������� เอริก เทน ฮาก ประเดิมคุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อย่างสวยหรูด้วยการถล่ม คู่อริอย่าง ลิเวอร์พูล กระจุย 4-0 โดยเป็นการรัวไม่ซ้ำหน้า ซานโช่, เฟร็ด, มาร์กซิยาล และ เปยิสตรี้ ซัดคนละตุง ในศึก เดอะ แมตช์ แบงค็อก เซนจูรี่ คัพ 2022 เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา
��� การแข่งขันฟุตบอล เดอะ แมตช์ แบงค็อก เซนจูรี่ คัพ 2022 ประจำวันอังคารที่ 12 กรกฎาคม 2565 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล โดยเกมนี้มีคอนเสิร์ต "แจ็คสัน หวัง" ศิลปินที่มาร่วมแสดงเปิดการแข่งขันในเกมดังกล่าว พร้อมมี มิลลิ แร็ปเปอร์หญิงชาวไทยมาร่วมแจมด้วย
��� แมนฯ ยูไนเต็ด ของ เอริก เทน ฮาก จะลงประเดิมคุมทัพผีแดงเป็นนัดแรก โดย 11 ตัวจริงจัดทีมชุดใหญ่ลงสนามนำโดย บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่รับบทกัปตันทีมแทน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ฟิตไม่เต็มร้อยไม่มีชื่อในเกมนี้ ขณะที่ ไทเรลล์ มาลาเซีย แบ็กซ้ายคนใหม่ชาวดัตช์มีชื่อเป็นตัวสำรอง
��� ขณะที่ ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ จัด 11 ตัวจริงเป็นทีมชุดผสมส่ง ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ มิดฟิลด์ดาวรุ่งคนใหม่ลงประเดิมสนามเป็นนัดแรก โดยแนวรุกใช้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า
��� ครึ่งแรกเริ่มเกมมาได้ 3 นาที เป็น ลิเวอร์พูล ได้ทักทายก่อนจากจังหวะที่ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ลำเลียงบอลขึ้นมาแล้วปาดไปฝั่งขวาให้ บาบาย่า กระชากหนี ลุค ชอว์ แล้วเปิดเข้ากลางประตูทว่า เด เคอา ใช้ขาสกัดไว้ได้ทัน
��� จนกระทั่งนาทีที่ 13 แมนยู ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ อิซัค มาบาย่า โหม่งสกัดบอลไม่ขาดมาเข้าทางปืนของ เจดอน ซานโช่ ปั่นด้วยขวาส่งบอลเสียบเสาไกลเข้าไป
��� นาที 18 ลิเวอร์พูล เกือบจะได้ประตูตามตีเสมอจากจังหวะที่ ไทเลอร์ มอร์ตัน ได้กดด้วยซ็ายในเขตโทษบอลพุ่งไปชนเสา ก่อนที่บอลจะไปเข้าทาง หลุยส์ ดิอาซ ลากบอลมาปั่นด้วยขวาบอลหลุดเสาไกลไปนิดเดียว
��� ทั้งสองทีมเปิดหน้าแลกกันสนุก นาที 24 ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นจากจังหวะเตะมุมทางฝั่งขวาแล้วเป็น โจ โกเมซ ที่สอดมาโหม่งบอลหลุดเสาแรกออกไป
��� แมนยู บุกใส่อย่างหนักจนมาได้ประตูขึ้นนำ 2-0 ในนาที 30 จากจังหวะชุลมุนหน้าปากประตู ลิเวอร์พูล ก่อนที่บอลจะกระดอนมาเข้าทางปืนของ เฟร็ด ที่บรรจงชิพด้วยขวาส่งบอลข้ามหัว อลิสซอน เบ็คเกอร์ เข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น
��� หลังจากนั้น นาที 33 เจอร์เก้น คล็อปป์ จัดการเปลี่ยนตัวยกแผงส่งผู้เล่นอีกชุดนึงลงมา 10 คนทั้ง โจแอล มาติป, คอสตาส ซิมิคาส, เมลกามู ฟอยดอฟ, รีสส์ วิลเลี่ยมส์, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน, เจมส์ มิลเนอร์, เลย์ตัน คลาร์กสัน, บ๊อบบี้ คลาร์ก และ สตีเฟ่น บาจเซติค ลงสนาม
��� อย่างไรก็ตาม นาที 33 อองโตนี่ มาร์กซิยาล ตัดบอลได้ที่กลางสนามแล้วกระชากหลุดเข้าเขตโทษไปยิงผ่านมือ อลิสซอน ส่งบอลเสียบเสาไกลเข้าไปให้ "ปีศาจแดง" นำห่าง 3-0
���
��� นาที 37 ดิโอโก้ ดาโลต์ หลุดเข้าเขตโทษมากดด้วยขวาบอลพุ่งไปชนเสากระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย
��� ช่วงเวลาที่เหลือยังเป็น แมนยู ที่ครองเกมได้เหนือกว่า และสามารถปิดเกมในครึ่งแรกขึ้นนำ ลิเวอร์พูล ห่างถึง 3-0
