������� สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) แถลงการณ์ยืนยันได้จัดการตั้งข้อหา "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมดังในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังปล่อยให้แฟนบอลเข้ามาในสนามแมตช์ที่เฉือน เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก 4-3 ที่แอนฟิลด์ ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม อี เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
��� แมตช์นี้ "เดอะ เร้ดส์" ได้ประตูนำห่างผู้มาเยือนถึง 3-0 จากผลงานของ ซาดิโอ มาเน่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แต่หลังจากนั้นทัพ "กระทิงแดง" โชว์ฟอร์มสุดยอดยิงคืน 3 ประตูรวดจาก� ฮวาง ฮี-ชาน, ทาคูมิ มินามิโนะ และ เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ แต่เดชะบุญที่ "บังโม" กดประตูชัยนาทีที่ 69 ทำให้เจ้าบ้านได้เฮคว้า 3 คะแนน
����� อย่างไรก็ตามในแมตช์นี้ได้เกิดเหตุที่ไม่ค่อยน่าอภิรมย์นัก 2 เหตุการณ์ โดยครั้งแรกมีแฟนบอลได้วิ่งจากฝั่งแอนฟิลด์ โร้ด เอนด์ เข้าไปที่กลางสนาม และพยายามที่จะตรงไปที่ซุ้มม้านั่งสำรอง แต่โดนเจ้าหน้าที่จับกุมตัวเอาไว้ได้ทัน ขณะที่หลังจบเกมมีกลุ่มแฟนบอลวัยรุ่นเข้ามาในสนามเพื่อจะขอเสื้อจากผู้เล่น "หงส์แดง"
��� ด้าน เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ก็ไม่ใช่ว่าจะรอดเพราะพวกก็โดนองค์กรลูกหนังยุโรป จัดการตั้งข้อหาเช่นเดียวกันหลังจากที่แฟนบอลของทีมได้ขว้างปาสิ่งของหลายอย่างลงในสนามระหว่างการแข่งขันในแมตช์ดังกล่าว โดย ยูฟ่า ระบุในกรณีนี้จะถูกดำเนินการโดยคณะกรรมการด้านการควบคุม, จริยธรรม และระเบียบวินัย ในวันที่ 17 ตุลาคมนี้
��� สำหรับบทลงโทษในกรณีที่มีบุคคลเข้ามาในสนามเป็นครั้งแรกในรอบปีในการแข่งขันของยูฟ่า จะถูกปรับเงินจำนวน 5,000 ยูโร (ราว 175,000 บาท) อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับ ลิเวอร์พูล ที่มีปัญหากับ ยูฟ่า เพราะเมื่อปีที่ผ่านมาพวกเขาเคยโดนปรับเงินจำนวน 20,000 ยูโร (ราว 700,000 บาท) หลังจากที่มีแฟนบอลขว้างปาสิ่งของใส่รถบัสของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขณะเดินทางมายังแอนฟิลด์ ส่งผลให้รถบัสเสียหายจนต้องหาคันอื่นมาแทนเพื่อเดินทางกลับบ้าน