������ แดนนี่ เมอร์ฟี่ อดีตยอดมิดฟิลด์ของ ลิเวอร์พูล ระบุ แม้ว่า "หงส์แดง" จะเพิ่งอดเป็นแชมป์ลีกแบบไร้พ่าย แต่มันก็ยังมีเรื่องที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นเยอะ นั่นคือการได้แชมป์ลีกมาครอง และการโกยแต้มให้ได้มากกว่า แมนฯ ซิตี้ ชุดซีซั่น 2017-18 ชี้ การเก็บแต้มโดยรวมให้ได้สูงกว่า "เรือใบสีฟ้า" ชุดนั้นมันหมายความว่าคุณต้องชนะถึงหลายนัด ต่างกับการลุ้นเป็นแชมป์แบบไร้พ่ายที่แค่เล่นแบบเอาเฉพาะผลเสมอก็พอแล้ว
��� แดนนี่ เมอร์ฟี่ ตำนานกองกลางของ ลิเวอร์พูล กล่าวว่าการที่จะได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี และการเก็บแต้มโดยรวมให้ได้มากกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชุดฤดูกาล 2017-18 มันเป็นเรื่องที่ดีกว่าการเป็นแชมป์แบบไร้พ่าย หลังจากที่ล่าสุด "หงส์แดง" เพิ่งแพ้เป็นนัดแรกในลีกประจำซีซั่นนี้ จากการออกไปแพ้ วัตฟอร์ด 0-3 ที่สนาม วิคาเรจ โร้ด เมื่อวันเสาร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
��� ฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจนทำให้ 27 เกมก่อนหน้านี้พวกเขาชนะถึง 26 นัด และเสมอ 1 หน แถมถ้านับรวมจากเมื่อซีซั่นก่อนมันก็ทำให้พวกเขาไม่แพ้ใครมา 44 นัดติดต่อกัน ซึ่งตอนแรกก็ไม่มีใครคิดว่า วัตฟอร์ด จะเป็นคนหยุดสถิตินั้นได้ หลังจากทัพ "แตนอาละวาด" เป็นทีมในกลุ่มลุ้นหนีตกชั้น ต่างจาก ลิเวอร์พูล ที่เป็นจ่าฝูงและกำลังจะได้แชมป์ไปครอง
��� เมอร์ฟี่ กล่าวผ่านคอลัมน์ของตัวเองใน เดลี่ เมล สื่อชื่อดังของประเทศอังกฤษว่า "คนในห้องแต่งตัวของ ลิเวอร์พูล คงไม่มานั่งร้องห่มร้องไห้เกี่ยวกับการอดเป็นทีมไร้พ่ายหรอก การเป็นส่วนหนึ่งของ ลิเวอร์พูล ชุดที่เป็นแชมป์ของประเทศอังกฤษหนแรกในรอบ 30 ปีมันเหนือกว่าเรื่องนั้นเยอะ แถมพวกเขายังมีอีกหลายสถิติให้ทำ โดยเฉพาะการเก็บแต้มให้มากกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เคยทำได้ 100 คะแนน นั่นเป็นความสำเร็จที่เหนือกว่าการไร้พ่ายซธอีก เพราะการจะทำอย่างนั้นได้มันหมายความว่าคุณต้องชนะ ไม่ใช่แค่ประคองตัวให้ไม่แพ้ (หมายถึงการเสมอ)"
��� สำหรับ 100 คะแนนที่ แมนฯ ซิตี้ ชุดซีซั่น 2017-18 ทำได้นั้น ส่งผลให้พวกเขาเป็นทีมที่เก็บแต้มภายในฤดูกาลเดียวได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก ขณะที่ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ทำไปแล้ว 79 คะแนน จากการลงเล่น 28 นัด