�������� "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ต้องน้ำตาตกในเมื่อพ่ายดวลจุดโทษให้กับ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ผู้มาเยือนไป 4-5 หลังทั้งคู่เจาะกันไม่เข้าเสมอในเวลาปรกติ 0-0 ส่งผลให้ อาร์เซน่อลผ่านเข้ารอบต่อไป และเป็นทัพหงส์แดงที่ปีกหักกางบินต่อไม่ไหวร่วงตกรอบ ในศึกฟุตบอล คาราบาว คัพ รอบ 4 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา
�������� ฟุตบอล คาราบาว คัพ รอบ 4
�������� วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม 2563
�������� ลิเวอร์พูล 0 - 0 อาร์เซน่อล (อาร์เซน่อล ชนะจุดโทษด้วยผลสกอร์ 5-4 )
�������� สนาม : แอนฟิลด์
��� เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรกมาถึงนาทีที่ 8 อาร์เซน่อล สร้างโอกาสได้ก่อนจากจังหวะสวนกลับไว โจ วิลล็อค ส่งบอลจากบริเวณกลางกรอบเขตโทษลิเวอร์พูลไปทางขวาให้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ หลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ อาเดรียน นายด่านเจ้าถิ่น เอ็นเคเทียห์ พยายามแตะบอลหลอกยิงแต่ถูก อาเดรียน อ่านเกมขาดล้มตัวใช้มือตะปบบอลเอาไว้ได้
��� นาทีที่ 12 เป็นฝั่งลิเวอร์พูลที่เกือบได้จบสกอร์บ้างจากจังหวะจ่ายบอลสุดสวยของ เคอร์ติส โจนส์ ทะลุช่องไปให้ ดีโอโก้ โชต้า หลุดขึ้นไปเปิดบอลทางฝั่งขวาย้อนกลับมาให้ มาร์โก กรูยิช วิ่งเข้ามาแปเน้นๆ แต่ทิศทางไม่ดีบอลเหินออกข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
��� ใบเหลืองของเกมเกิดขึ้นนาทีที่ 15 เป็นของ ทาคูมิ มินามิโนะ ศูนย์หน้าหงส์แดงที่เข้าไปตัดฟาวน์หนักด้านหลังใส่ บูคาโย่ ซาก้า ทำให เควิน เฟรนด์ ผู้ตัดสินเกมนี้ไม่มีทางเลือกคาดโทษดาวยิงจากญี่ปุ่นทันที
��� ผ่านมาถึงนาทีที่ 26 บูคาโย่ ซาก้า แข้งความเร็วสูงของปืนใหญ่กระดกบอลหลอก เนโก้ วิลเลี่ยมส์ ในจังหวะแรกทางริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนที่เจ้าตัวจะพยายามพลิกตัวแล้วไปเล่นต่อแต่ก็ต้องหยุดชะงักลงเพราะดูเหมือนจะถูก วิลเลี่ยมส์ ดึงแขนเอาไว้แต่ผู้ตัดสินก็ไม่ได้ว่าอะไรทำให้ ซาก้า เสียการครองบอล
��� นาทีที่ 35 เคอร์ติส โจนส์ มิดฟิลด์เจ้าถิ่นได้โอกาสตั้งป้อมตะบันไกลตรงริมเส้นฝั่งขวาระยะเกือบ 25 หลาบอลพุ่งตกลงพื้นเข้ากรอบประตูแต่ไปตรงตัว แบร์นด์ เลโน่ รับเข้าซองไว้ไม่พลาด
��� นาทีที่ 38 ลิเวอร์พูล ทำเเกมบุกขึ้นมาอีกครั้งบอลมาอยู่ที่ เคอร์ติส โจนส์ ตรงริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายเจ้าตัวกระชากหลอกก่อนที่จะตัดสินใจไขว้เปิดบอลแต่ไม่ผ่าน เซดริก โซอาเรส ที่ยืนดักทางและโหม่งเคลียร์ออกไปได้
��� นาทีที่ 42 ทัพปืนใหญ่ได้ลุ้นเมื่อ บูคาโย่ ซาก้า หลุดเดี่ยวเข้าไปหวดเต็มข้อแต่ไปติดปลายมือ อาเดรียน ที่ออกมาปิดมุมดีปัดไว้ได้ แต่หลังจากนั้นก็มีเสียงสัญญาณนกหวีดจากผู้ตัดสินเหตุ ซาก้า อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้านั่นเอง
