������ "แตนอาละวาด" งัดฟอร์มสุดยอด เมื่อเป็นทีมแรกที่ยัดเยียดความปราชัยให้ ลิเวอร์พูล หลังเปิดรังไล่ถล่ม 3-0 เกมนี้ อิสไมล่า ซาร์ สุดฮอตเหมาคนเดียวสองประตู พร้อมทั้งหยุดสถิติไร้พ่ายในลีกของ "หงส์แดง" ไว้ที่ 44 นัดติดต่อกัน กระนั้นยังนำเป็นจ่าฝูงโด่งทิ้ง "เรือใบสีฟ้า" 22 แต้มแม้แข้งมากกว่า ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
���� สนาม : วิคาเรจ โร้ด
��� "แตนอาละวาด" ทีมรองบ๊วยของลีก ไม่ชนะมา 6 เกมติดทุกรายการ เกมนี้เปิดรังรับมือ "จ่าฝูง" และว่าที่แชมป์อย่าง ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งทำสถิติชนะในลีกมา 18 นัดติดเท่ากับ "เรือใบสีฟ้า" เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
��� ไนเจล เพียร์สัน ส่ง ทรอย ดีนี่ย์ หน้าเป้าโดยมี อิสไมล่า ซาร์, อับดูลาย ดูกูเร่ และ เคราร์ด เดโลเฟว ปั้นเกมรุกอยู่ข้างหลัง ส่วนทางฝั่ง เจอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนสองตำแหน่งจากเกมที่เฉือน "ขุนค้อน" ส่งเดยัน ลอฟเรนยืนคู่กับ เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ส่วนแดนกลางที่ไร้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ส่ง อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน คุมกลางส่วนสามแดนหน้ายังเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่ และซาดิโอ มาเน่
��� เริ่มเกมมาได้แค่ 4 นาที ทัพ "แตนอาละวาด" ได้เสียวก่อนหลัง เคราร์ด เดโลเฟว ลากตัดเข้ากลางแล้วซัดด้วยขวานอกกรอบบอลหลุดเสาแบบได้ลุ้น
��� นาทีที่ 10 เจ้าบ้านพลาดโอกาสขึ้นนำอีก เดโลเฟว คนเดิมทำป่วนเลี้ยงหลบ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เข้าไปในกรอบก่อนปั่นด้วยขวาไปเสาไกล บอลโค้งไม่พอเฉียดกรอบออกไปนิดเดียว
��� อีก 5 นาทีถัดมา ซาลาห์ คืนหลังสั้นโดนโดนเจ้าถิ่นแย่งบอลก่อน เดโลเฟว จะหลุดถึงเส้นหลังก่อนหักเข้ากลางมาให้ อับดูลาย ดูกูเร่ ยิงจ่อๆกลางประตูแต่บอลไปติดบล็อค เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ออกหลังเป็นเตะมุม
��� โอกาสแรกของ "หงส์แดง" ต้องรอถึงนาทีที่ 20 อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน ยกบอลมาในกรอบทางขวา แต่โมฮาเหม็ด ซาลาห์ตัดสินใจไม่ดีซัดบอลมุมแคบเข้าข้างตาข่าย
��� นาที 34 เกมต้องหยุดชั่วคราวหลัง เคราร์ด เดโลเฟว ปะทะกับ เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค จนลงไปนอนกองกับพื้นก่อนจะมีอาการเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหวทำให้อีก 3 นาทีต่อมา ไนเจล เพียร์สัน ต้องส่ง โรแบร์โต้ เปเรยร่า ลงมาเล่นแทน
��� ท้ายเกม นาที 43 เจ้าถิ่นยังได้ลุ้นอีกจากจังหวะที่ อิสไมล่า ซาร์ พลิกบอลกระชากเข้าไปซัดด้วยขวาในกรอบเขตโทษ แต่บอลเหินคานออกหลังไปไกล
��� ช่วงทดเจ็บ นาที 45+6 อลิสซอน ทำหวาดเสียวหลังรับบอลไม่อยู่โดน ทรอย ดีนี่ย์ แย่งไปก่อนพยายามชิพข้ามตัวนายด่านหงส์แดง แม้จะโดนเซฟได้บอลมาเข้าเท้า ดีนี่ย์ อีกหนแต่คราวนี้พยายามปั่นไปเสาไกลแต่บอลก็หลุดกรอบออกไปอีก
��� จบครึ่งแรก ยังทำอะไรกันไม่ได้ วัตฟอร์ด ยังเสมอกับ ลิเวอร์พูล 0-0
