��������� เจมี่ คาร์ราเกอร์ ขอโทษ ปาทริซ เอฟร่า กับการที่นักเตะลิเวอร์พูลสวมเสื้อสนับสนุน หลุยส์ ซัวเรซ จากเหตุการณ์แข้งชาวอุรุกวัยโดนลงโทษกรณีเหยียดผิด โดยยอมรับว่าสโมสรทำผิดอย่างแรง
��������� เมื่อปี 2011 ซัวเรซโดนลงโทษข้อหาเหยียดเอฟร่าในเกมแดงเดือดที่แอนฟิลด์ เขาโดนสมาคมฟุตบอลอังกฤษแบนไป 8 นัด
��������� จากนั้นในเกมที่ "หงส์แดง" ต้องบุกไปเยือนที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็มีประเด็นที่ทั้งคู่ไม่จับมือกันก่อนลงสนามอีก
��������� เอฟร่า พูดถึงเรื่องทั้งหมดผ่านทางรายการ Monday Night Football ทางช่องสกายสปอร์ต ว่า "มันเหลือเชื่อมาก ทั้งสัปดาห์คนเอาแต่ถามว่าคุณจะจับมือกับเขาไหม? ผมรู้สึกแย่มาก ผมอยากให้ทุกคนพูดถึงเรื่องเกม"
��������� "แม่ผมก็ถาม ซึ่งผมบอกว่า 'แม่ ผมเป็นคนที่ให้อภัยคน ผมจะจับมือกับเขา ไม่ว่าจะอะไรจะเกิดขึ้น' และเขาก็ทำพลาด"
��������� "ตอนที่เขาไม่จับ ผมก็แบบ 'หมอนี่เป็นอะไรกัน เขาทำให้ตัวเองแย่ลงไปอีก' ผมรู้สึกเสียใจกับเขา"
��������� หลังมีคำสั่งลงโทษแบนอดีตแข้งอาหยักซ์ 8 นัด ฝั่งลิเวอร์พูลนั้นสร้างประเด็นในกับตนเองอีกอย่างคือนักเตะและกุนซือเคนนี่ ดัลกลิช มีการส้วมเสื้อที่มีข้อความว่า 'Suarez 7' ในช่วงอบอุ่นร่างกายก่อนเกมที่จะเจอกับวีแกน
��������� เอฟร่าบอกว่า "แม้แต่สโมสรเองยังเอาตัวเองไปเสี่ยง คุณต้องการหนุนหลังนักเตะตัวเองอยู่แล้วล่ะ แต่เรื่องนี้มันเกิดหลังจากโทษแบน คุณกำลังสื่อสารอะไรไปยังโลกภายนอกตอนที่ทำแบบนั้น? การสนับสนุนใครสักคนที่โดนแบนจากการใช้คำเหยียด"
��������� คาร์ราเกอร์ ที่ร่วมรายการอยู่ด้วย และเป็นคนหนึ่งที่สวมเสื้อตัวดังกล่าว ยอมรับและขอโทษกับเอฟร่าว่า "ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราทำผิดอย่างใหญ่หลวง มันชัดเจนเลย"
��������� "ตอนนั้นเราเดินทางในวันแข่ง กินข้าวเที่ยง และมีประชุมทีม และผมจำได้ว่าไม่เคนนี่ก็สตีฟ คลาร์กที่พูดว่า 'พวกคุณยังจะใส่เสื้อไหม?' และนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเรื่องนี้"
��������� "และผมจะไม่บอกว่าตัวเองไม่มีส่วนเพราะในฐานะสโมสรเราทำผิด และผมก็เป็นรองกัปตัน"
��������� "ผมไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังจริงๆ ไม่คิดว่าเกี่ยวกับผู้จัดการทีมอย่างเคนนี่หรอก ผมคิดว่าน่าจะเป็นผู้เล่นที่สนิทกับหลุยส์ในห้องแต่งตัวนี่แหละที่อยากจะหนุนเพื่อนของพวกเขา บางทีผมต้องมองดูตัวเองตอนนี้และพูดว่าผมไม่มีความกล้าหาญส่วนตัวที่จะพูดว่า 'ผมไม่ใส่หรอก'"
��������� "ผมไม่คิดหรอกว่าทุกคนในสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลจะรู้สึกว่าสิ่งที่เรากำลังทำในตอนนั้นมันถูกต้อง แต่ผมคิดว่าในฐานะสโมสรฟุตบอลหรือในฐานะครอบครัวนั้นปฏิกิริยาแรกคือการออกมาหนุนพวกเขาแม้คุณจะรู้ว่าพวกเขาทำผิด ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ผิด"