเบิร์ตสันเบียดจนกระดอนมาเข้าทาง ซัวเรซ ใช้เข่ากระแทกไปชนคาน บอลตกหน้าประตูมาเข้าทาง เมสซี่ ที่ยืนโล่งๆคนเดียวตามซ้ำเข้าไปไม่เหลือ เป็นประตูแรกที่ เมสซี่ ยิงใส่ลิเวอร์พูลได้นับแต่เจอกันมา
�� นาที 82 สถานการณ์ของ "หงส์แดง" ย่ำแย่ไปอีก เมื่อมาเสียประตูที่สาม จากความเหนือชั้นของ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ปั่นฟรีคิกนอกกรอบบอลข้ามกำแพงพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปชนิดที่ อลีสซอน หมดสิทธิ์เซฟ� บาร์เซโลน่า นำห่าง 3-0
� ถัดมา นาที 84 หงส์แดง เกือบตีไข่แตกได้บ้าง เมื่อมิลเนอร์ยิงยัดเข้าไปบอลไปติดแนวรับเจ้าถิ่นสกัดบนเส้น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตามซ้ำด้วยซ้ายจ่อๆ แต่บอลไปพุ่งชนเสาแบบน่าเสียดาย
�� ท้ายเกมช่วงทดเจ็บ นาที 90+6 เจ้าบุญทุ่มน่าจะได้ประตูที่สี่ หลังจังหวะสวนกลับเจ้าถิ่น เมสซี่ พาบอลตะลุยกินแดนก่อนไหลบอลนิ่มๆ ให้ อุสมาน เดมเบเล่ ตัวสำรองที่ลงมาได้ซัดเหน่งๆหน้าประตูแต่ยิงไปตรงตัว อลีสซอน
� ช่วงเวลาทีเ่หลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม บาร์เซโลน่า โชว์ฟอร์มโหดไล่ถล่ม ลิเวอร์พูล 3-0 กุมความได้เปรียบในเกมแรกไว้ได้ ก่อนที่นัดที่สองจะบุกไปเล่นที่ แอนฟิลด์ บ้านของลิเวอร์พูล ในวันอังคารที่ 7 พฤษภาคม นี้
����� รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม����
���
������� บาร์เซโลน่า (4-3-3) : มาร์ก-อันเดร แทร์ ชเตเก้น - เซร์จี้ โรแบร์โต้ (การ์เลส อาเลนญ่า น.90+4), เคราร์ด ปีเก้, เกลม็องต์ ล็องก์เล่ต์, จอร์ดี้ อัลบา - อิวาน ราคิติช, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อาร์ตูโร่ วิดาล - ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ (อุสมาน เดมเบเล่ น.90+3), ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (เนลซอน เซเมโด้ น.60)
������� เทรนเนอร์ : เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้
�
������� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซอน เบ็คเกอร์ - โจ โกเมซ, โฌแอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - เจมส์ มิลเนอร์ (ดิว็อก โอริกี้ น.84), ฟาบินโญ่, นาบี เกอิต้า (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.24) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, จอร์จินโญ่ ไวนัลดุม (โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ น.78)
������� เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์
������� ผู้ตัดสิน : บียอร์น ไคเปอร์ส (ฮอลแลนด์)