�������� ลิเวอร์พูล ยังเดินหน้าคว้าชัยได้เรื่อยๆหลังเล่นในแอนฟิลด์เบียดเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน แบบหวุดหวิด 1-0 โดยเกมนี้มี ดราม่าหลังช่วงท้ายครึ่งแรกผู้ตัดสินใช้วีเออาร์ตัดสินให้ประตูแก่เจ้าถิ่น และปฎิเสธไม่ให้ประตูทัพหมาป่า ทำให้ "หงส์แดง" มีเพิ่มเป็น 55 แต้มหนีอันดับสองอย่าง เลสเตอร์ ถึง 13 คะแนน ในเกมพรีเมียร์ลีก นัดส่งท้ายปี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
������� สนาม :� แอนฟิลด์
��� ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดส่งท้ายปี วีกที่ 20 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม ที่ผ่านมา "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งลงเล่นเกมที่ 19 เกมล่าสุดไล่ถล่ม เลสเตอร์ 4-0 เปิดแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่ฟอร์มล่าสุดเฉือนแชมป์เก่า แมนฯซิตี้ 3-2
��� โดยเกมนี้ ลิเวอร์พูล ได้รับอนุญาตจากทางพรีเมียร์ลีกให้แปะตราแชมป์สโมสรโลกที่เสื้อได้แค่เพียงนัดนี้เกมเดียวเท่านั้น หลังจากเพิ่ง
��� เจอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนแค่ตำแหน่งจากเกมที่ถล่มเลสเตอร์มาโดยส่ง อดัม ลัลลาน่า ลงเล่นแทน นาบี เกอิต้า ขณะที่ทีมเยือนของ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต ได้พักน้อยกว่าทำให้ต้องโรเตชั่นผู้เล่นหลายคน ดร็อปทั้ง ราอูล ฮิเมเนซ และอดาม่า ตราโอเร่ โดยใช้ ดีเอโก้ โชต้า และเปโดร เนโต้ เป็นทีเด็ดในแนวรุกแทน
��� ครึ่งแรกเริ่มมาได้ แค่ 4 นาที "หงส์แดง" ก็ได้ลุ้นขึ้นนำก่อนเลย หลัง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ครอสบอลเร็วไปหน้าประตูให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่งมายิงด้วยซ้ายเหินคานไปหวุดหวิด
��� นาที 19 เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกจากจังหวะสวนกลับเร็วของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่สปีดควบพาบอลขึ้นมาก่อนจะป้ายออกขวาให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ลากเข้ามาอัดด้วยซ้ายแต่บอลไปแฉลบแนวรับวูล์ฟส์เข้ามือ รุย ปาตริซิโอ
��� "หงส์แดง" ยังครองเกมได้เหนือกว่า นาที 22 ฟาน ไดค์ วางบอลยาวมาให้ ซาดิโอ มาเน่ เช็ดบอลเข้ากลางถึง ซาลาห์ วอลเลย์ด้วยซ้ายแบบไม่จับ แต่บอลเบาไปเข้ามือปาตริซิโออีกที
��� นาที 30 ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสขึ้นนำอีก หลัง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ผ่านเข้ากลางให้ ซาดิโอ มาเน่ ยิงด้วยซ้ายไปติดบล็อคของไรอัน เบนเน็ตต์
��� และต่อเนื่องจากจังหวะเตะมุมเข้ามา เทรนต์ เปิดคอนเนอร์ทางด้านซ้ายมากลางประตู โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เบียดเข้ามาโขกบอลหลุดกรอบไปนิดเดียว
��� นาที 43 บอลวางยาวจาก ฟาน ไดค์ ให้ อดัม ลัลลาน่า สอดเข้ามาพักอกต่อให้ ซาดิโอ มาเน่ สอดเข้ามยิงด้วยขวาผ่านนายด่านหมาป่าเบียดเสาแรกเข้าไป ทว่าทีแรกผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะแฮนด์บอลของ ลัลลาน่า ก่อนที่จะปรึกษากับทีมจากห้อง VAR ซึ่งภาพช้ารีเพลย์เห็นได้ชัดว่าบอลไปโดนไหล่ของลัลลาน่าซึ่งไม่แฮนด์บอล ก่อน แอนโธนี่ เทย์เลอร์ จะเปลี่ยนคำตัดสินใน นาที 45 ให้ "หงส์แดง" ขึ้นนำ 1-0
��� ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก นาที 45+3 ชูเอา มูตินโญ่ แทงบอลขึ้นหน้าให้ จอนนี่ กาสโตร หลุดไปถึงเส้นหลังก่อนหักเข้ามาในกรอบถึง เนโต้ ซัดด้วยขวาเสียบมุมเข้าไป แต่แล้ว VAR มาริบสกอร์ของทัพหมาป่าอีก หลังจังหวะที่ จอนนี่ ออกตัวไปนั้นเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน
��� จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 ชนิดดราม่าVAR
��� ครึ่งหลัง ทีมเยือนโหมหนักแต่ต้นเกมเพื่อหวังทวงประตูให้ได้ นาที 47 ชูเอา มูตินโญ่ เก็บตกบอลแถวสองได้ก่อนซัดด้วยซ้ายสวนเข้าไปแต่บอลยังเบาก่อนไปเข้ามือของ อลิสซอน
��� นาที 58 ทีมเยือนปรับหมากเปลี่ยนรวดเดียวสองคนส่งทั้ง อดาม่า ตราโอเร่ และโรแม็ง ซาอิสส์ ลงแทน รูเบน เนเวส และเลอันแดร์ เดนดอร์เกอร์
��� นาที 61 ฟีร์มีโน่ เกือบลุ้นเม็ดที่สองให้หงส์แดงหลังตะบันด้วยขวากลางประตูแต่บอลเหินโด่งข้ามคานไป
��� นาที 67 เจ้าบ้านถอดเอา อดัม ลัลลาน่า ออกไปพักแล้วส่ง นาบี เกอิต้า ลงเล่นแทน ถัดมาไม่ถึงนาที "หมาป่า" ได้ลุ้นตีเสมอแบบจังๆ บ้าง หลัง เปโดร เนโต้ หลุดไปทางมุมแคบฝั่งขวาก่อนอัดเต็มแรงบอลพุ่งไปติดเซฟของ อลิสซอน
��� ช่วง 10 นาทีสุดท้าย วูล์ฟแฮมป์ตัน โหมบุกกดดันเจ้าถิ่นอย่างหนัก นาที 83 ราอูล ฮิเมเนซ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาเกือบแผลงฤทธิ์หลังพักอกแล้วหวดด้วยซ้ายในกรอบ ดีที่เจ้าถิ่นได้ โจ โกเมซ พุ่งมาบล็อคเปลี่ยนทางบอลออกหลัง
��� นาที 89 อีกครั้งที่อาคันตุกะเกือบได้ลูกตีเสมอ คราวนี้ขึ้นทางซ้ายทาง รูเบน วินาเกร แตะบอลผ่าน เทรต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก่อนวิ่งอ้อมไปครอสเข้ากลางให้ ราอูล ฮิเมเนซ บังบอลก่อนไหลคืนหลังให้ โรแม็ง ซาอิสส์ วิ่งซัดเต็มแรงนอกกรอบ ทว่าบอลเหินโด่งข้ามคานไปไกล
��� ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่มเติม จบเกม ลิเวอร์พูล เฉือนเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 คว้าชัยชนะเกมที่ 18 มีเพิ่มเป็น 55 คะแนน ทิ้งอันดับสองอย่าง เลสเตอร์ ถึง 13 แต้ม แถมยังแข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด ขณะที่ วูล์ฟส์รั้งอันดับ 8 มี 30 คะแนน
���
��� รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
��� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - อดัม ลัลลาน่า, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม (เจมส์ มิลเนอร์ น.86) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (ดิว็อก โอริกี้ น.86), ซาดิโอ มาเน่
��� ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์
��� วูล์ฟแฮมป์ตัน (3-5-2) : รุย ปาตริซิโอ - ไรอัน เบนเน็ตต์, คอเนอร์ เคาดี้, แม็กซ์ คิลแมน - จอนนี่ กาสโตร, เลอันเดร เดนดองเกอร์ (อดาม่า ตราโอเร่ น.58), รูเบน เนเวส (โรแม็ง ซาอิสส์ น.58), ชูเอา มูตินโญ่, รูเบน วินาเกร - ดีโอโก้ โชต้า (ราอูล ฮิเมเนซ น.72), เปโดร เนโต้
��� ผู้จัดการทีม : นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต
��� ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์