������ ในที่สุดก็ถึงวันที่จะได้ตัดสินชะตาชีวิตว่าทีมไหนจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018-19 แน่นอนว่าในตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นผู้กุมชะตากรรมทุกอย่างเอาไว้ในมือ ขณะที่ ลิเวอร์พูล ทำได้เพียงแค่ก้มหน้าทำหน้าที่ของตัวเองเท่านั้นในแมตช์สุดท้ายของซีซั่น ฉะนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไม เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน ถึงกระตุ้นลูกทีมมีโฟกัสเฉพาะเกมของตัวเอง ส่วนบทสรุปจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่สวรรค์กำหนด
��� "หงส์แดง" มีคิวเปิดรังแอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ ทีมตัวแสบของบรรดาบิ๊กโฟร์ ในเกมวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคมนี้ ส่วน "เรือใบสีฟ้า" ออกไปเยือน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน โดย ณ เวลานี้แชมป์เก่ามี 95 คะแนนเหนือกว่า ลิเวอร์พูล 1 แต้มเท่านั้น แต่แค่พวกเขาชนะโทรฟี่ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีก็จะไปวางตะหง่านในสนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ทันที
��� สำหรับ ลิเวอร์พูล สิ่งเดียวที่พวกเขาต้องทำก็คือการเล่นให้ดีที่สุด และเอาชนะ วูล์ฟส์ ให้ได้ จากนั้นก็แล้วแต่ชะตาฟ้าลิขิตว่า "เดอะ เร้ดส์" เหมาะสมคู่ควรที่จะปลดแอกคว้าแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 29 ปีหรือไม่ โดย คล็อปป์ เปิดใจในงานแถลงข่าวก่อนเกมแมตช์สุดท้ายของซีซั่นว่า "มันเป็นอะไรที่ดีเยี่ยมที่สุด สัปดาห์นี้ ผมไม่แน่ใจว่าจะมีเรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้นไหม แต่นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญของวงการฟุตบอล"
���� "จากมุมมองของเรา มันเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ของวงการฟุตบอลสำหรับเราในช่วงสุดสัปดาห์นี้ มันเป็นอะไรที่ดีเยี่ยม สัปดาห์นี้ไม่ได้จบเรื่องทุกอย่าง วันอาทิตย์เป็นวันสำคัญในสัปดาห์นี้ไม่ใช่สำหรับสัปดาห์หน้า แน่นอนว่าเราจะมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างเต็มที่ แต่ไม่มีอะไรเปลี่นแปลง เรารู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว"
��� "ในสถานการณ์นี้แน่นอนว่ามันดูเหมือนเกมกับ วูล์ฟส์ และ ไบรท์ตัน ซึ่งหาก ซิตี้ ชนะ และเราชนะ สุดท้ายแล้ว ซิตี้ ได้แชมป์ อย่างไรก็ตาม วูล์ฟส์ เป็นทีมที่มีความมุ่งมั่น พวกเขาแสดงให้เห็นมาแล้วตลอดทั้งปีในเรื่องความมุ่งมั่นทุ่มเท พวกเขาสนุกกับการเล่นฟุตบอลของพวกเขา� พวกเขาอยู่ในอันดับ 7 ในลีกที่น่าเหลือเชื่อทั้งๆ ที่เพิ่งได้เลื่อนชั้นเมื่อปีที่แล้ว"
