������ เกมแดงเดือดเที่ยวแรกของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2019/20 จะฟาดแข้งกันในค่ำคืนนี้แล้ว โดย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ดวลกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล ที่มาเยือนในฐานะทีมจ่าฝูง แถมคว้าชัยรวดมา 8 นัดนับตั้งแต่เปิดซีซั่น แม้ฟอร์มการเล่นและผลงานในตอนนี้ระหว่างสองทีมแตกต่างกันเยอะมาก แต่ต้องไม่ลืมว่า นี่คือเกม "แดงเดือด" ซึ่งเป็นเกมแห่งศักดิ์ศรี และ "ปีศาจแดง" ก็มักจะแสดงให้เห็นอยู่บ่อยๆ ว่า ต่อให้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่เพียงใด มักจะสู้กับ "หงส์แดง" ได้ดีเสมอ และไม่ยอมแพ้ง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เล่นในรังของตัวเอง และนี่คือเกร็ดความรู้ รวมถึงสถิติต่างๆ ที่น่าสนใจสำหรับแมตช์หยุดโลกคืนนี้
*เฮด-ทู-เฮด*
��� - นี่คือการเจอกันในลีกครั้งที่ 173 โดย 172 ครั้งที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 68 ครั้ง, ลิเวอร์พูล ชนะ 56 ครั้ง และเสมอกัน 48 ครั้ง
��� - เจอกันที่บ้านของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมลีกมาแล้ว 86 ครั้ง โดย "ปีศาจแดง" เป็นฝ่ายได้เฮ 43 ครั้ง ส่วน "หงส์แดง" บุกมาคว้าชัยได้ 16 หน (เสมอ 27 ครั้ง)
��� - ถ้านับเฉพาะยุค พรีเมียร์ลีก (ตั้งแต่ซีซั่น 1992/93 เป็นต้นมา) ฟาดแข้งที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กันมาแล้ว 27 ครั้ง เป็น แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าชัยได้ 16 หน ส่วน ลิเวอร์พูล บุกมาเก็บสามแต้มได้ 5 ครั้ง (เสมอ 6 ครั้ง)
��� - แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่แพ้ ลิเวอร์พูล ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในการเจอกัน 6 ครั้งหลังสุด ซึ่ง 5 จาก 6 ครั้งเป็นการดวลกันในเกมลีก (ชนะ 3 เสมอ 2)
��� - ครั้งล่าสุดที่ ลิเวอร์พูล บุกมาโค่น แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ถึง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้องย้อนกลับไปในฤดูกาล 2013/14 ซึ่งตอนนั้น "หงส์แดง" ซิวชัยด้วยสกอร์ 3-0 เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2014
��� - 4 จาก 6 ครั้งหลังสุดที่เจอกันในศึก พรีเมียร์ลีก จบลงด้วยการเสมอกัน และ 3 จาก 4 ครั้งเป็นการเจ๊ากันด้วยสกอร์ 0-0
*แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด*
��� - ขาดอีกแค่ 2 ประตูเท่านั้น พวกเขาก็จะกลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่ทำครบ 2,000 ประตู
��� - พวกเขาทำประตูเกมละไม่เกิน 1 ลูก มา 10 นัดติดแล้ว (รวมทุกรายการ) ซึ่งถือเป็นสถิติที่เลวร้ายสุดของพวกเขานับตั้งแต่ปี 2007 โดยครั้งล่าสุดที่พวกเขายิงเกิน 1 ลูก คือเกมลีกนัดเปิดฤดูกาลที่เปิดบ้านยำ เชลซี 4-0 เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา
��� - พวกเขาชนะในเกมลีก 2 จาก 13 นัดหลังสุด (เสมอ 5 แพ้ 6)
��� - "ปีศาจแดง" เก็บได้แค่ 17 คะแนน จากการลงเตะเกมลีก 16 นัด นับตั้งแต่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ถูกแต่งตั้งเป็นกุนซือถาวร
��� - หากคว้าชัยชนะในเกมนี้ไม่ได้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีสถิติออกสตาร์ตในลีกย่ำแย่สุด นับตั้งแต่ฤดูกาล 1986/87 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ขึ้นมาคุมทีมแทน รอน แอตกินสัน
��� - มาร์คัส แรชฟอร์ด มีสถิติทำประตูได้ทุกๆ 208 นาที ยามเจอกับสโมสรในกลุ่ม "บิ๊กซิกซ์" และมีสถิติทำประตูได้ทุกๆ 266 นาที ยามเจอกับสโมสรอื่นๆ�
���
*ลิเวอร์พูล*
��� - หากเก็บชัยชนะได้ พวกเขาก็จะทำสถิติคว้าชัยเกมลีกสูงสุดติดต่อกันเป็นนัดที่ 18 ซึ่งถือเป็นสถิติยาวนานสุดในประวัติศาสตร์ เทียบเท่ากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เคยทำเอาไว้ช่วงระหว่างเดือนสิงหาคม - ธันวาคม ปี 2017
��� - พวกเขากำลังลุ้นเป็นทีมที่สี่ ที่ออกสตาร์ต 9 เกมแรกของฤดูกาล ด้วยการคว้าชัยรวด และจะเทียบเท่ากับสถิติสูงสุดยุค พรีเมียร์ลีก ที่ เชลซี เคยทำเอาไว้ในฤดูกาล 2005/06
��� - ทีมสุดท้ายที่คว้าชัยเกมลีกรวด 9 นัดแรกของฤดูกาล แต่สุดท้ายไม่ได้แชมป์คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาล 1985/86 ซึ่งพวกเขาจบแค่อันดับสี่ ทั้งที่ออกสตาร์ต 10 เกมแรก ด้วยการคว้าชัยรวด
��� - ลิเวอร์พูล คว้าชัยเกมลีกได้แค่ 2 จาก 13 นัดหลังสุดที่บุกไปเยือนสโมสรในกลุ่ม "บิ๊กซิกซ์"