������ "หงส์แดง" ยังเดินหน้าทำสถิติในลีกไม่แพ้ในบ้านเป็นเกมที่ 64 ติดต่อกัน หลังปราบ เลสเตอร์ ซิตี้ 3-0 จอนนี่ อีแวนส์ ยิงเข้าประตูตัวเอง ก่อนที่ ดีโอโก้ โชต้า และโรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ จะช่วยกันยิงพาทีมซิวสามแต้มมีเพิ่มเป็น 20 คะแนน แม้แต้มจะเท่ากับจ่าฝูง สเปอร์ส แต่ลูกได้เสียยังเป็นรอง ทำให้รั้งอันดับ 2 ส่วนเลสเตอร์รั้งอันดับ 4 ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
����� สนาม : แอนฟิลด์
��� เกมพรีเมียร์ลีก วีกที่ 9 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เป็นบิ๊กแมตช์ระหว่าง ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์รับ เลสเตอร์ ซิตี้ ผลงานล่าสุดของทั้งสองทีม "หงส์แดง" เกมที่แล้วบุกไปแบ่งแต้มจาก แมนฯซิตี้ 1-1 ขณะที่ "จิ้งจอกสยาม" เปิดบ้านเฉือน วูล์ฟส์แฮมป์ตัน 1-0 ซึ่งเกมนี้หากลูกทีมของ เบรนแด้น ร็อดเจอร์ส บุกมาคว้าชัยได้จะแซงขึ้นนำจ่าฝูงอีกครั้ง แต่หาก "หงส์แดง" คว้าชัยจะมีเพิ่มเป็น 20 คะแนนเท่ากับ สเปอร์ส ทันที
��� เจ้าถิ่นเกมนี้ไร้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ยังโดนกักตัวหลังติดจากเชื่อโควิด-19 สามแนวรุกเป็น ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และดีโอโก้ โชต้า โดยแดนกลางยังไร้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ที่ยังเจ็บ ส่วนทางฝั่ง เลสเตอร์ วาง เจมี่ วาร์ดี้ เป็นทีเด็ด โดยมี เจมส์ แมดดิสัน และฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ สนับสนุน
��� เริ่มเกมมาแค่ นาทีเศษๆ ซาดิโอ มาเน่ จ่ายคืนหลังให้ นาบี เกอิต้า ซัดนอกกรอบไปชนหัว ยูริ ตีเลม็องส์ ออกหลังเป็นเตะมุม ก่อนจังหวะต่อเนื่อง เจมส์ มิลเนอร์ จะเปิดมาเสาแรกให้ มาเน่ ขึ้นโขกเบียดเสาแรกเข้าข้างตาข่าย
��� นาที 9 ลิเวอร์พูล ยังครองเกมรุกได้เหนือกว่า คราวนี้ได้ลุ้นจากจังหวะที่ นาบี เกอิต้า จ่ายต่อให้ เคอร์ติส โจนส์ ตะบันด้วยขวาเน้นๆ แต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล
��� นาที 13 เจ้าบ้านพลาดโอกาสทองขึ้นนำหลัง 3 ประสาน "หงส์แดง" อย่าง ซาดิโอ มาเน่ ไหลเข้ากลางให้ ฟีร์มีโน่ ก่อนจะจ่ายต่อให้ โชต้า ดึงจังหวะหนีแนวรับจิ้งจอกแล้วกดด้วยขวาไปติดเซฟ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล
���� กระนั้น นาที 21 ลิเวอร์พูล มาชิงขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะลูกคอนเนอร์ทางฝั่งขวา เจมส์ มิลเนอร์ เปิดมาเสาแรก จอนนี่ อีแวนส์ แย่งชิงโขกได้แต่บอลผิดเหลี่ยมเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเอง กลายเป็นทำเข้าประตูตัวเองไป
��� นาที 24 เลสเตอร์ ซิตี้ เกือบทวงประตูคืนทันควัน หลัง เจมี่ วาร์ดี้ จ่ายเนียนๆให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ กดด้วยขวาบอลพุ่งหลุดกรอบออกไปแบบได้เสียว
���� นาที 33 เจ้าบ้านมาได้ลุ้นฟรีคิกนอกกรอบเยื้องทางมุมธง อนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดมาเสาไกลให้ โฌเอล มาติ๊ป โขกย้อนไปเสาแรก แม้โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ พยายามตามชาร์ทแต่ไม่ทันบอลออกหลังอย่างน่าเสียดาย
��� นาทีต่อมา "จิ้งจอกสยาม" ได้เสียวบ้าง บอลมาเข้าเท้า เจมส์ จัสติน ได้โอกาสปั่นนอกกรอบบอลโค้งไปเสาสองก่อนถากเสาออกไปชนิดหวุดหวิด
���� นาที 38 ซาดิโอ มาเน่ เกือบยิงเม็ดที่สองให้เจ้าถิ่น หลังแต่งบอลก่อนซัดด้วยขวาไปติดบล็อค เวสลี่ย์ โฟฟาน่า ก่อนบอลไปเข้ามือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล
