������� "หงส์แดง" กลับมาคืนฟอร์มเก่งหลังเสมอมาสองเกมล่าสุด เมื่อเปิดแอนฟิลด์ไล่ถล่ม บอร์นมัธ 3-0 ซาดิโอ มาเน่, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม และโม ซาลาห์ ซัดปิดกล่องและเป็นประตูที่ 17 ของดาวยิงอียิปต์ขึ้นนำดาวซัลโวลีก พร้อมพา ลิเวอร์พูล เก็บคลีนชีตนัดที่ 14 ทวงจ่าฝูงคืนจาก แมนซิตี้ หนีไปสามคะแนนมี 65 แต้ม ส่วนบอร์นมัธสถิติแย่แพ้นอกรัง 8 ในลีกติดต่อกัน ในศึกพรีเมียร์ลีก คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
����� สนาม : แอนฟิลด์
��� "หงส์แดง" เปลี่ยนทีมตำแหน่งเดียวจากเกมเสมอกับเวสต์แฮม โดยได้ตัว จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ฟิตกลับมาเล่นในแดนกลางอีกครั้ง สามประสานแนวรุกชุดเดิมนำโดย โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ด้าน "เดอะ เชอร์รี่ส์" ส่งให้ จอร์ดอน ไอบ์ ลงยิงทีมเก่า กองกำลังแดนหน้าใช้ โจชัว คิง เป็นความหวังในการผลิตสกอร์
���� ออกสตาร์ตไปได้ 2 นาที บอร์นมัธ ได้ลุ้นก่อนเลย ไรอัน เฟรเซอร์ พาบอลลากจี้มาทางซ้าย ตัดเข้าในมาหวดด้วยขวาเล็งหาเสาสอง แต่ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ยังไม่พลาด บินไปปัดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
��� หลังจากนั้นนาทีที่ 10 เป็นโอกาสของลิเวอร์พูลบ้าง ฟาบินโญ่ ได้บอลกลางสนาม แล้วจ่ายออกขวาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รับแล้วลากตัดเข้าในมายิงด้วยซ้ายตามถนัด แต่บอลเลยเสาสองออกหลังไป
��� เกมตื้อมาจนถึงนาทีที่ 24 ลิเวอร์พูล ออกนำ 1-0 เจมส์ มิลเนอร์ เก็บบอลได้ทางขวาของสนาม แล้วมีเวลาได้ตั้งป้อมเปิดเข้ามากลางประตู บอลมาเข้าหัว ซาดิโอ มาเน่ โขกกดลงพื้นเข้าประตูไป
��� อีก 4 นาทีต่อมา เจ้าบ้านกดดันหนัก เจมส์ มิลเนอร์ เติมเกมมาทางขวา เข้าไปรับบอลในระยะสุดเส้นหลัง ทำท่าว่าจะโดนตัดบอล จึงตัดสินใจยิงยัดไปที่เสาแรก แต่บอลติดบล็อคออกหลัง
���� ผ่านมาถึงนาทีที่ 34 ลิเวอร์พูล หนีไป 2-0 จอร์ดอน ไอบ์ เสียบอลทางซ้ายของสนาม แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เก็บได้ แล้ววางยาวเข้าเขตโทษให้ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม สอดไปรับ แล้วดีดข้ามหัว อาร์เธอร์ โบรุช ที่ออกมาจากเส้น ส่งบอลข้ามเส้นเข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น
��� ท้ายครึ่งแรก เจ้าบ้านเกือบจะได้ประตูที่สอง สตีฟ คุ๊ก สกัดบอลออกมาจากเขตโทษไม่ดี โดน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เก็บได้ แล้ววอลเล่ย์ด้วยซ้าย บอลเกือบจะเสียบใต้คาน แต่คราวนี้ อาร์เธอร์ โบรุช บินไปปัดออกหลังได้อย่างหวุดหวิด ครบ 45 นาทีแรก ลิเวอร์พูล นำบอร์นมัธ 2-0��
��� ครึ่งหลังกลับมาเตะกันได้ 3 นาที ลิเวอร์พูล หนีไป 3-0 นาบี เกอิต้า วางบอลยาวขึ้นหน้า โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ สอดเข้าไปไขว้จังหวะเดียวให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รอบอลเข้าเท้าซ้าย ยิงผ่านตัว โบรุช เข้าประตูไป
��� ผ่านมาถึงนาทีที่ 73 บอร์นมัธ มาได้ลุ้นจากจังหวะที่ ลีส์ มุสเซต ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา แล้วได้บอลในระยะ 40 หลา ตั้งป้อมยิงทันที แต่บอลเฉี่ยวเสาสองออกหลังไปอย่างหวุดหวิด
��� อีก 4 นาทีต่อมา ลิเวอร์พูล พลาดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ชิ่งบอลเข้าช่องให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเข้าไปยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่บอลดันชนคาน ไม่ได้ประตูเพิ่ม
��� ช่วงท้ายเกม ลิเวอร์พูล ควรจะได้อีกประตู จากจังหวะโต้กลับมาทางซ้ายของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จ่ายตัดกองหลังมาทางขวาให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ แต่บอลตรงตัวผู้รักษาประตู ครบ 90 นาที ลิเวอร์พูล ถล่ม บอร์นมัธ 3-0 กลับไปเป็นจ่าฝูงของตาราง
��� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
��� ลิเวอร์พูล : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เจมส์ มิลเนอร์, โฌแอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์จินโย่ ไวนัลดุม (เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ น.77), ฟาบินโญ่, นาบี เกอิต้า - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (แดเนียล สเตอร์ริดจ์ น.90), ซาดิโอ มาเน่ (ดิว็อค โอริกี น.87)
��� สำรองไม่ได้ใช้ : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, อดัม ลัลลาน่า, ซิมง มิโยเล่ต์, ราฟาเอล กามาโช่
��� บอร์นมัธ : อาร์เธอร์ โบรุช - อดัม สมิธ, สตีฟ คุ๊ก, นาธาน อาเก้, ดีเอโก้ รีโก้ (คริส เมแฟม น.80) - เจฟเฟร์สัน เลร์มา (ลีส์ มุสเซต น.73) - จอร์ดอน ไอบ์ (โดมินิก โซลันกี้ น.59), แดน กอสลิง, แอนดรูว์ เซอร์แมน, ไรอัน เฟรเซอร์ - โจชัว คิง�
��� สำรองไม่ได้ใช้ : แจ็ค ซิมพ์สัน, อัสเมียร์ เบโกวิช, ไคล์ เทย์เลอร์,� แซม เซอร์ริดจ์
��� ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์