���� "หงส์แดง" ทำได้แค่เสมอกับ นาโปลี ในแอนฟิลด์ 1-1 หลังโดนขึ้นนำไปก่อนช่วง 45 นาทีแรก ก่อนที่เดยัน ลอฟเรน จะมาโขกตีเสมอแบ่งแต้มกันไป ทำให้ล้างตาถอนแค้นจากพ่ายนัดแรกไม่สำเร็จ ทำให้ ลิเวอร์พูล มีเพิ่มเป็น 10 คะแนนยังนำเป็นจ่าฝูง แต่ต้องลุ้นเข้ารอบในเกมบุกไปเยือนซัลซ์บวร์กนัดสุดท้าย ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
��� สนาม : แอนฟิลด์
��� ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดที่ 5 ของกลุ่ม อี ลิเวอร์พูล จ่าฝูงของกลุ่ม ก่อนแข่งมี 9 คะแนน รับการมาเยือนของ นาโปลี ที่มี 8 คะแนน เกมนี้หากลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ คว้าชัยจะการันตีแชมป์กลุ่มพร้อมคว้าตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย
��� "หงส์แดง" เกมรุกได้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กลับมาล่าตาข่ายร่วมกับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่ ทว่าเกมนี้ดร็อป เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ไว้ข้างสนามแล้วให้ โจ โกเมซ กับเจมส์ มิลเนอร์ สตาร์ทตัวจริงแทน ขณะที่ฝั่ง นาโปลี ของ คาร์โล อันเชลอตติ ขาดเก่งอย่าง� ลอเรนโซ่ อินซินเย่, และ อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค ที่บาดเจ็บ ทำให้เกมนี้วาง เออร์วิง โลซาโน่ จับคู่แดนหน้ากับ ดรีส์ เมอร์เท่นส์�
��� ช่วงต้นเกมทั้งคู่ยังหาโอกาสเข้าไปยิงแบบจะๆ ไม่ได้เลย นาที 8 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลองซัดไกลกว่า 35 หลาแต่บอลก็หลุดกรอบออกไปแบบหมดลุ้น
��� นาที 14 เกมต้องหยุดชั่วคราว หลัง ฟาบินโญ่ มีอาการเจ็บจนต้องให้ทีมแพทย์ปฐมพยาบาล ก่อนนาที 19 "หงส์แดง" ตัดสินใจเปลี่ยนเอา จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ลงไปเล่นแทน
��� กระทั่ง นาที 21 นาโปลีทำช็อกแฟนหงส์ก่อนเลย เมื่อพังประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวแทงบอลของ โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่ ให้ ดรีส์ เมอร์เท่นส์ หลุดกับดักล้ำหน้าก่อนควบบอลเข้ามาในกรอบทางขวาแล้วกดด้วยเท้าขวาผ่านมือ อลิสซอน เสียบเสาไกลอย่างสวยงาม
��� โอกาสยิงเข้ากรอบหนแรกของ "หงส์แดง" ต้องรอถึงนาที 36 บอลจาก แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ครอสยาวไปหน้าประตูให้ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ โขกแต่บอลไปตรงตัว อเล็กซ์ เมเร็ต รับเข้ากรอบไว้ได้
��� ช่วงทดเจ็บ นาที 45+4 เจมส์ มิลเนอร์ โชว์สกิลเลี้ยงแหวกแนวรับนาโปลีเข้าไปซัดมุมแคบสุดแรงแต่บอลยังถูก อเล็กซ์ เมเร็ต เซฟไว้ได้อีก
��� จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ตามหลัง นาโปลี 0-1
��� ครึ่งหลัง นาที 56 "หงส์แดง" เกือบได้ลุ้นลูกตีเสมอ อเล็กซ์ เมเร็ต นายด่านของ "อัซซูร์ร่า" ออกมาตัดบอลพลาด โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เก็บตกอัดด้วยขวาบอลพุ่งจะเข้าอยู่แล้วแต่ คาลิดู คูลิบาลี่ ยังสกัดบอลเส้นประตูได้แบบหวุดหวิด
��� เกมรุกของ คล็อปป์ เริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ นาที 61 คราวนี้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จ่ายเข้ากลางให้ โม ซาลาห์ ซัดด้วยซ้ายเน้นๆแต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือนายด่านนาโปลีอีก
��� นาที 65 ลิเวอร์พูล มาทวงประตูตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ บอลจากจังหวะคอนเนอร์ทางมุมธงด้านขวา เจมส์ มิลเนอร์ เปิดบอลมากลางประตูให้ เดยัน ลอฟเรน เทกตัวเบียด เมอร์เท่นส์ ก่อนโขกบอลซุกก้นตาข่าย แม้แข้งนาโปลีจะประท้วงว่าเป็นการฟาวล์ไปก่อนแล้ว แต่ไม่เป็นผล ผู้ตัดสินที่รับสัญญาณจากวีเออาร์เป่ายืนยันให้เป็นประตู
��� เจ้าถิ่นยังโหมบุกอย่างหนัก แต่แนวรับของนาโปลีเล่นกันได้เหนียวแน่นไม่เปิดช่องว่างให้แข้งเจ้าถิ่นได้ลั่นไกแบบถนัด
��� ท้ายเกม นาที 88 โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ได้ขึ้นโขกในกรอบแต่บอลก็ยังหลุดกรอบออกไป จบเกม ลิเวอร์พูล ทำได้แค่เสมอกับ นาโปลี 1-1 แบ่งแต้มกันไป�����
��� รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
������� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - โจ โกเมซ� (อเล็กซ์ อ็อกเลดแชมเบอเลน น.57), เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่ (จอร์จินโย่ ไวนัลดุม น.19), เจมส์ มิลเนอร์ (จอร์จินโย่ ไวนัลดุม น.78) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
�
������� เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์����
������� นาโปลี (3-5-2) : อเล็กซ์ เมเร็ต - นิโคล่า มักซิโมวิช, คอสตาส มาโนลาส, คาลิดู คูลิบาลี่ - โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, ฟาเบียน รูอิซ, อัลลัน, ปิโอเตร เซียลินสกี้ (อามิน ยูเนส น.85), มาริโอ รุย - เออร์วิง โลซาโน่ (แฟร์นานโด ยอเรนเต้ น.72), ดรีส์ เมอร์เท่นส์ (เอลีฟ เอลนาส)
������� เทรนเนอร์ : คาร์โล อันเชลอตติ
������� ผู้ตัดสิน : การ์ลอส เดล เซร์โร่ (สเปน)