���
��� ครึ่งหลัง แมนยู จัดการเปลี่ยนตัวยกแผงเช่นกันส่งทั้ง ไทเรลล์ มาลาเซีย, แอนโธนีย์ อีลังก้า, อเล็กซ์ เตลลิส, เอริค ไบยี่, แอรอน วาน-บิสซาก้า, ดอนนี่ ฟาน เดอเบ็ค, ชาลี ซาเวจ, ซีดาน อิคบัล, ฟาคุนโด้ เปยิสตรี้ และ อาหมัด ดิยัลโล่ ลงสนาม ขณะที่ ลิเวอร์พูล ส่ง อาเดรียน ลงมาเล่นแทน อลิสซอน
��� จากนั้น นาที 61 แฟนหงส์ในราชมังฯ ได้ส่งเสียงเฮกันบ้างเมื่อ คล็อปป์ แก้เกมส่งทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, ฟาบินโญ่, เฟอร์จิล ฟานไดค์, อิบราฮิม โกนาเต้, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, นาบี เกอิต้า, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ โธมัส ฮิลล์
��� หลังจากเริ่มครึ่งหลังมาพักใหญ่ "หงส์แดง" กลายเป็นฝ่ายพับสนามบุกใส่อยู่ฝ่ายเดียว นาที 70 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดบอลมาให้ ดาร์วิน นูนเญซ หลุดมาในกรอบฝั่งขวาแล้วตะบันเต็มข้อยังติดเซฟของ ทอม ฮีตัน ปัดทิ้งออกมาได้
��� อย่างไรก็ตาม แมนยู ที่เกมเป็นรองใช้จังหวะสวนกลับทีเด็ดขาดขึ้นนำห่างเป็น 4-0 ในนาที 76 เมื่อ ฟาคุนโด้ เปยิสตรี้ ทำชิ่งกับ อาหมัด ดิยัลโล่ ก่อนจะจ่ายคืนมาให้ปีกชาวอุรุกวัยที่หน้าปากประตูได้ซัดระยะเผาขนไม่เหลือ
���� นาที 80 แมนยู ได้บุกขึ้นมาอีกชุดบอลมาถึง แอนโธนี่ อีลังก้า ลองปั่นด้วยขวาหน้าเขตโทษบอลเหินข้ามคานออกไป
��� ช่วงท้ายเกมนาที 86 แนวรับ แมนยู สกัดบอลไม่ขาดไปเข้าทางของ นาบี เกอิต้า ที่ได้กดด้วยขวาหน้าเขตโทษแต่บอลยังเหินข้ามคาน
��� นาที 87 ลิเวอร์พูล ชวดตามตีไข่แตกอย่างน่าเสียดายเมื่อ โม ซาลาห์ บรรจงปั่นด้วยซ้ายบอลพุ่งไปชนเสากระดอนมาเข้าทาง ดาร์วิน นูนเญซ ตามซ้ำจ่อๆบอลข้ามคาน
��� เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด ถล่ม ลิเวอร์พูล 4-0 โดยยอดผู้ชมการแข่งขันในเกมนี้มีทั้งสิ้น 50,248 คน
��
��� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
��� แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา (ทอม ฮีตัน น.68) - ดิเอโก้ ดาโลต์ (แอรอน วาน-บิสซาก้า น.46), วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ (อเล็กซ์ เตลลิส น.46), ราฟาแอล วาราน (เอริค ไบยี่ น.46), ลุค ชอว์ (ไทเรลล์ มาลาเซีย น.46) - เฟร็ด (ชาร์ลี ซาเวจ น.46), สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ (ซีดาน อิคบัล น.46) - อองโตนี่ มาร์กซิยาล (อาหมัด ดิยัลโล่ น.46), บรูโน่ แฟร์นันด์ส (ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค น.46), เจดอน ซานโช่ (ฟาคุนโด้ เปยิสตรี้ น.46) - มาร์คัส แรชฟอร์ด (แอนโธนี่ อีลังก้า น.46)��
��� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ (อาเดรียน น.46) - อิซัค มาบาย่า (เมลกามู ฟอยดอฟ น.32), นาธาเนี่ยล ฟิลลิปส์ (โจแอล มาติป น.32), โจ โกเมซ (รีซ วิลเลี่ยมส์ น.32), ลุค แชมเบอร์ส (คอสตาส ซิมิคาส น.32) - ไทเลอร์ มอร์ตัน (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน น.32), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (เลย์ตัน คลาร์กสัน น.32), ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ (เจมส์ มิลเนอร์ น.32) - ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ (สตีเฟ่น บาจเซติค น.32), โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (บ๊อบบี้ คลาร์ก น.32), หลุยส์ ดิอาซ (เคอร์ติส โจนส์ น.32)