ติโบต์ กูร์กตัวส์ เซฟจนปวดมือ แต่ไม่วาย อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ โขกชัยให้ ลิเวอร์พูล เชือด เรอัล มาดริด 1-0 พร้อมขึ้นมารั้งอันดับหกรอบ ลีก เฟส UCL มี 9 คะแนนเท่า "ราชันชุดขาว"
ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2025/26 รอบ ลีก เฟส นัดสี่ ระหว่าง ลิเวอร์พูล พบ เรอัล มาดริด ที่สนาม แอนฟิลด์ เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2568
ช่วง 20 นาทีแรก ถือว่าสู้กันได้สูสี แต่ยังไม่มีโอกาสทำประตูแบบเน้นๆ
นาทีที่ 27 ลิเวอร์พูล น่าได้ประตูเหลือเกิน จากจังหวะที่ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ เปิดบอลเข้ากลางให้ โดมินิค โซโบซไล ยิงเน้นๆ แต่ไม่ผ่านเซฟของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ นายทวาร เรอัล มาดริด
จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล กับ เรอัล มาดริด ยังเสมอกัน 0-0
ลิเวอร์พูล เริ่มครึ่งหลังได้อย่างคึกคัก และเกือบได้ประตูจากลูกโหม่งของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ อูโก เอกิติเก้
อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 61 "หงส์แดง" เอาประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะได้ลูกฟรีคิกฝั่งขวา ซึ่ง โซโบซไล เปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษ และเป็น อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ โขกเต็มแรง บอลแสกหน้า กูร์กตัวส์ เข้าไปตุงตาข่าย
ช่วงเวลาที่เหลือ เรอัล มาดริด เร่งเครื่องเต็มสูบ หวังเอาประตูตีเสมอ แต่ไม่สำเร็จ
จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเชือด เรอัล มาดริด 1-0 กระโดดขึ้นมารั้งอันดับหก มี 9 แต้ม จากการลงแข่ง 4 นัด เท่ากับ เรอัล มาดริด ที่อยู่อันดับห้า ทว่า "ราชันชุดขาว" มีผลต่างประตูได้-เสียดีกว่า โดยนัดต่อไป "หงส์แดง" จะลงเตะเกม พรเมียร์ลีก กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายนนี้ ขณะที่ "ราชันชุดขาว" จะฟาดแข้งเกม ลา ลีกา นัดเยือน ราโย บาเยกาโน่ วันอาทิตย์นี้เช่นกัน
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) - จอร์จี มามาร์ดาชวิลี่ ; คอเนอร์ แบรดลีย์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ; ไรอัน กราเฟนแบร์ค, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ; โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิค โซโบซไล, ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ; อูโก เอกิติเก้
เรอัล มาดริด (4-2-3-1) - ติโบต์ กูร์กตัวส์ ; เฟเดรีโก วัลเวร์เด้, เอแดร์ มิลิเตา, ดีน เฮาเซ่น, อัลบาโร การ์เรราส ; เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า, โอเรเลียง ชูอาเมนี่ ; อาร์ดา กือแลร์, จู๊ด เบลลิงแฮม, วินิซิอุส จูเนียร์ ; คีลิยัน เอ็มบัปเป้