���� เอียน รัช อดีตยอดหัวหอกของ ลิเวอร์พูล ระบุ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ "หงส์แดง" คล้ายกับ บ็อบ เพสลี่ย์ ตำนานนายใหญ่ของทีม ในด้านที่ทั้งคู่ต่างก็มีความเป็นผู้นำสูง พร้อมเชื่อว่า คล็อปป์ สามารถกลายเป็นหนึ่งในกุนซือระดับตำนานของทีมได้
��� เอียน รัช ตำนานกองหน้าของ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวยกย่อง เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม "หงส์แดง" ชุดปัจจุบัน ว่าเป็นคนที่มีความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมเหมือนกับ บ็อบ เพสลี่ย์ ตำนานกุนซือของทีม
��� เพสลี่ย์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกุนซือที่เก่งที่สุดตลอดกาลของ ลิเวอร์พูล หลังจากคุมทีมได้สุดยอดจนทำให้ทีมได้แชมป์เป็นกอบเป็นกำ อย่างเช่น การได้แชมป์ลีก 6 สมัย และแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ (ชื่อเดิมของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) 3 ครั้ง เป็นต้น ขณะที่ คล็อปป์ ก็ได้รับคำชมตลอดช่วงที่ผ่านมาว่าปรับปรุง ลิเวอร์พูล ได้ยอดเยี่ยมจนถึงขั้นพาทีมได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลก่อน และตอนนี้ก็กำลังมีลุ้นแชมป์ลีกด้วย
��� รัช ซึ่งเคยร่วมงานกับ เพสลี่ย์ อยู่พักหนึ่ง กล่าวในตอนไปร่วมงานเปิดตัวรูปปั้นตัวใหม่ของ เพสลี่ย์ ว่า "เจอร์เก้น มีทีมที่ยอดเยี่ยมให้ใช้งานก็จริง แต่การที่จะทำผลงานให้ออกมาดีน่ะมันต้องมีความเป็นผู้นำด้วย ในอดีต บ็อบ เพสลี่ย์ คือคนที่มีความเป็นผู้นำชั้นยอด และตอนนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็เป็นผู้นำที่ดีเหมือนกัน เขายังเข้ากับแฟนบอลได้ดีด้วย เวลาที่เขาพูดอะไรก็ตาม แฟนบอลก็จะทำตามความต้องการของเขา บรรดานักเตะเองก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน ซึ่งสาเหตุที่มันเป็นอย่างนั้นได้ก็เพราะ เจอร์เก้น คล็อปป์ ล้วนๆ"
��� อดีตแข้งชาวเวลส์แสดงความเชื่อด้วยว่า คล็อปป์ สามารถกลายเป็นหนึ่งในกุนซือระดับตำนานของ ลิเวอร์พูล ได้ โดยพอโดนถามว่าเขาคิดว่า คล็อปป์ มีโอกาสได้อยู่ในกลุ่มดังกล่าวหรือไม่นั้น รัช ก็ตอบว่า "ทำไมถึงจะไม่ได้กันล่ะ ? การที่จะอยู่ในกลุ่มนั้นได้น่ะ คุณก็ต้องประสบความสำเร็จให้ได้ ซึ่งการประสบความสำเร็จที่ว่าก็ไม่ใช่แค่การได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่เป็นการได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก"
��� "ผู้จัดการทีมทุกคน (ของ ลิเวอร์พูล) พยายามทำอย่างนั้นมาตั้งแต่ปี 1990 และมันก็เป็นของล้ำค่าของทีมชนิดเดียวกับจอกศักดิ์สิทธิ์เลย ถ้าเกิด เจอร์เก้น ทำให้ทีมได้แชมป์ลีกแล้วล่ะก็ เขาก็จะอยู่ในกลุ่มตำนานของทีม และหวังว่าเขาจะอยู่คุมทีมไปอีกหลายปีนะ บ็อบ เพสลี่ย์ มักจะพูดอยู่เสมอว่าสิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุดคือการได้แชมป์ลีก ส่วนสิ่งที่ทำได้ยากที่สุดคือการได้แชมป์ลีกอีกสมัย และนั่นก็เป็นเรื่องจริง ฤดูกาลก่อน ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ก่อนที่จะจบซีซั่นด้วยการไม่ได้แชมป์ลีก แต่ซีซั่นนี้พวกเขาต้องทำให้ดีขึ้น"