��� สองนาทีต่อมาเจ้าถิ่นมาได้ลูกฟรีคิกตรงเส้นข้างของกรอบเขตโทษจากจังหวะผิดพลาดของแผงหลังอาร์เซน่อล เซดริก โซอาเรส ทุ่มคืนย้อนไปให้ ดานี่ เซบายอส แต่ถูก ดีโอโก้ โชต้า เบียดแย้งบอลไปได้ทำให้ เซยายอส ต้องตัดฟาวน์ทันที
��� ต่อเนื่องจังหวะลูกฟรีคิก เจมส์ มิลเนอร์ เปิดบอลยัดเข้าไปแต่ถูก กาเบรียล มากัลเญส แข้งทีมเยือนโหม่งเคลียร์ออกไปพ้นเขตอันตรายอีกครั้ง
��� นาทีที่ 45+1 ลิเวอร์พูล ที่โหมบุกอย่างหนักน่าจะได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะเปิดบอลเกือบ 35 หลาของ เคอร์ติส โจนส์ เลยไปเสาสองให้� ดีโอโก้ โชต้า ได้ล้มตัวโหมงเต็มหัวระยะไม่ถึง 10 หลาบอลพุ่งแรงทำท่าจะเสียบเสาไกลแต่ แบร์นด์ เลโน่ โชว์เซฟพุ่งไปเอาไว้แต่บอลกลับไปเข้าทาง ทาคูมิ มินามิโนะ ที่ยืนอยู่ตรงนั้นพอดีได้กระโดแปด้วยเท้าซ้ายจ่อๆ แต่บอลเจ้ากรรมดันพุ่งไปชนคานอย่างจังกระดอนออกไปอย่างน่าเสียดาย นับว่าโชคยังเข้าข้างทัพปืนโตทำให้รอดพ้นการเสียประตูไป
��� หมดครึ่งเวลาแรก ลิเวอร์พูล ยังเสมอกับ อาร์เซน่อล อยู่ที่สกอร์ 0-0
��� มาลุ้นต่อครึ่งเวลาหลัง นาทีที่ 47 ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกทางฝั่งซ้าย แฮร์รี่ วิลสัน เปิดด้วยเท้าซ้ายมาเข้าหัว มาร์โก กรูยิช ที่ได้ขึ้นโขกเต็มๆ แต่กดไม่ลงบอลเหินข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
��� นาทีที่ 51 มีใบเหลืองที่สองของเกมคราวนี้เป็นทางฝั่งอาร์เซน่อลบ้างเมื่อ กรานิต ชาคา ไปดึง มาร์โก กรูบิช กลางสนามอย่างชัดเจน เลยเป็นการบังครับให้ เควิน เฟรนด์ ท่านเปานัดนี้คาดโทษไปตามระเบียบ
��� นาทีที่ 53 ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เจมส์ มิลเนอร์ เปิดบอลเลยไปฝั่งไกลเข้าหัว มาร์โก กรูยิช โหม่งย้อนมาให้ ฟาน ไดค์ ได้ตะวัดยิงด้วยเท้าขวาระยะประมาณ 8 หลา แต่เป็น แบร์นด์ เลโน่ ที่โชว์โคตรเซฟล้มตัวปัดไว้ด้วยปลายมืออีกครั้งทำเอา ฟาน ไดค์ ถึงกับออกอาการเสียดายแบบสุดๆ ในจังหวะนี้
��� นาทีที่ 57 ยังคงเป็นเจ้าถิ่นที่ครองเกมได้มากกว่าและโหมเกมรุกขึ้นมาอีกครั้งบอลมาอยู่ที่ ดีโอโก้ โชต้า ที่ใช้ความเร็วกระชากพาบอลลากหาเข้ากรอบเขตโทษปืนใหญ่ก่อนจะจิ้มยิงด้วยหัวเกือกเท้าขวาบอลไปโดนหลัง ร็อบ โฮลดิ้ง ออกหลังไปเป็นลูกเตะมุม
��� นาทีถัดมาทีมเยือนยังตั้งลำไม่ได้ทำให้ทัพหงส์แดงได้โอกาสอีกครั้ง เจมส์ มิลเนอร์ เปิดบอลทางฝั่งขวาเลยไปเสาไกลเข้าหัว� มาร์โก กรูยิช ที่ลอยตัวโขกเต็มๆ แต่บอลกลับไปเข้าข้างตาข่าย
��� นาทีที่ 70 เป็นทางอาร์เซน่อล หวิดได้ประตูออกนำบ้างจากจังหวะเปิดบอลทางฝั่งขวาของ นิโกล่าส์ เปเป้ เลยไปเข้าหัว ร็อบ โฮลดิ้ง ที่เติมขึ้นมาลอยตัวโขกโล่งๆ แต่ไม่ผ่านมือ อาเดรียน ที่โชว์หนึบล้มตัวทุบบอลในระยะเผาขนออกไปได้อย่างฉิวเฉียด
��� 6 นาทีถัดมาทัพปืนโตยังสร้างโอกาสได้ต่อเนื่อง โจ วิลล็อค เปิดบอลไปให้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ วิ่งเบียดแข้งหงส์แดงแล้วได้โฉบโหม่งแต่เจ้าตัวพยายามบังคับบอลหนีมือ อาเดรียน ส่งผลให้หลุดออกเสาไกลไปอย่างเสียวไส้