��� นาที 41 "หงส์แดง" มาได้เม็ดที่สองหนีห่างเป็น 2-0 จนได้ จากจังหวะเข้าทำกันสุดสวย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แตะหลบก่อนครอสเร็วไปในกรอบให้ ดีโอโก้ โชต้า โฉบมาเช็ดบอลผ่านตัว� แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เข้าไป เป็นประตูที่ 4 ในซีซั่นนี้
��� จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ เลสเตอร์ 2-0
��� ครึ่งหลัง นาที 46 หงส์ได้ลุ้นต่อเลย� แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดบอลมาให้ ดีโอโก้ โชต้า, ซัดด้วยขวาแต่บอลหลุดกรอบออกไป อีก 2 นาทีถัดมา เลสเตอร์ ได้สวนกลับบ้าง เจมส์ แมดดิสัน ไหลให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ลองกดด้วยซ้ายแต่บอลยังไม่ผ่านมือ อลิสซอน เบ็คเกอร์
��� นาที 54 "หงส์แดง" เปลี่ยนตัวคนแรกถอดเอา นาบี เกอิต้า ที่มีอาการบาดเจ็บออกแล้วส่ง เนโก วิลเลี่ยมส์ ลงไปเล่นแทน
��� อีกนาทีต่อมา เจมส์ มิลเนอร์ ที่หุบมาเล่นกลางแทงบอลทะลุให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้บอลหลุดเข้าไปซัดติดมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล แม้ดีโอโก้ โชต้าพยายามตามซ้ำแต่โดน คริสเตียน ฟุ๊คส์ โขกเคลียร์บอลออกหลังหวุดหวิด
��� นาที 57 จิ้งจอกสยามรอดเสียประตูที่สามอีกครั้ง หลัง โชต้า ซัดเสาแรกไปติดมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล บอลไหลมาเข้าทาง โชต้า อีกหนคราวนี้ลองเปิดมาเสาแรกบอลก็ยังไปติดมือ ชไมเคิ่ล ก่อนปลิ้นไปเข้าทาง ฟีร์มีโน่ โขกซ้ำแต่บอลไปชนเสา
��� นาที 76 "หงส์แดง" ชวดได้เม็ดที่สามอย่างน่าเสียดาย คราวนี้ โชต้า แทงบอลทะลุให้ ฟิร์มิโน่ หลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ ชไมเคิ่ล แต่ดันยิงไปชนเสาบอลกระดอนมาเข้าทาง มาเน่ ซัดไปติดเซฟของ ชไมเคิ่ล ก่อนบอลปลิ้นไปชนเสากระดอนมาเข้ามือนายด่านเลสเตอร์
��� นาที 84 ซาดิโอ มาเน่ กระชากตัดเข้ากลางมาหน้ากรอบ ก่อนตะบันด้วยขวาเต็มแรง แต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ที่เซฟไว้ได้อีก
��� กระนั้นอีก 2 นาทีถัดมา ลิเวอร์พูล มานำห่างเป็น 3-0 จนได้ บอลจากลูกเตะมุมของ เจมส์ มิลเนอร์ เปิดมาให้ โรเบอร์โต้ ฟีร์มีโน่ โขกเข้าไป เป็นประตูที่ 2 ของเจ้าตัวในซีซั่นนี้
��� จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 3-0 ทำสถิติไม่แพ้เกมที่แอนฟิลด์ในลีกเป็นนัดที่ 64 ติดต่อกัน มีเพิ่มอีกสามแต้มเป็น 20 คะแนนเท่ากับจ่าฝูง สเปอร์ส ทว่าลูกได้เสียหงส์แดงเป็นรองทัพไก่อยู่เยอะทำให้รั้งอันดับ 2 เท่านั้น ส่วน เลสเตอร์แพ้เป็นเกมที่ 3 ของฤดูกาล รั้งอันดับ 4 มี 18 คะแนนเท่าเชลเซีแต่ลูกได้เสีย "สิงห์บลูส์"ดีกว่าจึงรั้งอันดับ 3 แทน
���
������ รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
������� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เจมส์ มิลเนอร์, โฌเอล มาติ๊ป, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - นาบี เกอิต้า (เนโก้ วิลเลี่ยมส์ น.53), เคอร์ติส โจนส์, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม - ดีโอโก้ โชต้า (ดิว็อค โอริกี้ น.89), โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่ (ทาคูมิ มินามิโนะ น.89)
������� ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์
������� เลสเตอร์ (3-4-2-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, จอนนี่ อีแวนส์, คริสเตียน ฟุ๊คส์ (เดนนิส ปราต น. 62) - เจมส์ จัสติน, ยูริ ตีเลมันส์, นัมปาลิส เมนดี้, มาร์ค อัลไบรท์ตัน - เจมส์ แมดดิสัน, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ (เชนกีซ อุนเดอร์ น.62) - เจมี่วาร์ดี้
������� ผู้จัดการทีม : เบรนแด้น ร็อดเจอร์ส
�������� ผู้ตัดสิน : คริส คาวานาฟ