��� ครึ่งหลัง เริ่มมาได้แค่นาที 46 วัตฟอร์ดเกือบชิงขึ้นนำหลัง โรแบร์โต้ เปเรยร่า จ่ายทะลุช่องให้ อิสไมล่า ซาร์ หลุดเข้าไปอัดด้วยขวาบอลพุ่งจน อลิสซอน ต้องปัดข้ามคานออกไป
��� นาที 52 โอกาส่องเข้ากรอบหนแรกของ "หงส์แดง" บอลจาก เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ไหลทะลุให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ซัดด้วยซ้ายไปติดเซฟ เบน เฟอสเตอร์
��� แต่แล้ว นาที 54 แฟนบอลเจ้าถิ่นได้เฮกันลั่นสนาม เมื่อ วัตฟอร์ด มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากบอลทุ่มเข้ามาให้ อับดูลาย ดูกูเร่ หลุดไปถึงเส้นหลังก่อนจะหักมาเสาแรกให้ อิสไมล่า ซาร์ วิ่งมาจิ้มบอลก่อน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ผ่านตัว อลิสซอน เข้าไป
���� เท่านั้นไม่พอ นาทีที่ 60 วัตฟอร์ด มาได้ประตูนำห่าง 2-0 บอลจาก ทรอย ดีนี่ย์ ตวัดบอลเร็วจ่ายเลียดขึ้นหน้าให้ อิสไมล่า ซาร์ สปีดหนี ฟาน ไดค์ ก่อนชิพบอลข้ามตัว อลิสซอน อย่างเหนือชั้นเข้าไปอย่างสวยงาม เป็นประตูที่สองของหัวหอกชาวเซเนกัล
��� ลูกทีมของ คล็อปป์ ยิ่งเล่นยิ่งแย่ โอกาสเจาะและเข้าทำแทบไม่มี และนาที 72 "แตนอาละวาด" มาได้ประตูที่สามจากความผิดพลาดของแนวรับหงส์แดง หลัง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จ่ายคืนหลังไม่ดีโดน ซาร์ ฉกบอลได้แล้วจ่ายคืนให้ ทรอย ดีนี่ย์ แปสวนเข้าไป ส่งให้ วัตฟอร์ด นำโด่ง 3-0
��� นาที 81 อิสไมล่า ซาร์ พลาดโอกาสทำแฮตทริกหลังหลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ อลิสซอน แต่เจ้าตัวดันยิงหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
��� จบเกม วัตฟอร์ด ไล่ถล่มลิเวอร์พูล ยับเยิน 3-0 ยัดเยียดความพ่ายแพ้เกมแรกให้ หงส์แดง ในซีซั่นนี้พร้อมหยุดสถิติไร้พ่ายติดต่อกันไว้ที่ 44 นัด เท่านั้น กระนั้นทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังนำเป็นจ่าฝูงหนีอันดับสองอย่าง "เรือใบสีฟ้า" ถึง 22 คะแนนแม้แข่งมากกว่า 1 เกม ส่วน "แตนอาละวาด" สามแต้มเกมนี้ช่วยให้มีความหวังหนีตกชั้นหลังหนีจากรองบ๊วยขึ้นมารั้งอันดับ 17 มีแต้มเท่ากับบอร์นมัธทีมอันดับ 18 แต่ลูกได้เสียนั้นดีกว่า
������� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
������� วัตฟอร์ด (4-2-3-1) : เบน ฟอสเตอร์ - กีโก้ เฟเมเนีย, คริสติย็อง กาบาเซเล่, เคร็ก แคธคาร์ต, อดัม มาซิน่า - วิลล์
ฮิวจ์ส, เอเตียน กาปู - อิสไมล่า ซาร์ (อิ๊กนาซิโอ ปุสเซ็ตโต้ น.82), อับดูลาย ดูกูเร่ (นาธาเนี่ยล ชาโลบาห์ น.89), เคราร์ด เดโลเฟว (โรแบร์โต้ เปเรยร่า น.36) - ทรอย ดีนี่ย์
������� ผู้จัดการทีม : ไนเจล เพียร์สัน
������� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอ
นดรูว์ โรเบิร์ตสัน - อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน (ดิว็อก โอริกี้ น.65), ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม (อดัม ลัลลาน่า น.61) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่ (ทาคูมิ มินามิโนะ น.79), ซาดิโอ มาเน่
������� ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์
������� ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์