����� เวสต์แฮม กลายเป็นทีมที่ 19 ในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ที่พ่ายให้ "หงส์แดง" หลังเกมตกค้างเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล บุกไปคว้าชัยถึงถิ่น 2-0 เก็บสามแต้มเต็มมีเพิ่มเป็น 70 คะแนนรั้งจ่าฝูงโด่งหนี แมนฯซิตี้ 19 แต้ม หลังแข่ง 24 นัดเท่ากัน
����� สนาม : ลอนดอน สเตเดี้ยม
��� เกมพรีเมียร์ลีก นัดตกค้าง เมื่อคืนวันพุธที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ที่ผลงานแย่ไม่ชนะทีมใดมา 4 เกมติดทุกรายการ โดยเกมล่าสุดพ่ายคาบ้านให้ เวสต์แฮม 0-1 รับการมาเยือนของจ่าฝูง ลิเวอร์พูล ที่ยังไร้พ่ายในลีก ซึ่งฟอร์มล่าสุดของ "หงส์แดง" ในเอฟเอ คัพ คือบุกไปเสมอกับ ชูวร์สบิวรี่ 2-2
��� เดวิด มอยส์ นายใหญ่ของ เวสต์แฮม เกมนี้ส่ง เฌเรมี่ เอ็นกาเกีย กองหลังดาวรุ่งลงเล่นเป็นตัวจริงนัดแรก ขณะที่เกมรุกฝากความหวังไว้ที่ มานูเอล ลันซินี่ และ เซบาสเตียน อาลแลร์
��� ส่วนทางฝั่ง "หงส์แดง" ไร้ ซาดิโอ มาเน่ ที่บาดเจ็บ เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ส่ง ดิว็อค โอริกี้ ประสานงานร่วมกับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และโมฮาเหม็ด ซาลาห์
��� เริ่มเกมมาแค่ 4 นาทีแรก "หงส์แดง" ได้เสียวก่อนเลยหลัง ดิว็อค โอริกี้ หลุดล้ำหน้าเข้าไปถึงเส้นหลังก่อนปาดเลียดมาในกรอบ 6 หลา แต่บอลดันลึกไปเข้ามือ ฟาเบียนสกี้
��� โอกาสแรกของ "ขุนค้อน" มีลุ้นเช่นกัน นาที 15 อาเธอร์ มาซูอากู ด้านซ้ายไปหน้าประตูให้ มานูเอล ลันซินี่ วิ่งมายิงด้วยซ้ายบอลหลุดเสาออกไป กระนั้นไลน์แมนยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน
��� นาที 24 ทีมเยือนเกือบได้ขึ้นนำอีกหน ฟีร์มีโน่ ก่อนจ่ายต่อให้ ซาลาห์ แทงบอลทะลุช่องถึง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน หลุดเข้าไปซัดบอลด้วยซ้ายผ่านตัว ฟาเบียนสกี้ ไปแล้วแต่บอลน้ำหนักเบา ก่อนที่ อันเจโล่ อ็อกบอนน่า จะมาเคลียร์ออกไป
���
��� นาที 34 ทีมเยือนมาได้ลูกที่จุดโทษ หลัง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เกี่ยวบอลได้ในกรอบแล้วจ่ายมาให้ โอริกี้ หน้าประตูพลิกบอลหลุดเข้าไปจะยิงประตูอยู่แล้ว แต่โดน อิสซ่า ดิย็อป สกัดล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินยืนยัน VAR ให้จุดโทษ ก่อนที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะซัดเลียดไปทางขวามือตัวเองส่งบอลตุงตาข่าย ให้ ลิเวอร์พูล บุกน้ำ เวสต์แฮม 1-0
��� นาที 43 ดิว็อค โอริกี้ เรียกฟรีคิกหน้ากรอบกว่า 30 หลา หลังโดน มาร์ค โนเบิ้ล ทำฟาวล์ และเป็น โม ซาลาห์ ที่วิ่งมาปั่นบอลติดกำแพง แม้จะตามหวดด้วยซ้ายเต็มแรงอีกแต่ยังไปติดบล็อคเจ้าถิ่น
��� จบครึ่งแรก เวสต์แฮม ตามหลัง ลิเวอร์พูล 0-1
��� เริ่มครึ่งหลังมา นาที 49 เจ้าถิ่นเกือบได้ลุ้นตีเสมอก่อนเลย หลัง เดแคน ไรซ์ ครอสบอลมาให้ มานูเอล ลันซินี่ ซัดด้วยขวาแต่บอลยังไม่ผ่านมืออลิสซอน