��� "พวกเขามีสไตล์การเล่นที่น่าเหลือเชื่อ พวกเขาเป็นทีมที่ต่อกรได้ยากลำบาก มีเกมรับที่เหนียวแน่น เล่นเกมสวนกลับได้ดีเยี่ยม ยิงประตูในช่วงเวลาที่เหมาะสม มีความนิ่ง นูโน่ (กุนซือ วูล์ฟส์) ทำงานได้อย่างสุดยอด นั่นทำให้สไตล์การเล่นของพวกเขายากที่จะรับมือ"
��� "ในขณะเดียวกัน ไบรท์ตัน ได้เล่นเกมพรีเมียร์ลีก นัดสุดท้ายในบ้าน พวกเขารู้ว่าพวกเขาจะได้อยู่ในลีกนี้ปีหน้าแน่นอนแล้ว ผมรู้จักทีมชุดนี้ว่าเป็นยังไง พวกเขาสนุกกับการเล่นฟุตบอล ดังนั้นพวกเขาจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ทั้งสองทีมต้องการชัยชนะของพวกเขา นั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะพูด ฉะนั้นเราต้องโฟกัสในเรื่องนี้"
��� แน่นอนว่าสาวก "เดอะ ค็อป" ในสนามแอนฟิลด์ คงจะคอยฟังรายงานผลการแข่งขันที่สนามเอเม็กซ์ สเตเดี้ยม แต่ คล็อปป์ ไม่เชื่อว่าปฏิกิริยาบนอัฒจันทร์จะมีอิทธิพลต่อลูกทีมของเขาในสนาม"นั่นเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว บางทีอาจจะมีคำแนะนำอยู่บ้าง บางทีแฟนของของเราไม่ควรฉลองผลการแข่งขันที่ไบรท์ตัน ก่อนที่ ไบรท์ตัน ได้สกอร์นำ 3-0 และเหลือเวลาเพียง 87 หรือ 88 นาที"
��� "นักเตะของเราเต็มไปด้วยไหวพริบ พวกเขาทำได้ดีเยี่ยมตลอดทั้งปี นี่แหละชีวิต เราไม่ห้ามเรื่องนี้ เราก็เป็นแค่มนุษย์ธรรมดา ดังนั้นการแสดงปฏิกิริยาเป็นเรื่องปกติที่คุณอยากจะทำ แต่สิ่งที่ดีที่สุดก็คือเราต้องมีสมาธิ เพราะนั่นเป็นสิ่งเดียวที่จะมีอิทธิพลกับเราในเกมนี้"
��� ในส่วนของนักเตะที่มีปัญหาบาดเจ็บนั้น คล็อปป์ เผยว่ายังหวังเห็น แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้ายจอมพลัง, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีม และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงตัวความหวัง จะฟิตเต็มที่พร้อมลงสนามในสุดสัปดาห์นี้ ขณะที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ น่าจะพลาดเนื่องจากมีปัญหาเจ็บกล้ามเนื้อ
��� "นี่เป็นกลุ่มนักเตะที่สุดพิเศษที่เรามีที่นี่ นับตั้งแต่วันอังคาร, บางทีถึงเช้าวันพุธ ถ้าผมต้องหาคำนิยามสำหรับกลุ่มนักเตะเหล่านี้ผมคงจะพูดว่า -มันก็แค่เจ็บ- นั่นคือสิ่งที่พวกเขาต้องเจอในฤดูกาลนี้ มีอาการบาดเจ็บรบกวนตลอด มันเป็นเรื่องยากลำบาก มันก็แค่เจ็บ และเราต้องก้าวเดินต่อไป"
���� "โชคร้ายจริงๆ ร็อบโบ้ (แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน) สามารถรับมือกับอาการบาดเจ็บได้แต่ร่างกายส่วนที่เหลือไม่สามารถทำได้ เพราะเขาไม่สามารถกระตุ้นกล้ามเนื้อได้เลย พวกเขาน่าจะดีขึ้น (สำหรับเกมวันอาทิตย์) บ็อบบี้ (ฟรีมีโน่) ไม่ได้ลงเล่นในสุดสัปดาห์นี้ แต่เราพอมีเวลา (ก่อนเกมนัดชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก) และน่าจะเพียงพอ"