��� นาทีที่ 82 มิเกล อาร์เตต้า เทรนเนอร์ปืนใหญ่ตัดสินใจเปลี่ยน อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ ลงไปแทน เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ หวังเพิ่มความคมในจังหวะจบสกอร์
��� นาทีที่ 84 นิโกล่าส์ เปเป้ ทำเสียวไส้เมื่อเกี่ยวบอลลงในเขตโทษหงส์แดงและได้เอี้ยวตัวยิง แต่ด้วยหลักที่ไม่ดีทำให้บอลไม่ตรงกรอบ
��� นาทีต่อมาเป็นฝั่งเจ้าถิ่นที่ได้ตอบโต้กลับคือโดย เนโก้ วิลเลี่ยมส์ ที่เติมเกมขึ้นมากดเต็มข้อแถวๆ หน้ากรอบเขตโทษบอลพุ่งส่ายแต่ดันไปตรงตัว แบร์นด์ เลโน่ ที่ยังโชว์นิ่งเกมนี้รับไว้ไม่มีพลาด
��� เวลาที่เหลือต่างฝ่ายต่างเปิดเกมรุกเข้าหากันแต่ไม่มีทีมใดปิดสกอร์ได้จบเกมเสมอกันที่ผล 0-0 ทำให้ต้องหาผู้ชนะด้วยการดวลจุดโทษ
��� ผลการดวลจุดโทษปรากฏว่า อาร์เซน่อล แม่นกว่าเป็นฝ่ายเอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปด้วยผลสกอร์ 5-4 ส่งผลให้ทัพปืนโตผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ส่วนลิเวอร์พูล น้ำตาตกร่วงตกรอบไปตามระเบียบ
��� รายชื่อนักเตะที่ยิงจุดโทษมีดังนี้
��� ลิเวอร์พูล� :
��� คนที่ 1. เจมส์ มิลเนอร์ (เข้า)
��� คนที่ 2. จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม� (เข้า)
��� คนที่ 3. ทาคูมิ มินามิโนะ� (เข้า)
��� คนที่ 4. ดิว็อค โอริกี้ (ไม่เข้า)
��� คนที่ 5. เคอร์ติส โจนส์ (เข้า)
��� คนที่ 6. แฮร์รี่ วิลสัน (ไม่เข้า)
��� อาร์เซน่อล :
��� คนที่ 1. อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์� (เข้า)
��� คนที่ 2. เซดริก โซอาเรส (เข้า)
��� คนที่ 3. โมฮาเหม็ด เอลเนนี (ไม่เข้า)
��� คนที่ 4. เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส (เข้า)
��� คนที่ 5. นิโกล่าส์ เปเป้ (เข้า)
��� คนที่ 6. โจ วิลล็อค (เข้า)
�������� รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
��� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อาเดรียน - เนโก้ วิลเลี่ยมส์, รีส วิลเลี่ยมส์, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ (โจ โกเมซ น.61), เจมส์ มิลเนอร์ - มาร์โก กรูยิช, เคอร์ติส โจนส์, แฮร์รี่ วิลสัน - ดีโอโก้ โชต้า (จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม น.76), ทาคูมิ มินามิโนะ, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ดิว็อค โอริกี้ น.61)
��� เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์
��� อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : แบร์นด์ เลโน่,� เซดริก โซอาเรส, ร็อบ โฮลดิ้ง, กาเบรียล มากัลเญส , เซอัด โคลาซินัช - กรานิต ชาคา, โจ วิลล็อค -� บูคาโย่ ซาก้า (เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส น.86), ดานี่ เซบายอส (โมฮาเหม็ด เอลเนนี น.68), นิโกล่าส์ เปเป้ - เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ (อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ น.82)
��� เทรนเนอร์ : มิเกล อาร์เตต้า
��� ผู้ตัดสิน : เควิน เฟรนด์