เวย์น รูนี่ย์ อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ และ แมนฯ ยูไนเต็ด ยอมรับว่า ตนอาจจะพูดแรงเกินไปหน่อย หลังวิจารณ์ฟอร์ม เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กองหลังกัปตันทีมลิเวอร์พูล แบบดุเดือด ก่อนได้เคลียร์ใจต่อหน้าหลังจบเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2025-26 รอบลีกเฟส นัดที่ 4 ลิเวอร์พูล เปิดบ้านชนะ เรอัล มาดริด 

ทั้งนี้รูนีย์วิจารณ์ ฟาน ไดค์ ในช่วงที่ลิเวอร์พูล แพ้ถึง 6 นัดจาก 7 เกมทุกรายการ และเป็นการแพ้ 4 นัดติดต่อกันในพรีเมียร์ลีกด้วย โดยระบุว่ากัปตันลิเวอร์พูลนั้นขาดภาวะผู้นำในทีม และไม่ได้เป็นคนนำทีมอย่างแท้จริงอีกแล้ว

จากนั้น ฟาน ไดค์ ก็ตอบโต้ เวย์น รูนี่ย์ หลังจบเกมชนะ แอสตัน วิลล่า ว่าตอนที่ ลิเวอร์พูล ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้ว ก็ไม่เห็นออกมาพูดแบบนี้เลย พร้อมทิ้งประโยคเดือดว่า “เป็นคำวิจารณ์ที่ไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่”

ล่าสุด รูนี่ย์ ออกมายอมรับว่าตนอาจจะพูดแรงเกินไปหน่อย “ต้องบอกก่อนว่าตอนนี้งานของผมคือการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโลกฟุตบอล และผมคิดว่าผมเป็นคนพูดตรงและซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง แต่จุดที่ผมอาจพูดแรงเกินไปคือการบอกว่าเฟอร์จิลเล่นแบบไม่ทุ่มเทตั้งแต่ได้สัญญาใหม่กับลิเวอร์พูล ซึ่งมันเป็นคำพูดที่หนัก และผมอาจจะผิดในจุดนั้น”

“แต่ในแง่ของฟอร์มการเล่น เราทุกคนต่างก็เห็นว่าในฤดูกาลนี้ฟาน ไดค์ ไม่ได้อยู่ในระดับที่เคยทำได้แบบเมื่อก่อน และผมก็พูดว่าในฐานะกัปตัน เขาควรจะคุยกับเพื่อนร่วมทีม ควรพาลูกทีมออกไปกินข้าว ซึ่งเขาก็บอกว่าเขาทำแล้ว ซึ่งหากเขาต้องทำแบบนั้น ก็แสดงว่าทีมมีบางอย่างที่ไม่ปกติจริงๆ”

“ความพ่ายแพ้ 0–3 ต่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อวันอาทิตย์เป็นการแพ้ 5 จาก 6 เกมหลังสุดในลีก และทำให้พวกเขาหล่นมาอยู่ที่ 8 ตามหลังอาร์เซนอลทีมจ่าฝูงถึง 8 คะแนน ในฐานะแชมป์เก่า คุณไม่ควรแพ้ถึง 4 เกมรวดหรอก แพ้เกมเดียวก็ถูกตั้งคำถามแล้ว ดังนั้นการแพ้ 4 เกมติดต่อกันมันชัดเจนว่ามีบางอย่างไม่ปกติอย่างแน่นอน”

“ผมคิดว่าอาจเป็นเพราะพวกเขาสนใจเสียงรอบๆนอกสนามมากเกินไป ซึ่งเป็นหน้าที่ของเราในฐานะกูรู แต่ผู้เล่นต้องโฟกัสกับเกมของตัวเอง ถ้าผมเป็นนักเตะอายุน้อย ผมจะดูปฏิกิริยาของฟาน ไดค์ ว่าเขารับมือกับเรื่องนี้ยังไง เพราะนั่นคือแบบอย่างที่จะช่วยทีมได้ ที่สำคัญคุณต้องเดินหน้าต่อและคุยกันภายในทีม”