������ ไม่มีพลาด เจอร์เก้น คล็อปป์ พา ลิเวอร์พูล คว้า 3 แต้มสำคัญหลังบุกดับฝัน ซัลซ์บวร์ก 2-0 โดยมาได้ 2 นาที 2 ลูกจาก นาบี เกอิต้า และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ผ่านเข้ารอบต่อไปในฐานะแชมป์กลุ่มมี 13 คะแนน ส่วน เจ้าถิ่น ตกรอบสุดช้ำ ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี (นัดสุดท้าย) คืนวันอังคารที่ผ่านมา
���� สนาม : เร้ดบลูส์ อารีน่า
��� เจสซี่ มาร์สช์ เทรนเนอร์ ซัลซ์บวร์ก พาทีมชนะเกงค์ 4-1 ในนัด 5 ก่อนถล่มสวารอฟสกี้ ติโรล 5-1 ในเกมลีกล่าสุด เป็นชัยชนะนัดที่ 3 ในรอบ 5 เกม เงื่อนไขเกมนี้ต้องเอาชนะลิเวอร์พูลให้ได้ก่อนแล้วคะแนนจะ 10 เท่ากันแล้วไปลุ้นเข้ารอบจากเฮด ทู เฮด หลังจากนัดแรกแพ้มา 3-4 เกมนี้ชนะ 1-0 , 2-1 หรือ 3-2 ก็ยังได้เปรียบ แต่ต้องไปดูผลอีกคู่ด้วย
��� ทางด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ ลิเวอร์พูล พาทีมเสมอนาโปลี 1-1 ในนัด 5 ก่อนชนะบอร์นมัธ 3-0 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการคว้าชัย 3 นัดติดเงื่อนไขของ "หงส์แดง" จ่าฝูงกลุ่มนี้ขอแค่เสมอก็จะผ่านเข้ารอบทันที โดยไม่ต้องไปสนใจผลคู่อื่นเลย
��� เริ่มต้นเกมได้ไม่ถึงนาที ซัลซ์บวร์ก ทำได้ดีกว่าเกือบหลุดเดี่ยวสองครั้งจาก เออร์ลิง เบราท์ ฮาลันด์ และ ฮวาง ฮี-ชาน แต่ยังไม่ผ่าน เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ก่อนเป็น เอน็อค เอ็มเวปู ได้จังหวะซัดครั้งแรกไปติดเซฟ อลิสซอน เบ็คเกอร์
��� ต่อมานาทีที่ 4 "หงส์แดง" ตอบโต้บ้างจากจังหวะวางบอลยาวจากแดนหลังของ เดยัน ลอฟเรน ครอสข้ามหัวแนวรับให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เบียดเอาชนะ อันเดรียส อูลเมอร์ เข้าไปซัดด้วยขวาติดเซฟ ซิซาน สตานโควิช
��� อีก 3 นาทีต่อมา เจ้าถิ่น เกือบได้ประตูขึ้นนำเป็นจังหวะเก็บตกหน้าเขตโทษของ ฮวาง ฮี-ชาน ฝากบอลทำชิ่งกับ ทาคูมิ มินามิโนะ หลุดเข้าไปล็อคหลบแนวรับ ลิเวอร์พูล ก่อนตวัดด้วยซ้ายไปติดเซฟ อลิสซอน เบ็คเกอร์
��� ผ่านมา 10 นาที รูปเกมสนุกเปิดเกมรุกด้วยกันทั้งคู่ "หงส์แดง" ได้ลุ้นอีกครั้งจากบอลทางฝั่งขวาเป็น โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ฝากเข้าในให้ ซาดิโอ มาเน่ ปั่นโค้งด้วยขวาหน้า หัวกะโหลก บอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว
มาเน่หล่อ-ซาลาห์ท่ายาก! ลิเวอร์พูลดับฝันซัลซ์บวร์กซิวแชมป์กลุ่มลิ่ว16ทีม ชปล.