��� "สำหรับ โม (ซาลาห์) เป็นเรื่องดีมากๆ ที่เข้ามาร่วมฉลองหลังเกมนั้น ช่วงหลายๆ วันที่ผ่านมาเขาได้แต่วิ่งอยู่นอกกลุ่มเพื่อนร่วมทีม และวันนี้ได้มีส่วนลงฝึกซ้อมกับทีมแล้ว"
��� หลังจากชัยชนะที่ยากจะลืมได้เลยในแมตช์กับ บาร์เซโลน่า ที่แอนฟิลด์ นั้น คล็อปป์ เผยว่าเขาได้บอกกับลูกทีมก่อนเกมว่าให้เอาชนะความเสียเปรียบ 3 ประตูในเกมแรกที่ปะทะกับ ลิโอเนล เมสซี่ และเพื่อนร่วมทีมของเขา ด้วยสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง ส่วน "หงส์แดง" จะทำได้เหมือนกันไหมในเกมลีกพบ วูล์ฟส์ เรื่องนี้ คล็อปป์ กล่าวว่า "เราต้องมีความพร้อมในการรับมือความยากลำบาก รวมทั้งจัดการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในเกม"
��� "นั่นคือสิ่งที่ต้องทำ เพราะเรามีแผนพิเศษสำหรับเกมนี้ แม้อาจจะไม่เวิร์กเต็มร้อยก็ตาม แต่ก็ต้องยึดมั่นตามแผนการเล่นซึ่งมีความสำคัญมากๆ ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเราต้องดียิ่งขึ้น และดีที่สุดเพราะเรามีประสบการณ์กับสิ่งที่เราเคยทำร่วมกัน สิ่งที่เราอยากทำ เราต้องรับมือกับช่วงเวลาเหล่านี้แม้มันจะไม่สวยงามก็ตาม"
��� "ดังนั้นลูกทีมของผมเล่นได้คงเส้นคงวาอย่างน่าเหลือเชื่อ และความคงเส้นคงวาเป็นสิ่งที่ยากที่สุดทั้งในชีวิตส่วนตัวและฟุตบอล เพราะนักเตะเก่งๆ มากมายที่ลงสนามในเกมนี้ แต่การแสดงคุณภาพของพวกเขาในแต่ละสัปดาห์เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพื่อที่จะประสบความสำเร็จ นั่นเป็นก้าวย่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แน่นอนว่าเราเคยทำได้มาแล้ว"
��� "ลูกทีมของผมมีความสุขอย่างเต็มที่ในช่วงระหว่างสัปดาห์ แต่ไม่เคยเลยที่ผมต้องบอกพวกเขาให้นิ่ง ตอนนี้ฟังให้ดีๆ นะ เราจะเก็บ 94 คะแนนได้ยังไงด้วยนักเตะธรรมดาๆ ? เราไม่ใช่แบบนั้น เรามีกลุ่มนักเตะที่สุดพิเศษ และนั่นคือเหตุผลที่เรามาอยู่ตรงจุดนี้"
��� "ยังมีเกมสุดสำคัญอีก 2 แมตช์ที่ต้องลงเล่น และหนึ่งในเกมเหล่านั้นก็คือแมตช์ในวันอาทิตย์ เราต้องทำให้ได้อีกครั้ง และถ้าเราทำได้ เราก็มีโอกาสคว้าชัยชนะในเกมนี้� ถ้าเรามีโอกาส เราน่าจะทำได้จริงๆ" นายใหญ่ชาวเยอรมัน กล่าวทิ้งท้าย
��� สุดท้ายแล้วไม่ว่าเกมพรีเมียร์ลีก จะจบลงที่ แมนฯ ซิตี้ ได้แชมป์ไปครอง แต่สิ่งที่ ลิเวอร์พูล แสดงให้เห็นตลอดทั้งซีซั่นนี้ น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีเพราะหาก คล็อปป์ เก็บขุมกำลังชุดนี้เอาไว้ได้หมด และเสริมนักเตะไม่กี่ตัว งานนี้อาจจะได้เห็น "เครื่องจักรสีแดง" เดินหน้าฆ่าไม่เลี้ยงในฤดูกาลหน้า