��������� ปีเตอร์ คราวีทซ์มือขวาของเยอร์เก้น คล็อปป์ชี้แจงว่ากุนซือชาวเยอรมันจะไม่ควักเงินพร่ำเพรื่อถ้าหากนักเตะคนนั้นไม่ทำให้ทีมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังลิเวอร์พูลส่อแววจะไม่มีนักเตะใหม่ก่อนตลาดซื้อขายปิดในวันพฤหัสบดี
��������� ทีมแชมป์ยุโรปมีการขยับเคลื่อนไหวในตลาดซื้อขายซัมเมอร์นี้เงียบเชียบกว่าทีมอื่น หลังใช้เงินไป 1.3 ล้านปอนด์กับการได้นักเตะใหม่มาร่วมทีม 3 ราย
��������� ซัมเมอร์นี้ช่างแตกต่างจากตอนที่ทุ่มเงิน 75 ล้านปอนด์เพื่อคว้าตัวเฟอร์กิล ฟาน ไดจ์คมาจากเซาแธมป์ตันเมื่อ 18 เดือนที่แล้ว ซึ่งคราวีทซ์ยืนยันว่ากองหลังชาวฮอลแลนด์เป็นเพียงแค่เป้าหมายเดียวของพวกเขาในเวลานั้น
��������� "หงส์แดง" ยังคว้านาบี้ เกอิต้า (55 ล้านปอนด์), อลิสซอน เบ็คเกอร์ (67 ล้านปอนด์), ฟาบินโญ่ (40 ล้านปอนด์) และเซอร์ดาน ชากิรี่ (13 ล้านปอนด์)ในซัมเมอร์ถัดมาเพื่อเสริมแกร่งในตำแหน่งสำคัญๆ
��������� แล้วเมื่อเอ่ยว่าพวกเขาไม่มีแผนสองต่อจากฟาน ไดจ์ค คราวีทซ์บอกกับดิ แอธเลติกว่า "นี่ไม่ใช่เกมเพลย์ฯนะ เราไม่ได้ออกแบบนักเตะของเราเองหรือซ้อมด้วยเงินดิจิตัล มันขึ้นอยู่กับงบประมาณและตัวเลือก ใครพร้อมย้ายทีมและราคาเท่าไหร่?"
��������� "และคุณยังต้องเปรียบเทียบนักเตะเหล่านั้นกับคนที่เรามีอยู่ในทีมแล้ว ถ้าเงิน 40 ล้านปอนด์ซื้อคนที่ช่วยอัพเกรตทีมอย่างเห็นชัดไม่ได้, ถ้าเราไม่เห็นว่านักเตะคนนั้นจะยกระดับผลงานเราสู่อีกขั้นนึง, เยอร์เก้นก็ไม่ซื้อหรอก เขาไม่ใช่จะใช้เงินส่งๆ"
��������� "เราตัดสินใจว่าจะต้องเป็นฟาน ไดจ์คหรือไม่งั้นก็ไม่เอาใคร เท่าที่ผมจำได้ก็ไม่ใช่ผู้รักษาประตูในตลาดซื้อขายที่จะสร้างความแตกต่างให้กับเราได้อย่างจริงจังนะ ถ้าเป็นวันนี้เราคงตัดสินใจแบบเดิม"
��������� "คุณต้องพิจารณาทุกอย่าง แต่บางทีในอังกฤษอาจคิดในแง่มุมนั้นต่างออกไป ใช้เงิน, ทุ่มเงิน, ใช้เงิน ทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่าคุณทำอะไรในตลาดซื้อขาย ถึงจุดนึงแล้วนั่นอาจจะเป็นเรื่องจริง"
��������� "อีกด้านนึงเรายังต้องเชื่อในความเป็นไปได้ในการพัฒนา, ผ่านการซ้อมและทำตามระบบอย่างเป็นประจำ"