����������� มิเชล ดี'ฮูก ประธานคณะกรรมการการแพทย์ของฟีฟ่า เตือนฟุตบอลลีกยุโรปที่ตั้งเป้ากลับมาเริ่มแข่งกันต่อในช่วงเดือนพฤษภาคม ว่าช่วงเวลาดังกล่าวยังมีความเสี่ยงต่อโควิด-19
����������� พรีเมียร์ลีกระงับแข่งถึงสิ้นเดือนเมษายน ซึ่งแผนการในตอนนี้คือยังต้องการแข่งฤดูกาลนี้ในจบตามโปรแกรม ตามรายงานหากยกเลิกหรือโมฆะพวกเขาต้องจ่ายค่าปรับราว 762 ล้านยูโร ให้กับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด
����������� ขณะที่สัปดาห์ที่แล้วประธานลาลีก้าอย่าง ฆาเบียร์ เตบาส เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่กลางถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมนั้นจะสามารถกลับมาเล่นต่อได้
����������� อย่างไรก็ตาม ดี'ฮูก พูดถึงเรื่องนี้ผ่าน เดลีเมล ว่า "นั่นมันยังเร็วเกินไปแน่ๆ ถ้าเริ่มแข่งกลางเดือนพฤษภาคม คุณก็ต้องเริ่มซ้อมก่อน 2-3 สัปดาห์"
����������� "ผมไม่รู้อนาคตแต่ในความเห็นคือมันไม่ใช่ความคิดที่ดี จากข้อมูลที่เรามีในตอนนี้มันเป็นการเอาชีวิตไปเสี่ยง"
����������� ก่อนหน้านี้ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ โดนเสียงวิจารณ์อย่างหนักในการออกมาตรการรับมือวิกฤติช้าเกินไป
����������� "ผมไม่สามารถตัดสินการกระทำของประเทศอื่นได้" ดี'ฮูก ที่เป็นชาวเบลเยี่ยมว่าต่อ
����������� "สิ่งที่ผมพูดได้คือโคโรน่ามันจะไม่หานไปในเดือนพฤษภาคม ถึงแม้มันอาจจะเบาบางลงไปในบางประเทศมากกว่าที่อื่น ผมไม่สามารถบอกได้ว่าฟุตบอลจะกลับมาเตะกันได้อีกจริงๆเมื่อไหร่ มันเป็นคำถามที่ยากมากเพราะไม่มีใครรู้ว่าไวรัสโคโรน่ามันจะพีคตอนไหน"
����������� "ถึงแม้ว่าสโมสรจะเล่นแบบปิดสนาม พวกเขาก็ต้องซ้อมอย่างน้อยสองสัปดาห์ นั่นหมายความว่าคนก็ต้องมาอยู่ร่วมกันในห้องแต่งตัวและห้องอาบน้ำ และอื่นๆ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เราต้องเลี่ยงเลี่ยงในตอนนี้ แล้วมันจะอันตรายถึงชีวิตไหม? ที่ผมรู้ในวันนี้คือแน่นอนมันเสี่ยง ใช่"
����������� "คูณต้องพิจารณาความเหมาะสมระหว่างเรื่องทางการแพทย์และเรื่องเศรษฐกิจ คุณมีตัวเลือก คุณจะเลือกอะไร สุขภาพหรือเงิน? นี่เป็นคำถามที่สำคัญมากในตอนนี้"
����������� "ถ้าคุณเริ่มกลับมาเตะก่อนที่จะได้ไฟเขียวจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ นั่นมหายถึงการเอาเรื่องการเงินมาก่อนสุขภาพ และนั่นคือสิ่งที่พวกเขาไม่ควรทำ ไม่อย่างนั้นเราจะโดนเล่นงานกันหมด"