��� นาทีถัดมา ลิเวอร์พูล เกือบได้ลุ้นเม็ดสองเหมือนกันหลัง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ หวดด้วยซ้ายกลางประตู แต่บอลยังโดน ลูคัส ฟาเบียนสกี้ เซฟออกหลังออกไป
��� แต่แล้ว นาที 52 "เดอะ ค็อป" ได้เฮกันลั่น หลัง ลิเวอร์พูล หนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่แข้งขุนค้อนเคลียร์บอลกันไม่ขาด จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แปบอลหนุนขึ้นหน้าถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พาบอลลุยขึ้นไปแล้วดีดด้วยซ้ายไซด์ก้อยถึง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน หลุดเข้าไปก่อนใช้ไหล่เบียดลันซินี่ล้มลงแล้วยิงด้วยขวาผ่านฟาเบียสกี้เข้าไป
��� นาที 55 มานูเอล ลันซินี่ ฉกความผิดพลาดของแข้งหงส์แดงก่อนหลุดไปหน้าประตูแล้วจ่ายให้ โรเบิร์ต สน็อดกราสส์ ล้มตัวแล้วยิงบอลพุ่งเข้ากรอบแต่ อลิสซอน ยังไวพุ่งปัดออกๆไปอย่างเหลือเชื่อ
��� ยังเป็นลูกทีมของ คล็อปป์ ที่ดาหน้าเปิดเกมรุกเข้าใส่ นาที 67 อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ไหลให้ ดิว็อค โอริกี้ หลุดเข้าไปกดด้วยซ้ายเน้นๆ แต่บอลยังไปติดมือของ ฟาเบียนสกี้ ปัดออกหลังหวุดหวิด และเป็นชอตยิงสุดท้ายของดาวเตะเบลเยียมก่อนจะเปลี่ยนเอา ฟาบินโญ่ ลงมาเล่นแทน
��� นาที 71 ดีแคลน ไรซ์ กดด้วยขวาเน้นๆ หน้ากรอบแต่บอลยังพุ่งไปตรงตัว อลีนสซง ก่อน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนล ที่ตามมาเคลียร์จะสกัดผิดเหลี่ยมไปชนเสาชวดโอกาสได้ตีไข่แตก
��� อีก 7 นาทีถัดมา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย ถัดมา นาที 83 นาบี เกอิต้า ได้โอกาสซัดกลางประตูแต่ยิงช้าไปบอลไม่ผ่านมืออลิสซอน
��� นาที 85 "ขุนค้อน" ได้เสียวอีก หลัง� โรเบิร์ต สน็อดกราสส์ ครอสมาให้ ปาโบล ฟอร์นัลส์ กดด้วยขวาบอลหลุดกรอบออกไป
��� จบการแข่งขัน เวสต์แฮม พ่ายคาบ้านให้ ลิเวอร์พูล 0-2 ส่งผลให้ "หงส์แดง" นำจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกมี 70 แต้มนำ "เรือใบ" อันดับสองถึง 19 คะแนน
��� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
������� เวสต์แฮม (5-3-2) : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - เฌเรมี่ เอ็นกาเกีย, อิสซ่า ดิย็อป, อันเจโล่ อ็อกบอนน่า, อารอน เครสส์เวลล์, อาเธอร์ มาซูอากู - โรเบิร์ต สน็อดกราสส์, เดแคน ไรซ์, มาร์ค โนเบิล - มานูเอล ลันซินี่ (ปาโบล ฟอร์นัลส์ น.69), เซบาสเตียน อาลแลร์
������� ผู้จัดการทีม : เดวิด มอยส์
������� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (นาบี เกอิต้า น.77), โจ โกเมซ, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (เคอร์ติส โจนส์ น.85), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ดิว็อค โอริกี้ (ฟาบินโญ่ 69)
���
������� ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์
������� ผู้ตัดสิน : โจนาธาน มอสส์