��������� "หงส์แดง" ไม่พลาดสามแต้มในบ้านหลังไล่ต้อนเอาชนะ คริสตัล พาเลซ อย่างไม่ยากเย็น 4-0 ส่งผลให้นำจ่าฝูงหนี "เรือใบ" 23 คะแนน ซึ่งหาก แมนฯซิตี้ ไม่ชนะเชลซีในวันพฤหัสฯนี้จะส่งให้ ลิเวอร์พูล การันตีแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรกทันที แม้จะเหลือโปรแกรมอีก 7 นัดก็ตาม ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
���� สนาม : แอนฟิลด์
��� "จ่าฝูง" ลิเวอร์พูล ลงเล่นเกมที่ 31 รับการมาเยือนของ คริสตัล พาเลซ ทีมอันดับ 9 โดยหากเกมนี้ "หงส์แดง" คว้าชัยได้ และวันพฤหัสฯนี้ แมนฯซิตี้ บุกไปพ่าย เชลซี จะส่งให้ ลิเวอร์พูล การันตีแชมป์พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ทันที
���
��� เกมเริ่มมาได้แค่ 7 นาทีแรก "หงส์แดง" ได้ทักทายก่อนเลย หลัง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ครอสบอลไปเสาไกล แอนดรอส ทาวน์เซ่น สกัดบอลผิดเหลี่ยมเข้ากลางประตูก่อนจะกระดอนมาเข้าทาง จอร์จินโย่ ไวนัลดุม วิ่งมาซัดด้วยขวาหลุดกรอบไป
��� อีก 3 นาทีต่อมา เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกจากจังหวะที่ ซาดิโอ มาเน่ พลิกบอลถึงเส้นหลังก่อนโยนยาวมาเสาสองให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วอลเลย์แบบไม่จับหลุดกรอบออกไปไกล
��� เกมเข้าสู่นาที 15 "ดิ อีเกิ้ลส์" ต้องเปลี่ยนตัวคนแรกอย่างรวดเร็วหลัง วิลฟรีด ซาฮา มีอาการเจ็บเล่นต่อไม่ไหวต้องส่ง มักซ์ เมเยอร์ ลงมาเล่นแทน
��� นาที 16 ทีมเยือนได้โอกาสส่องหนแรกจาก เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ แต่บอลก็สูงเลยคานไปไกล ถัดมานาทีเดียวกัน "หงส์แดง" โต้กลับขึ้นมา ซาดิโอ มาเน่ จ่ายบอลมาให้� โรแเบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่ยืนโล่งๆกดด้วยขวาเน้นๆแต่บอลยังไม่ผ่านมือของ เวย์น เฮนเนสซี่ย์
��� นาที 23 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูที่รอคอยชิงขึ้นนำไปก่อน 1-0 สำเร็จ จากจังหวะที่ได้ฟรีคิกหน้ากรอบกว่า 23 หลา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ รับหน้าที่ปั่นข้ามกำแพงเบียดเสาแรกเข้าไปอย่างงดงาม
��� นาที 28 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดฟรีคิกเข้าไปโดนแนวรับพาเลซสกัดมาเข้าทาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วอลเลย์ด้วยขวาเต็มแรง บอลพุ่งไปชนเสา ก่อนจะมาเข้าหัว เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ โขกหลุดกรอบออกไป
��� เกมรุกเจ้าถิ่นกระหน่ำใส่มาเป็นชุดๆ นาที 36 ซาดิโอ มาเน่ ได้บอลในกรอบก่อนจะไหลออกซ้ายให้ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม วิ่งมาแปบอลถากเสาออกไป
��� นาที 44 "หงส์แดง" มาได้ประตูที่สองนำห่าง 2-0 จนได้ จากจังหวะอันยอดเยี่ยมของ ฟาบินโญ่ พาบอลขึ้นมาก่อนจะตักบอลข้ามหัวแนวรับพาเลซให้� โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเข้าไปยิงด้วยซ้ายผ่านมือ เวย์น เฮนเนสซี่ย์ เข้าไป
��� จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำห่าง คริสตัล พาเลซ 2-0
��� กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง นาที 55 "หงส์แดง" ทะยานนำโด่ง 3-0 ทันที แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน หักเข้ากลางให้ ฟาบินโญ่ ตั้งป้อมซัดไกลด้วยขวา บอลพุ่งเป็นจรวดเบียดเสาเข้าไปอย่างงดงาม
��� อีก 2 นาทีต่อมา หงส์พลาดเม็ดที่สี่อย่างน่าเสียดายหลัง ซาดิโอ มาเน่ จ่ายไปหน้าประตูให้ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ยิงโล่งๆแต่ห้องเครื่องชาวดัตช์ยิงไม่ดีไปตรงตัว เวย์น เฮนเนสซี่ย์
��� นาที 64 เจอร์เก้น คล็อปป์ ส่ง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ลงมาเล่นแทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จากนั้นอีก 2 นาทีถัดมา แชมเบอร์เลน มีโอกาสส่องทันทีหลังรับบอลจาก ไวนัลดุม ก่อนกดด้วยซ้ายเหินคานไปไกล
��� กระนั้น นาที 69 ลิเวอร์พูล ทะยานนำโด่ง 4-0 จากจังหวะสวนกลับเร็วของ 3 ประสานแนวรุก มาเน่ จ่ายเข้ากลางให้ ฟีร์มีโน่ ก่อนไหลต่อให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จ่ายทะลุตัดแนวรับทีมเยือนให้ ซาดิโอ มาเน่ หลุดเข้าไปยิงผ่านมือ เวย์น เฮนเนสซี่ย์ เข้าไปเป็นประตูที่ 15 ของดาวยิงชาวเซเนกัลในซีซั่นนี้
��� นาทีที่ 90 เจ้าถิ่นชวดได้ประตูที่ห้าอย่างน่าเสียดายหลัง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเข้าไปยิงมุมแคบแต่ยังไม่ผ่านมือ เวย์น เฮนเนสซี่ย์
��� จบเกม ลิเวอร์พูล ไล่ถล่มคว้าชัยเหนือ คริสตัล พาเลซ 4-0 คว้าสามแต้มสำคัญ นำจ่าฝูงทิ้ง "เรือใบสีฟ้า" 23 คะแนน คืนพฤหัสฯนี้หาก แมนฯซิตี้ ไม่ชนะ เชลซี จะส่งให้ ลิเวอร์พูล การันตีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกทันที
�������� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
������� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (เนโก วิลเลี่ยมส์ น.74), โจ โกเมซ, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต น.84) - ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน น.64), จอร์จินโย่ ไวนัลดุม - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแเบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (ทาคูมิ มินามิโนะ น.74), ซาดิโอ มาเน่ (นาบี เกอิต้า น.84)
������� ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์
������� คริสตัล พาเลซ (4-3-3) : เวย์น เฮนเนสซี่ย์ - โจเอล วอร์ด, มามาดู ซาโก้, แกรี่ เคฮิลล์, พาทริก ฟานอานโฮลท์ - ชีกู กูยาเต้ (ลูก้า มิลิโวเยวิช น.66), เจมส์ แม็คคาร์ธี่ย์, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ (ไจโร รีเดวัลด์ น.66) - แอนดรอส ทาวน์เซ่น, จอร์แดน อายิว (แบรนดอน ปิแอร์ริค น.84) , วิลฟรีด ซาฮา (มักซ์ เมเยอร์ น.15)
������� ผู้จัดการทีม : รอย ฮ็อดจ์สัน
������� ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอตกินสัน