��� จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เป็นเด็กปั้นของ ซันเดอร์แลนด์ ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 760 ล้านบาทเมื่อปี 2011 ก่อนใช้เวลาไม่นานก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีม'หงส์แดง' และประสบความสำเร็จอย่างยิ่งกับทีมในปัจจุบัน
��� จุดเริ่มต้นการลงนามบนเส้นทางอาชีพลูกหนัง เฮนเดอร์สัน ได้รับโอกาสจาก รอย คีน อดีตยอดกัปตันทีมแมนฯยูไนเต็ด ที่ตอนนั้นเป็นกุนซือของทัพแมวดำ ซึ่งทาง เฮนโด้ ได้รำลึกความหลังถึงนายเก่าเชิงยกย่องและกล่าวว่า คีน คือผู้ให้โอกาสตนจนเติบใหญ่จนถึงทุกวันนี้
��� "ตอนนั้นผมเล่นกับทีมสำรองชุดที่ออกไปเยือน เกตส์เฮด(ทีมนอกลีก) เรามีทีมที่ดีเลยนะ แต่ดันจบลงด้วยความพ่ายแพ้ 0-2" เฮนเดอร์สัน กล่าวในรายการ เดอะ ล็อคเกอร์ รูม ของ ริโอ เฟอร์ดินานด์
��� "ผมไม่คิดว่าวันนั้น รอย คีน จะไปดูเกมด้วย แต่สตาฟฟ์โค้ชของเขาน่ะไปอยู่ที่สนาม แล้วพวกเขาก็โทรไปหาเขาเพื่อบอกว่ามันเกิดอะไรขึ้น พอพวกเราขึ้นรถโค้ชก็มีคนมาแจ้งว่าเราต้องกลับไปที่อะคาเดมี่ เพราะเจ้านายมีอะไรอยากคุยกับเรา"
��� "คุณคงพอจะนึกภาพออกแหละนะว่าเป็นยังไงต่อ วันนั้นเราแพ้ 0-2 และ รอย คีน ก็รอเราอยู่ที่นั่น"
��� มิดฟิลด์วัย 29 ปียอมรับว่าเหตุการณ์ในวันนั้นฝังลึกอยู่ในความทรงจำของตัวเองจนทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด แต่ในขณะเดียวกันเขาก็เชื่อว่าเขาทำให้ รอย คีน รู้สึกประทับใจได้เช่นกัน จากการที่แสดงให้เห็นว่าเขาเหมาะกับการเล่นให้ทีมชุดใหญ่
��� ในเวลาต่อมา คีน ให้โอกาส เฮนเดอร์สัน ได้ประเดิมสนามในเกมระดับทีมชุดใหญ่ หลังจากที่เขาทำผลงานได้โดดเด่นอย่างต่อเนื่องในเกมระดับทีมาสำรอง
��� "ผมจำเหตุการณ์ได้ดีราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ผมอยู่ในห้องที่เป็นรูปทรงเหมือนครึ่งวงกลม และเขา(คีน) ก็พูดเรื่องต่าง ๆ กับผู้เล่นทุกคนแบบละเอียดยิบ"
��� "ผมคิดว่าเขาคงได้ดูเกมบางนัดผ่านทางคลิปวีดิโอมาบ้างแล้วแหละ และเขาก็พูดกับนักเตะทุกคน ผมกลัวจนเหงื่อออก ตอนนั้นผมเป็นแค่เด็กหนุ่มคนหนึ่ง ผมแทบจะเหงื่อแตกท่วมตัวในสภาพที่คิดว่า -ได้โปรดอย่ามาพูดกับฉันเลย-"
��� "แต่ก็นะ ผมยังจำได้ดี เขาเข้ามาหาผมแล้วแค่ถามว่าผมดีพอที่จะเล่นให้ทีมชุดใหญ่รึเปล่า"
��� "ผมตอบไปตามสัญชาตญาณเลยว่า -พร้อมครับ- แม้ว่าที่จริงแล้วตอนนั้นผมกลัวและก็ประหม่าอยู่ก็ตาม"
��� "ผมคิดว่าเขาค่อนข้างชอบคำตอบที่ผมบอกไป ที่จริงผมเล่นได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่หากมองถึงปฏิกิริยาของผมแล้ว คุณก็คงจะบอกได้เลยว่าผมพยายามที่จะวิ่งอย่างเต็มที่ และพยายามที่จะพาทีมกลับมาสู่เกมให้ได้"
��� "ไม่กี่วันหลังจากนั้นเขาก็เรียกเราไปติดชุดใหญ่ และผมก็ได้ประเดิมสนามในเกมกับ อาแจ็กซ์ แน่นอนเลยว่า เขาเป็นผู้มีพระคุณที่ให้โอกาสผม และผมก็อาจจะมาไม่ถึงจุดนี้เลยก็ได้ถ้าไม่ได้รับโอกาสนั้น"