�������� โจเอล มาติป ปราการหลังก้านยาวของลิเวอร์พูลพูดถึงค่ำคืนที่ "หงส์แดง" พลิกสถานการณ์กลับมาชนะบาร์เซโลน่าในรอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ที่แอนฟิลด์ฤดูกาลก่อน พร้อมกับเผยสิ่งที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ พูดกับลูกทีมก่อนลงสนาม
�������� ลิเวอร์พูลตามหลังอยู่ 0-3 จากเกมนัดแรกที่สเปน แต่พวกเขาพลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะทีมแกร่งอย่างบาร์เซโลน่าได้ 4-0 ที่แอนฟิลด์ ผ่านเข้าสู่รอบชิงก่อนจะเอาชนะสเปอร์สในนัดชิงและคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 6 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่
�������� "เขาบอกกับพวกเราว่าเรายังมีโอกาส เราสามารถสร้างบางสิ่งที่เราบอกเล่าให้เด็กๆ ของเราฟังในอนาคตได้" มาติปเผยคำพูดนายใหญ่ชาวเยอรมัน
�������� "พวกเราเชื่อ บรรยากาศมันบ้าคลั่งมากตอนที่เรามาถึงสนาม ทั้งที่ทุกคนรู้ผลการแข่งขันในนัดแรกมาแล้ว และรู้ว่าพวกเรากำลังเจอกับทีมอะไร"
�������� "บรรยากาศมันดี และมันก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ มันบ้าทีเดียว มันเหมือนเครื่องจักรทั้งหมดกำลังทำงานพร้อมกัน ทุกคน, นักเตะ, แฟน"
�������� "พวกเราลงสนามโดยค่อยๆ เพิ่มความเร็วในเกมไป กับทุกประตู ทุกคนเริ่มอยากได้ประตูต่อไปมากขึ้น ทั้งอัฒจันทร์, นักเตะในม้านั่งสำรอง, นักเตะในสนาม มันบ้ามาก ทุกคนเริ่มเร็วขึ้น ทำทุกสิ่งได้ดีขึ้น"
�������� "ในสนาม เสียงดังมากจริงๆ คุณได้ยินเสียงที่ดังกว่าเมื่ออยู่ในสนาม แต่ในเวลาแบบนั้น มันไม่ใช่ปัญหาที่แย่ในการพยายามให้จบรู้แล้วรู้รอดเลย"
�������� "ทุกประตูสำคัญมาก แต่ประตูที่เราได้มาเร็วมากทำให้เรามีความหวังมากขึ้น (ดิว็อก โอริกี้ยิงได้) ถ้าพวกเขารักษาคลีนชีตได้ มันคงทำให้เรารู้สึกอีกแบบ แต่ประตูนี้มันทำให้พวกเราเพิ่มความมั่นใจในตัวเองและเริ่มคิดว่าพวกเราสามารถทำบางสิ่งได้ (อย่างที่คล็อปป์บอก)"
�������� "ตอนที่ดิว็อก โอริกี้ ทำประตู (ที่ 4-0) ได้นะเหรอ? โอ้ มันบ้าคลั่งเลย ผมไม่อยากเชื่อเลยว่ามันเกิดขึ้นนะ ผมไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นบ้างในตอนนั้น เพราะ เขา (เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์) ไปที่บอลและทำท่าเตะออกมา ผมคิดในใจว่า 'ทำอะไรนี่?' จากนั้นผมเห็น ดิว็อก โอริกี้ อยู่ตรงนั้นและส่งบอลไปสู่ก้นตาข่ายหลังจากนั้น..."
�������� "ผมสับสนเล็กน้อยนะเอาจริงๆ แต่หลังจากไม่กี่วินาทีผ่าน ทุกคนก็ฉลองกับการได้ประตู และผมก็ไปร่วมด้วย"
�������� ."คุณต้องไม่อยากเชื่อ บางทีผมบอกได้ว่านั่นคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของผมในฐานะนักฟุตบอลอาชีพเลยเพราะมันพิเศษจริงๆ"