��� นาทีที่ 20� ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทองเป็น จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ชิ่งบอลให้ ซาดิโอ มาเน่ หลุดเข้าไปซัดติดเซฟ ซิซาน สตานโควิช ก่อนมาเข้าทาง นาบี เกอิต้า ตามซ้ำด้วยซ้ายก็ยังไม่ผ่านบล็อคแนวรับ ซัลซ์บวร์ก
��� 5 นาทีต่อมา เจ้าถิ่น ขอลุ้นบ้างเป็น ทาคูมิ มินามิโนะ พาบอลแหวกขึ้นมาก่อนแทงออกซ้ายให้ เออร์ลิง เบราท์ ฮาลันด์ เบียดเอาชนะ เดยัน ลอฟเรน ก่อนตะบันไปติดขา อลิสซอน เบ็คเกอร์ ล้มตัวเซฟไว้ได้
��� ก่อนหมดครึ่งแรก 15 นาที ลิเวอร์พูล พลาดขึ้นนำอีกครั้งเป็นบอลสวนกลับของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แทงช่องให้ นาบี เกอิต้า หลุดเข้าเขตโทษก่อนจ่ายออกขวาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่งมายิงออกหลังเหลือเชื่อ
��� ช่วงทดเจ็บ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ พาบอลสวนกลับก่อนจ่ายให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเข้าเขตโทษดึงจังหวะหลอกแนวรับ ซัลซ์บวร์ก ดีดให้ นาบี เกอิต้า สอดขึ้นมาซัดด้วขวาไปติดมือ ซิซาน สตานโควิช
��� หมดครึ่งเวลาแรก ซัลซ์บวร์ก 0 ลิเวอร์พูล 0
��� นาทีที่ 47 "หงส์แดง" มีปัญหาในการจบสกอร์เป็น ซาดิโอ มาเน่ พาบอลขึ้นมาทางซ้ายก่อนแทงช่องให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดกับดักล้ำหน้าสอดมายิงด้วยซ้ายข้างถนัดบอลหลุดข้ามคานออกไปอีก
มาเน่หล่อ-ซาลาห์ท่ายาก! ลิเวอร์พูลดับฝันซัลซ์บวร์กซิวแชมป์กลุ่มลิ่ว16ทีม ชปล.
��� สุดท้ายนาทีที่่ 57 ทีมเยือน มาได้ประตูออกนำจนได้เป็นบอลทางซ้ายของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน จ่ายต่อเข้าในให้ ซาดิโอ มาเน่ ใช้ความเร็วกระชากเข้าเขตโทษดึง ซิซาน สตานโควิช ออกจาหน้าปากประตูก่อนยกเข้าในให้ นาบี เกอิต้า โขกโล่งๆไม่มีเหลือ
��� นาทีต่อมาสกอร์ ลิเวอร์พูล มาบวกสกอร์เพิ่มทันควันเป็นจังหวะเปิดจากแนวหลังของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และเป็น เฌอโรม อ็องเกเน่ โหม่งสกัดพลาดบอลมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แตะหลบ ซิซาน สตานโควิช ก่อนซัดมุมแคบเข้าประตูไป
��� ช่วง 15 นาทีสุดท้าย "หงส์แดง" พลาดโอกาสบวกสกอร์ปิดกล่องทั้งจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ แต่ก็ยังไม่ผ่านมือ ซิซาน สตานโควิช ยังเซฟช่วยไม่ให้สกอร์ขาดลอย
��� จบเกม ซัลซ์บวร์ก 0 ลิเวอร์พูล 2 เป็นลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ คว้า 3 แต้มสำคัญ ผ่านเข้ารอบต่อไปในฐานะแชมป์กลุ่มมี 13 คะแนน ส่วน ซัลซ์บวร์ก ตกรอบ
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามตัวจริง
��� ซัลซ์บวร์ก (4-3-1-2) : ซิซาน สตานโควิช - ราสมุส นิสเซ่น คริสเตนเซ่น, เฌอโรม อ็องเกเน่, มักซิมิเลียน วือเบอร์, อันเดรียส อูลเมอร์ - เอน็อค เอ็มเวปู, ซลัตโก้ ยูนูโซวิช (แพ็ตสัน ดาก้า น.68), โดมินิค โซบอสซ์ไล (มาจีด อชิเมรุ� น.89) - ทาคูมิ มินามิโนะ - ฮวาง ฮี-ชาน, เออร์ลิง เบราท์ ฮาลันด์ (มาซายะ โอะกุกาวะ น.75)
เทรนเนอร์ : เจสซี่ มาร์สช์�
��� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน (โจ โกเมซ น.53), เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, นาบี เกอิต้า (ดิว็อค โอริกี้ น.87) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (เจมส์ มิลเนอร์ น.75), ซาดิโอ มาเน่��
เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์����
ผู้ตัดสิน : ดานนี มัคเคลี่ (ฮอลแลนด์)