����� ไรอัน กิ๊กส์ อดีตยอดดาวเตะของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก้มหน้ารับ กลัวว่า "ปีศาจแดง" ต้องรอนาน 20 ปีก่อนที่จะได้สัมผัสกับแชมป์ลีกอีกรอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเกิดกุนซืออย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ กับ โจเซป กวาร์ดิโอล่า ยังทำงานอยู่ใน พรีเมียร์ลีก
��� ไรอัน กิ๊กส์ ตำนานปีกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่า "ปีศาจแดง" อาจจะต้องรอนานถึง 20 ปีกว่าที่จะได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกครั้ง เหมือนอย่างที่ ลิเวอร์พูล เคยเจอ
��� แมนฯ ยูไนเต็ด เคยครองความยิ่งใหญ่ในเกาะอังกฤษเป็นเวลานานจนถึงขั้นได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ถึง 13 สมัย (ถ้านับรวมกับตอนที่ลีกสูงสุดใช้ชื่อ ดิวิชั่น 1 จะเป็นแชมป์ 20 สมัย) แต่พวกเขาก็ไม่ได้แชมป์ลีกอีกเลยนับตั้งแต่ฤดูกาล 2012-13 เป็นต้นมา แถมพักหลังมานี้ผลงานโดยรวมก็ถือว่าน่าผิดหวังจนทำให้หลายคนมองว่ามันเข้าสู่ยุคตกต่ำของทีม
��� ในทางกลับกัน ลิเวอร์พูล กำลังอยู่ในช่วงรุ่งสุดขีด เพราะเมื่อซีซั่นก่อนพวกเขาได้แชมป์ลีกไปครอง จนทำให้มันถือเป็นแชมป์ลีกสมัยแรกของพวกเขาในรอบ 30 ปี ขณะที่ในฤดูกาล 2018-19 ทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปเชยชมด้วย
��� ทั้งนี้ กิ๊กส์ เพิ่งไปร่วมรายการพ็อดแคสต์ของ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ตำนานกองหลังของ ลิเวอร์พูล และพอโดน คาร์ราเกอร์ ถามว่าเขากังวัลว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องรอนานเหมือน ลิเวอร์พูล หรือไม่กว่าที่จะได้แชมป์ลีกอีกครั้งนั้น อดีตดาวเตะชาวเวลส์ก็ตอบว่า "กังวลสิ กังวลแบบ 100 เปอร์เซ็นต์เลย� มันอาจจะต้องใช้เวลา 15 ปีหรือ 20 ปีเลยก็ได้กว่าที่พวกเขาจะได้แชมป์อีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหาก (เจอร์เก้น) คล็อปป์ กับ (เป๊ป) กวาร์ดิโอล่า ยังทำงานกันที่นี่ พวกเขามีทั้งเงินและนักเตะที่ดีหลายคน ดังนั้นเราเลยต้องย้อนไปดู ลิเวอร์พูล ในครั้งล่าสุดก่อนหน้านี้ที่พวกเขาได้แชมป์ลีกเมื่อปี 1990 เป็นตัวอย่าง สมัยนั้นพวกเขาเองก็เชื่อกันอย่างเต็มเปี่ยมว่า -เราจะได้แชมป์ลีกอีกครั้งในเร็วๆ นี้แน่นอน-"
��� "ขนาดคนอย่าง คล็อปป์ ยังต้องใช้เวลา 4 ปีครึ่งกว่าที่จะได้แชมป์ลีกเลย มันใช้เวลานานมาก ผมคิดว่าสิ่งที่ คล็อปป์ ทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ทีมเก่งขึ้นในทุกๆ ฤดูกาล หรือได้แชมป์ลีก, ได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก น่ะ มันก็แสดงให้เห็นว่าเขาทำให้ทีมมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ดังนั้นความกดดันมันเลยลดลงนิดหน่อย ในขณะที่กุนซือ (คนอื่นๆ) ทุกคนและการเสริมทัพทุกรายถูกมองว่า -เขาจะทำให้เราได้แชมป์ลีกแน่นอน- แต่สุดท้ายมันก็ไม่ใช่อย่างนั้น"