������� "หงส์แดง" บุกมาคว้าชัยเหนือ นิวคาสเซิ่ล ได้แบบหืดจับหลังได้ ดิว็อค โอริกี้ ดาวยิงตัวสำรองที่ลงไปโขกประตูให้ทีมแซงชนะ 3-2 เก็บสามแต้มแซง แมนฯซิตี้ สองคะแนนขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงมีเพิ่มเป็น 94 คะแนน แต่ข่าวร้ายคือต้องมาเสีย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่บาดเจ็บจนโดนหามออกสนาม ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา
������� สนาม : เซนต์ เจมส์ พาร์ค
��� นิวคาสเซิ่ล ที่ไม่มีลุ้นอะไรแล้วหลังอยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีก เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่เกมนี้หากบุกมาเก็บสามแต้มจะแซง "เรือใบสีฟ้า" ขึ้นนำจ่าฝูงทันที
��� เปิดฉากมาแค่ 10 นาที โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้หวดบอลในกรอบแต่บอลโด่งข้ามคานออกไป สองนาทีต่อมา ซาลาห์ ได้ยิงอีกที หลัง ไวนัลดุม โยนยาวมาเสาสองให้สตาร์ชาวอียิปต์พักอกแล้วหวดวอลเลย์บอลไปแฉลบแนวรับสาลิกาออกหลังไป
��� และจากจังหวะเตะมุมต่อเนื่อง แค่นาทีเดียวต่อมา ลิเวอร์พูล ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดมาที่จุดนัดพบให้ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ที่หนีตัวประกบขึ้นโขกบอลจมตาข่ายอย่างง่ายดาย
��� ทว่านาที 20 นิวคาสเซิ่ล มาทวงตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ บอลโยนยาวจากทางขวามาเสาไกลให้ แมตต์ ริตชี่ พักอกแล้วหวดบอลผิดเหลี่ยมกลายเป็นส่งให้ โซโลมอน รอนดอน ได้ยิงโล่งแต่ไปติดแขน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก่อนที่บอลมากระดอนมาถึง คริสเตียน อัตซู ซ้ำเข้าไปไม่เหลือ
��� นาที 25 แฟนสาลิกาหวิดได้เฮอีกหน หลัง เดยัน ลอฟเรน โขกบอลเคลียร์ออกไปไม่ดีไปเข้าทาง อโยเซ่ เปเรซ ที่เก็บได้ในเขตโทษก่อนจะซัดบอลไปชนคานอย่างน่าเสียดาย
��� แต่กลายเป็นว่าอีก 3 นาทีถัดมา "หงส์แดง" แซงขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 บอลทุ่มจาก เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มาให้ ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ก่อนที่อดีตหอกสิงโตคำรามจะตอกส้นให้ เทรนท์ ได้ครอสบอลไปหน้าประตูถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ถอยหลังตั้งขาแปบอลเล่นทางหนีมือ ดูบราฟก้า เข้าไป และเป็นประตูที่ 22 นำเป็นดาวซัลโวในซีซั่นนี้
��� นาที 31 ลิเวอร์พูล เกือบได้เม็ดที่สามนำห่าง จากการประสานงานของ 3 แนวรุกหงส์แดง สเตอร์ริดจ์ เก็บบอลได้ให้ มาเน่ พาบอลขึ้นมาแล้วฝากบอลให้ ซาลาห์ แทงทะลุช่องถึง มาเน่ ที่วิ่งขึ้นมาซัดบอลไปติดเซฟนายด่านสาลิกา
��� ท้ายเกม นาที 42 บอลสวนของ นิวคาสเซิ่ล วางยาวมาให้ โซโลมอน รอนดอน เอาบอลลงก่อนสับไกยิงด้วยขวานอกกรอบบอลพุ่งเข้ากรอบแต่ยังไม่ผ่านมือ อลิสซอน ที่ล้มตัวรับไว้ได้
��� จบครึ่งแรก นิวคาสเซิ่ล ตามหลัง ลิเวอร์พูล 1-2
��� เริ่มครึ่งหลัง มานาที 49 หงส์แดงเกือบมาเสียประตูตีเสมอให้เจ้าถิ่น หลัง โซโลม่อน รอนดอน กลับได้ยิงด้วยขวาแต่บอลยังไม่ตรงตัว อลิสซอน ถัดมาแค่นาทีเดียว เกือบเป็น ลิเวอร์พูล ที่พังสกอร์นำห่าง หลังสเตอร์ริดจ์ได้ยิงบริเวณจุดโทษแต่กดบอลไม่ลงเหินโด่งออกหลังไปไกล
��� นาที 54 นิวคาสเซิ่ล มาตามตีเสมอ 2-2 จนได้ บอลเตะมุมจาก คี ซุง ยอง เปิดมาโดน ไวนัลดุม สกัดบอลไม่ดีไปเข้าหัว ฆาบี้ มากีโญ่ โขกชงตั้งให้ ซาโลม่อน รอนดอน ที่วิ่งมาวอลเลย์ด้วยซ้ายส่งบอลพุ่งเสียบตาข่ายชนิดที่ อลิสซอน หมดสิทธิ์เซฟ
��� นาที 66 เจอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนตัวคนแรกส่ง เซอร์ดาน ชากิรี่ ลงเล่นแทน จอร์จินโย่ ไวนัลดุม
��� นาที 70 เป็นข่าวร้ายของทัพเร้ด แมชีน หลังต้องมาเสีย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่มีอาการเจ็บหลังเข้าปะทะกับ มาร์ติน ดูบราฟก้า นายประตูของเจ้าถิ่น จนเล่นต้องไม่ไหวทำให้ต้องส่ง ดิว็อค โอริกี้ ลงมาเล่นแทน
��� รูปเกมของลิเวอร์พูลไม่ดีขึ้นเลย แถมเล่นกันสะเปะสะปะส่งบอลกันผิดพลาด จนนาที 82 คล็อปป์ ต้องส่ง เจมส์ มิลเนอร์ ลงมาช่วยกลางแทน เดยัน ลอฟเรน
��� ท้ายเกม นาที 86 "หงส์แดง" มาได้ลุ้นจากลูกฟรีคิก เซอร์ดาน ชากิรี่ วางบอลมาสุดแม่นให้ ดิว็อค โอริกี้ ขึ้นโขกเบียดแนวรับเจ้าถิ่นก่อนบอลเปลี่ยนทางเสียบเสาสองให้ ลิเวอร์พูล แซงนำอีกหน 3-2
��� ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาคว้าชัยเหนือ นิวคาสเซิ่ล แบบหืดจับ 3-2 เก็บสามแต้มพร้อมแซง แมนฯซิตี้ สองแต้มขึ้นนำจ่าฝูง
��� รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
��� นิวคาสเซิ่ล (5-4-1) : มาร์ติน ดูบราฟก้า - ฆาบี้ มากีโญ่, ฟาเบียน ชาร์ (โยชิโนริ มูโตะ น.90+1), จามาล ลาสเซลเลส, พอล ดัมเมตต์, แมตต์ ริตชี่ - อโยเซ่ เปเรซ, คี ซุง ยอง, อิซัค เฮย์เด้น, คริสเตียน อัตซู - ซาโลม่อน รอนดอน
��� ผู้จัดการทีม : ราฟาเอล เบนิเตซ
��� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน (เจมส์ มิลเนอร์ น.83), เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม (เซอร์ดาน ชากิรี่ น.66) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ดิว็อค โอริกี้ น.73), ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, ซาดิโอ มาเน่
��� ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์