������ สเปอร์ส แม้จะทำช็อกแฟนหงส์ด้วยการบุกมานำแต่ไก่โห่ แต่ครึ่งหลัง "หงส์แดง" เร่งเกมก่อนเผด็จศึกรัวสองเม็ดรวด จากจอร์แดน เฮนเดอร์สัน และจุดโทษของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พาทีมคว้าชัย 2-1 ทำสถิติไร้พ่ายในลีกที่แอนฟิลด์ 45 แล้ว แถมชนะ 12 เกมติด พร้อมนำจ่าฝูงโดยทิ้งอันดับสองอย่าง แมนฯซิตี้ 6 คะแนน ในศึกบิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
����� สนาม : แอนฟิลด์
��� เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ "หงส์แดง" ได้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หายป่วยกลับมายืนแบ็กขวา แดนกลางส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม คืนตัวจริง เกมรุกมาเต็มจัด โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ นำทัพ ฟาก "ไก่เดือยทอง" ภายใต้การคุมทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ปรับทัพหลายจุดส่ง� โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, แดนนี่ โรส,, แฮร์รี่ วิงค์ส และ คริสเตียน เอริคเซ่น คืน 11 คนแรก
��� ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาเพียงแค่ 47 วินาทีเท่านั้น สเปอร์ส เป็นฝ่ายบุกมาขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว บอลจาก ซน ฮึง มิน ได้บอลทางซ้ายก่อนดึงจังหวะหลบ เฮนเดอร์สัน เข้าขวาข้างถนัดแล้วตะบันอัดเต็มแรงนอกกรอบบอลไปชน เดยัน ลอฟเรน ชนเสาก่อนจะกระเด้งมาเข้าหัว แฮร์รี่ เคน โขกซ้ำเข้าไป
��� ลิเวอร์พูล ไม่รอช้าบุกหนักหวังทวงประตูคืนให้เร็ว นาที 20 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์� เปิดบอลเข้ามาจุดนัดพบ ซาดิโอ มาเน่ สลัดหนีตัวประกบมาโหม่งเหินข้ามคาน
��� นาที 25 เกือบได้ลุ้นเม็ดสอง หลังคริสเตียน เอริคเซ่น วิ่งมาหวดในกรอบบอลพุ่งไปเสาสอง แฮร์รี่ เคน วิ่งมาพยายามเหยียดซ้ำแต่ไม่ถึง
��� นาที 27 หงส์แดง ชวดตีเสมอเหลิอเชื่อ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ไหลบอลเข้าช่องให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลากตัดเข้าในส่องด้วยซ้ายถูก� เปาโล กัซซานิก้า ปัดออกมาเข้าทาง ฟีร์มีโน่ ตามซ้ำเน้นๆยังถูก กัซซานิก้า ลุกมาปัดทิ้งออกไปได้อีก
��� โอกาสต่อเนื่องของเจ้าบ้าน� เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดฟรีคิกโค้งเข้าเขตโทษ เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค โถมขึ้นโหม่งยังถูก กัซซานิก้า ผวาปัดข้ามคานออกไปได้ทัน
��� ก่อนจบครึ่งแรก 3 นาที หงส์แดง ได้ลุ้นจากฟรีคิระยะหวังผล� เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ วิ่งมาปั่นเน้นๆไปติดกำแพงน่าเสียดาย
��� จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ตามหลัง สเปอร์ส 0-1
��� กลับลงสนามมาลุยกันต่อ หงส์แดง บุกกดดันหนักทันที แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เติมขึ้นมาเอาบอลแล้วเปิดลึกไปเสาไกล โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ขึ้นโหม่งกดลงพื้นถูก กัซซานิก้า ผวาปัดออกหลังไปได้ทัน
��� นาที 48 สเปอร์ส หวิดหนีห่างเป็นสอง จากจังหวะบอลยาวเปิดขึ้นมาแล้ว ลอฟเรน ทำพลาดปล่อยบอลตกจนถูก ซน ฮึง-มิน ฉกเอาบอลไปแตะหนี อลีสซิง แล้วตวัดยิงบอลมุมแคบไปชนคานน่าเสียดาย
��� ถัดมา 4 นาทีกลายเป็น ลิเวอร์พูล ตามตีเสมอ 1-1 ฟ่าบินโญ่ ตักบอลเข้าเขตโทษไปแฉลบ ดาวินซอน ซานเชซ หลุดมาถึง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ยิงบอลด้วยซ้ายตกลงพื้นก่อนพุ่งเสียบเสาไกลเด็ดขาด
��� หลังตีเสมอเจ้าถิ่นลุยหนักมากขึ้น� เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เติมเกมบุกขึ้นมาเปิดไปให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้กดในเขตโทไม่ผ่านมือ เปาโล กัซซานิก้า ที่ยืนถูกตำแหน่ง
��� นาที 74 ลิเวอร์พูล ได้ลูกจุดโทษเมื่อ แซร์ช โอริเย่ร์ ไปเสียเหลี่ยมแหย่บอลสกัดโดนขา ซาดิโอ มาเน่ ที่บังบอลได้เปรียบ แอนโทนี่ เทย์เลอร์ ไม่ลังเลเป่าชี้เป็นจุดโทษทันที และเป็น ซาลาห์ อาสายิงเข้าไปไม่พลาด ลิเวอร์พูล พลิกแซงนำ 2-1
��� ช่วงท้ายเกมทีมเยือนบุกหนักและหวิดตีคืนได้ ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ ปาดบอลออกไปทางซ้ายให้ ซน ฮึง-มิน บรรจงกดด้วยขวาติดเซฟ อลิสซอน ล้มตัวรับไวได้ จบเกม ลิเวอร์พูล เก็บสามแต้มล้ำค่าตามเป้าดว้ยการเฉือนชนะ สเปอร์ส 2-1 พร้อมรักษาช่องว่างจากรองจ่าฝูง แมนฯ ซิตี้ ไว้ที่ 6 คะแนน
��� รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
��� ลิเวอร์พูล : อลิสซอน เบ็คเกอร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม (เจมส์ มิลเนอร์ น.77) , โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (โจ โกเมซ น.85), โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ (ดิว็อค โอริกี้ น.90+1) , ซาดิโอ มาเน่
��� สเปอร์ส: เปาโล กัซซานิก้า, แซร์ช โอริเย่ร์ (ลูคัส มูร่า น.83), โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, ดาวินซอน ซานเชซ, แดนนี่ โรส, มูสซ่า ซิสโซโก้, แฮร์รี่ วิงค์ส (ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ น.63) , คริสเตียน เอริคเซ่น (โจวานี่ โล เซลโซ่ น.88) , เดเล่ อัลลี่, ซน ฮึง-มิน, แฮร์รี่ เคน
��� ผู้ตัดสิน : แอนโทนี่ เทย์เลอร์