������ ลิเวอร์พูล จ่าฝูง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศผลประกอบการของสโมสรในฤดูกาล 2018/19 ว่า มีกำไรก่อนหักภาษีอยู่ที่ 42 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,680 ล้านบาท) แม้ลงทุนซื้อนักเตะมาเสริมทัพไปถึง 223 ล้านปอนด์ (ประมาณ 8,920 ล้านบาท) ก็ตาม
��� อย่างไรก็ตาม กำไรในซีซั่นที่ผ่านมา ยังน้อยกว่าฤดูกาล 2017/18 ที่ได้กำไรก่อนหักภาษีมากถึง 125 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,000 ล้านบาท) ซึ่งเป็นสถิติใหม่ในวงการฟุตบอล หลังจากกลายเป็นทีมที่ทำกำไรได้มากที่สุดในโลกภายในซีซั่นเดียว
��� ในฤดูกาล 2018/19 ลิเวอร์พูล ลงทุนซื้อนักเตะไปหลายรายอาทิ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูทีมชาติบราซิล (65 ล้านปอนด์), นาบี เกอิต้า กองกลางกีนี (52.75 ล้านปอนด์), ฟาบินโญ่ มิดฟิลด์แซมบ้า (43.7 ล้านปอนด์ และ เซอร์ดาน ชากีรี่ ปีกทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ (13 ล้านปอนด์)
��� นอกจากนั้น "หงส์แดง" ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นกับการต่อสัญญาใหม่กับ 11 นักเตะอาทิ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน และ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เป็นต้น โดยทั้งหมดต่างเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ทีมจ่อคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในซีซั่นนี้
��� อย่างไรก็ดี ฤดูกาล 2018/19 ลิเวอร์พูล ยังพอได้เงินคืนมาบ้างจากการขายนักเตะอย่าง แดนนี่ วอร์ด (12.5 ล้านปอนด์), แดนนี่ อิงส์ (20 ล้านปอนด์) และ โดมินิค โซลันกี้ (19 ล้านปอนด์) รวมทั้งมีรายได้จำนวนมากจากการทำผลงานเยี่ยมในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้ยังเหลือกำไร 42 ล้านปอนด์