���� "หงส์แดง" ฟอร์มอุ่นเครื่องยังแย่ต่อเนื่องหลังพ่ายเป็นเกมที่สองติดต่อกัน เมื่อโดน เซบีย่า ที่เหลือแค่ 10 คนพลิกแซงเอาชนะในช่วงนาทีสุดท้าย 2-1 ในเกมกระชับมิตร เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
สนาม : เฟนเวย์ พาร์ค, บอสตัน, สหรัฐฯ
��� ลิเวอร์พูล ลงเล่นเกมปรีซีซั่นอุ่นเครื่องที่สหรัฐฯเกมแรกไปแล้ว ก่อนพ่ายให้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาแบบสนุก 2-3
��� เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ของ "หงส์แดง" ได้ส่ง แอนดี้ โลเนอร์แกน นายด่านวัย 35 ปี ที่ไร้สังกัดลงเฝ้าเสา ซึ่งอดีตนายด่านของลีดส์ ยูไนเต็ด ได้ร่วมเดินทางไปกับทัวร์ของ ลิเวอร์พูล และมีโอกาสออกสตาร์ทตัวจริงในเกมพบกับ เซบีย่า หลังนายทวารของหงส์ต่างมีอาการบาดเจ็บ
��� แนวรับจัดชุดใหญ่มีแค่ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ที่ได้รับโอกาสยืนเซ็นเตอร์แบ็กกับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ แดนกลางส่ง อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน เดินเกมร่วมกับ จอร์จิโย่ ไวจ์นัลดุม และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ขณะที่สามประสานแดนหน้าเป็น เบน วู้ดเบิร์น, ดิว็อค โอริกี้ และ แฮร์รี่ วิลสัน
��� ขณะที่ เซบีย่า ทีมดังจากลาลีกาสเปน ล่าสุดอุ่นเครื่องเอาชนะ เอฟซี ดัลลัส 3-1 ซึ่งบรรดาแข้งใหม่ไม่ว่าจะเป็น ลุค เดอ ย็อง และโยอัน จอร์แดน ต่างก็ประเดิมพังตาข่ายได้แล้ว และเกมนี้ยังได้ออกสตาร์ตัวจริงเช่นเดิม
��� แค่ 4 นาทีแรก "หงส์แดง" เกือบได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว หลัง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ผ่านบอลให้ ดิว็อค โอริกี้ ซัดไปติดเซฟของ เซร์คิโอ รีโก้
��� เกมรุกของเซบีย่าเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ นาที 13 ลุค เดอ ย็อง หัวหอกตัวใหม่ที่ย้ายมาจาก พีเอสวี ลองอัดด้วยซ้ายแต่บอลยังไม่พ้นมือ แอนดี้ โลเนอร์แกน
��� ลูกทีมของ คล็อปป์ ครองบอลค่อนข้างเป็นรองแถมโอกาสลุ้นประตูกลายเป็นทีมดังจากอันดาลูเซียที่ทำได้เหนือกว่า� ก่อนนาที 37 เซบีย่า จะพังประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ บอลจาก เฆซุส นาบาส ครอสไปแฉลบ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ก่อนมาเข้าทางของ� โนลิโต้ วิ่งมาอัดด้วยขวาบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างงดงาม
��� แต่ก่อนหมดเวลาแค่นาทีเดียว นาที 44 หงส์แดง มาพังประตูตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ จากจังหวะลูกคอนเนอร์ทางด้านขวา เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดเข้ากลางมาให้ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ เทกตัวโขกไปติด ดีเอโก้ การ์ลอส ก่อนบอลจะตกหน้า� ดิว็อค โอริกี้ หวดด้วยขวาเน้นๆเข้าไปไม่เหลือ
��� จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ยังเสมอกับ เซบีย่า 1-1
��� กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือใหญ่หงส์แดงเปลี่ยนทีเดียวยกชุดส่งอีก 11 แข้งสำรองลงไปเล่นแทนชุดแรก สามแนวรุกดันดาวรุ่งทั้ง เคอร์ติส โจนส์, ไรอัน เคนท์ และรีแอน บรูว์สเตอร์ ล่าตาข่าย
��� นาที 69 ลิเวอร์พูล เกือบพลิกแซงขึ้นนำบ้าง หลัง ไรอัน เคนท์ หลุดเข้าไปซัดด้วยขวามุมแคบแต่บอลยังไม่ผ่านเซฟของ โทมัส วาซลิก ที่ปัดออกหลังไปได้
��� นาที 76 เซบีย่า ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน หลัง โฌริส ญาญง โดนใบแดงไล่ออกจากสนามโดยตรง หลังเล่นน่าเกลียดวิ่งเข้าไปเตะ ยาสเซอร์ ลารูชี่ ด้านหลังจนร่วงไปนอนเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ คล็อปป์ ต้องเปลี่ยนเอา บ็อบบี้ ดันแคน ลงไปเล่นแทนในนาที 81
��� แม้ทัพหงส์ ตัวผู้เล่นจะเหนือกว่าแต่ช่วงเวลาที่เหลือไม่สามารถเจาะตาข่ายลูกทีมของ ฆูเลน โลเปเตกี ได้ กลับกลายเป็นโดย เซบีย่า ยิงขึ้นนำในนาทีสุดท้าย จากจังหวะสวนกลับบอลวางยาวมาถึง มูนีร์ เอล ฮัดดาดี้ ทางด้านขวาก่อนล้มตัวปาดบอลเข้าไปหน้าประตูโล่งๆให้ อเลฮานโดร โปโซ แตะหลบ ซิมง มิโญเลต์ ก่อนซัดด้วยซ้ายเข้าไปอย่างใจเย็น
��� จบเกม เซบีย่า ที่เหลือแค่ 10 คน แซงเอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 ส่งผลให้อุ่นเครื่องที่แดนสหรัฐฯพ่ายรวดทั้งสองเกม โดยโปรแกรมนัดต่อไปของ ลิเวอร์พูล จะพบกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ซึ่งเป็นโปรแกรมนัดสุดท้ายของการทัวร์ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฏาคม นี้
��� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
��� ลิเวอร์พูล (ครึ่งแรก) - แอนดี้ โลเนอร์แกน - เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, นาธาเนียล ฟิลลิปส์, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน - จอร์จิโย่ ไวจ์นัลดุม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน - เบน วู้ดเบิร์น, ดิว็อค โอริกี้, แฮร์รี่ วิลสัน
��� ลิเวอร์พูล (ครึ่งหลัง) - ซิมง มิโญเลต์ - คี ยานา-ฮูเฟอร์, โจ โกเมซ, เดยัน ลอฟเรน, ยาสเซอร์ ลารูชี่ (บ็อบบี้ ดันแคน น.81) - ฟาบินโญ่, เจมส์ มิลเนอร์, อดัม ลูอิส - เคอร์ติส โจนส์, ไรอัน เคนท์, รีแอน บรูว์สเตอร์�
��� เซบีย่า : เซร์คิโอ รีโก้ (โทมัส วาคลิก� น.46) - เฆซุส นาบาส (เซบาสเตียน กอร์กเชีย น.46), ดีเอโก้ การ์ลอส (ฌูเลส คุนเด้ น.46), ดาเนี่ยล การ์ริโซ่ (ซิม่อน เคียร์ น.46) , เซร์คิโอ เรกีลอน (เซร์คิโอ้ เอสกูเดโร่� น.46) - แฟร์นานโด (โอลิเบร์ ตอร์เรส น.46), เอเวร์ บาเนก้า (ฟรังโก้ บาซเกซ น.46), โยอัน จอร์แดน (โฌริส ญาญง น.60) - โนลิโต้ (มูนีร์ เอล ฮัดดาดี้ น.46), ลุค เดอ ย็อง (มูนาส ดับบูร์ น.46 (อเลฮานโดร โปโซ น.82)), ลูกัส โอกัมโปส (วิสชาม เบน เยแดร์ น.60)