ลิเวอร์พูล รายงานบัญชีผลประกอบการสำหรับปีการเงิน 2023-24 หรือจนถึงวันที่ 31 พ.ค. 2024 ผลปรากฏว่า “หงส์แดง” ขาดทุนก่อนหักภาษี 57 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,451 ล้านบาท) มากกว่าที่ขาดทุนใน 12 เดือนก่อนถึง 48 ล้านปอนด์ และนับว่าขาดทุนมากสุดสุดตั้งแต่เคยแจ้งมาในยุคพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 

สาเหตุสำคัญมาจากการที่พวกเขาไม่ได้ไปเล่นในยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ซีซั่นก่อน, เงินเฟ้อ และมีค่าใช้จ่ายบุคลากรเพิ่มขึ้น เนื่องจากโบนัสจากการคว้าตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีก และแชมป์คาราบาวคัพ รวมถึงการจ่ายค่าชดเชยตามระยะเวลาสัญญาที่เหลือ 2 ปี ให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ และทีมงาน หลังจากที่เขาตัดสินใจอำลาตำแหน่งเมื่อจบฤดูกาล รวม 9.6 ล้านปอนด์ เพื่อเปิดทางให้ อาร์เน่อ สล็อต เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมคนใหม่

- รายได้จากสื่อถ่ายทอดสดลดลง 38 ล้านปอนด์ (ไม่ได้ไปแข่ง UCL)

- ค่าใช้จ่ายทั่วไปเพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกัน

- ค่าใช้จ่ายบุคลากรเพิ่มขึ้น 13 ล้านปอนด์ เป็น 386 ล้านปอนด์ เนื่องจากโบนัสจากการคว้าตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกและแชมป์คาราบาวคัพ

แม้ว่าลิเวอร์พูลจะลดภาระค่าเหนื่อยโดยปล่อย โรแบร์โต ฟีร์มิโน, ฟาบินโญ, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, นาบี เกอิตา และเจมส์ มิลเนอร์ ออกจากทีม แต่ลิเวอร์พูลยังคงลงทุนก้อนใหญ่กับนักเตะใหม่ ได้แก่ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โดมินิค โซโบซไล, วาตารุ เอ็นโด และไรอัน กราเฟรแบร์ก รวมมูลค่า 150 ล้านปอนด์ พร้อมกับการต่อสัญญานักเตะ 11 คน และการพัฒนาทีมหญิง ซึ่งเพิ่มต้นทุนให้กับสโมสร

- ค่าใช้จ่ายวันแข่งขันเพิ่มขึ้น 80% ในช่วง 8 ปี และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 100% ภายในปี 2027

- ค่าสาธารณูปโภค (ค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ) เพิ่มขึ้น 2 เท่า ใน 3 ปี

- ค่าใช้จ่ายบริหารเพิ่มขึ้น 88% จาก 320 ล้านปอนด์ เป็น 600 ล้านปอนด์ ตั้งแต่ปี 2018

แม้ว่าผลประกอบการจะขาดทุน แต่หนี้สินของสโมสรลดลง 10 ล้านปอนด์ เหลือ 116 ล้านปอนด์ ขณะที่การกลับมาของรายได้จากแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งคาดว่าจะทำเงินได้อย่างน้อย 83.8 ล้านปอนด์ และโอกาสลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก รวมถึงการเปิดใช้งานเต็มรูปแบบของอัฒจันทร์แอนฟิลด์ โร้ด จะช่วยให้สถานะการเงินของสโมสรดีขึ้นในอนาคต

- รายได้จากสื่อฯลดลง 38 ล้านปอนด์ เหลือ 204 ล้านปอนด์

- รายได้จากวันแข่งขันเพิ่มขึ้น 22 ล้านปอนด์ เป็น 102 ล้านปอนด์

- รายได้ธุรกิจการค้าเพิ่มขึ้น 36 ล้านปอนด์ เป็น 308 ล้านปอนด์

- ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 38 ล้านปอนด์ เป็น 600 ล้านปอนด์

- รายได้รวมเพิ่มขึ้น 20 ล้านปอนด์ เป็น 614 ล้านปอนด์

อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของ “หงส์แดง” ยังอยู่ในเกณฑ์กฎ PSR (Profit and Sustainability Rules) ของพรีเมียร์ลีก ซึ่งอนุญาตให้สโมสรขาดทุนสะสมได้ ไม่เกิน 105 ล้านปอนด์ใน 3 ปี โดยผลประกอบการของลิเวอร์พูล 3 ฤดูกาลล่าสุด มีดังนี้

2021/22 : กำไร 7.5 ล้านปอนด์

2022/23 : ขาดทุน 9.5 ล้านปอนด์

2023/24 : ขาดทุน 57 ล้านปอนด์