��������� ควันหลงฟุตบอลคาราบาวคัพ หรือลีกคัพ อังกฤษ รอบ 3 ซึ่ง ลิเวอร์พูล ที่จัดผู้เล่นชุดสองบุกไปถล่ม ลินคอล์น ทีมจากลีกวันแบบท่วมท้น 7-2 ได้ประตูจาก เซอร์ดาน ชากิรี นาทีที่ 9, ทาคุมิ มินามิโนะ เหมา 2 ลูก นาทีที่ 18 และ 46, เคอร์ติส โจนส์ ยิง 2 ประตูเช่นกัน นาทีที่ 32 และ 36, มาร์โก กรูยิช นาทีที่ 65 ปิดท้ายด้วย ดิว็อค โอริกี นาทีที่ 89 ส่วน ลินคอล์น ทวงคืนได้จาก ทาโย เอดุน นาทีที่ 60 และ ลูอิส มอนต์สมา นาทีที่ 66
��������� หลังจบเกม เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ "หงส์แดง" กล่าวชื่นชม เคอร์ติส โจนส์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 19 ปี ที่ถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ในซีซั่นนี้แบบเต็มตัวว่า "เขามีคุณภาพและทักษะที่ดี ซึ่งสิ่งที่เขาแสดงออกในครึ่งแรกและครึ่งหลังถือว่ายอดเยี่ยมมาก เขามีพรสวรรค์ที่ไม่เหมือนใครและยังพัฒนาต่อไปได้ ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเขาจะมีอะไรดีๆ ให้เราเห็นอีกในอนาคต ซึ่งทั้ง 2 ประตูที่เขาทำได้ถือว่ายากพอสมควร โดยเฉพาะลูกที่ 2 ซึ่งจังหวะจับบอลแรกเขาพลิกหนีคู่แข่งทันทีแล้วแต่งหาช่องยิง แม้บอลจะแฉลบเปลี่ยนทางเล็กน้อย แต่ก็เป็นประตูที่สวยงาม และเขายังเล่นด้วยความขยันอีกด้วย"
��������� ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ยังพูดถึง ทาคุมิ มินามิโนะ ตัวรุกทีมชาติญี่ปุ่นอีกด้วยว่า "ผมชอบการมีส่วนร่วมกับเกมของ ทาคิ (มินามิโนะ) ซึ่งทำได้อย่างโดดเด่นในหลายๆ จังหวะ และแสดงให้เราเห็นถึงคุณภาพที่เขามี ไม่ว่าเขาจะฉีกตัวเองไปยืนทางซ้ายหรือขวา เขาก็จะหาจังหวะแทรกตัวเข้ามาเล่นในครึ่งแดนบนหรือตรงกลางจนได้ และตลอด 7 ครั้งที่คู่แข่งเอาบอลมาเขี่ยเพื่อเริ่มเล่นใหม่หลังจากเราได้ประตู คนแรกที่เข้าไปไล่เพื่อแย่งบอลคืนกลับมาก็คือ ทาคิ เขาเป็นคนที่กำหนดจังหวะในการบีบแย่งบอล และเพรสซิงคู่แข่งคืนแทบทุกครั้ง"
��������� นายใหญ่ลิเวอร์พูล ทิ้งท้ายด้วยการกล่าวถึง เซอร์ดาน ชากิรี ดาวเตะสวิตเซอร์แลนด์ที่ระเบิดฟอร์มในเกมนี้ หลังตกเป็นตัวสำรองมาตลอดว่า "นี่เป็นเกมที่น่าพอใจสำหรับ แชค (ชากิรี) แม้เขาจะได้เล่นในตำแหน่งที่ไม่คุ้นเคยด้วยการถอยลงมาต่ำเล็กน้อยในแผงมิดฟิลด์ แต่ก็ทำหน้าที่ได้ดี ส่วนการถอดเขาออก (ส่ง นาบี เกอิตา ลงไปแทนในนาทีที่ 75) เป็นความผิดของผมเองที่รีบเปลี่ยนตัวในขณะที่กำลังเล่นดี ทั้งที่เขาแค่ข้อเท้าพลิกเล็กน้อย แต่ผมกลับคิดว่าเขาเจ็บกล้ามเนื้อน่อง อย่างไรก็ตาม เกมนี้เขาทำได้อย่างโดดเด่นโดยเฉพาะลูกเซตพีซ ซึ่งเขาก็ยิงฟรีคิกสุดสวยไป 1 ลูก ด้วยคุณภาพที่เขามีจึงน่าติดตามว่าเราจะได้เห็นอะไรดีๆ แบบนี้อีก"
��������� สำหรับรอบ 4 ในสัปดาห์หน้า ลิเวอร์พูล จะต้องดวลบิ๊กแมตช์กับ อาร์เซนอล ที่กำลังฟอร์มร้อนแรงในลีก โดยทั้งคู่จะได้ชิมลางก่อนด้วยการปะทะกันในคู่เอกของพรีเมียร์ลีก สัปดาห์นี้ คืนวันจันทร์ที่ 28 กันยายน